เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมาชลัญก็ได้ออกนิเทศติดตามงานดูแลผุ้ป่วยโรคเรื่อรัง ทีมที่ออกก็ประกอบด้วย แพทย์อธิคม ชลัญธร และเภสัชกรธัญวรัชญ์ ทีมเดิมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ซึ่งเป้าหมายในครั้งนี้ เป็นโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รังกาใหญ่ และ หนองจิก สำหรับ 2 แห่งนี้ ชลัญและแพทย์ อธิคม ไม่ต้องห่วงเรื่องการบริการในสถานบริการมากเพราะศักยภาพของบุคคลากร เรียกว่าเกือบ 100 % เพียงแนะนำเพิ่มเติมเล็กน้อยในส่วนขาด แถมซึค่งเชื่อว่าบุคคลากรจะสามารถต่อยอด งานได้แน่
แห่งแรกที่เราเดินทางไปเยี่ยมคือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล รังกาใหญ่ เราก็ได้นั่งทักทายพูกคุยปัญหากันเล็กน้อย ในการดูแลผู้ป่วย ผู้รับนิเทศ คือ น้องสิริพรรณ เนียมหมื่นไวย์ หรือน้องบี นิสิตปริญญาโท ม.ขอนแก่นภาคเสาร์อาทิตย์ ขยันจริงๆ น้องมีความตั้งใจในการทำงานสูง ทั้งทางวิชาการ การบริการเรียกว่าสมบูรณืแบบทีเดียว การไปครั้งนี้ น้อง บี ได้จัด case ผู้ป่วยที่ไม่ยอมมารับการรักษาที่ สถานบริการ 2 case
case แรก เป็นคุณยาย โรคควาวดันโลหิตสูง เมื่อ 2 เดือนก่อนมีอาการ เหนื่อยหอบ ไปตรวจที่ รพ.เอกชน พบก้อนที่ปอด แต่ไม่ยอมไปรักษาต่อ บอกไม่มีใครว่างพาไป น้องบีจึงอยากให้หมอลงไปดู และพูดคุยกับญาติให้
เมื่อไปถึงพบคุณยายนั่งบนแคร่ ดูไม่เหนื่อยมาก แต่ฟังปอดได้เสียงเบาๆ หนึ่งข้าง แสดงถึงว่า น่าจะมีสิ่งที่อยู่ในปอดทำให้เนื้อปอดมีพื้นที่ น้อยลง ด้วยศักยภาพของแพทย์ ในการพูดคุยกับญาติและคำมั่นสัญญาในการให้ความสะดวกในการเข้ามารับบริการทำให้ญาติรู้สึกสบายใจขึ้นเพราะการไปรอคิวที่ รพ.นานๆ นั้นประกอบกับภาระในการดูแลหลานอีกคนทำให้ญาติเครียดที่จะต้องพาผู้ป่วยเข้าไปรับการรักษาที่ โรงพยาบาล แต่ทั้งนี้ผู้ป่วยรายนี้ก็คงต้องได้รับดารส่งต่อไปรักษาต่อที่ รพ.มหาราช นั่นก็คงเป็นปัญหาในการแก้ต่อไปของญาติซึ่งรับปากว่าจะพาผู้ป่วยเข้าไปที่ รพ.แล้ว
Case ที่ 2 นั้น เป็นคุณยายวัย 84 ปี เดินไม่ได้ ตาบอดอยู่บ้านคนเดียวในตอนกลางวัน เป็นโรคความดันโลหิตสูงที่ ไม่มีคนพาไปรับยามา 1 เดือน
เมื่อสอบถามประวัติต่างๆ นั้นผุ้ดุแลเป็นลุกสาวซึ่งอยู่บ้านคนละหลัง กลางคืนถึงจะมานอนเป็นเพื่อน ส่วนยาที่เราไปพบ เหลือมากแสดงว่า ยาไม่ได้รับประทานเลย หรือรับประทานผิด ลูกสาวยายก็บอกว่าให้ยายกินเอง ถามก็บอกว่ากินแล้วจึงไม่ได้ดู อนิจจาคนตาบอด กินยาเอง มีหรือจะกินถูก แถมเดินไม่ได้ ต้องคลาน แพทย์แนะนำให้ทำผ่านุ่มๆมารองเข่ายาย เพราะตรวจดูน่าจะมีปัญหากระดูกเอวทับเส้นประสาท ทั้ง 2 ขา และขาก็อ่อนแรงหมดแล้ว การผ่าตัดคงไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้น ตรวจพบ ความดันโลหิต 210/110 mmHg แพทย์จึงให้เพิ่มยาให้ยาย และบอกน้องบีว่า อาจรับได้ที่ความดันสสูงกว่าปกติหน่อย ไม่เกิน 160/100 mmHg จากนั้นสอนน้องบีตรวจร่างกาย ซึ่งก็ทำให้พบปัญหาใหม่ คือ โรคหัวใจ แพทย์ จึงแนะนำการเฝ้าระวังภาวะหัวใจล้มเหลว คงทำอะไรไปมากกว่านี้ไม่ได้
ยาคงเป็นทางเดียวที่จะช่วยยายได้
เมื่อเสร็จสิ้นการเยี่ยมทั้ง 2รายนี้เราก็มาสรุปผลที่ รพ.สต.ซึ่งได้รับการเลี้ยงอาหารกลางวันที่แสนอร่อย ชลัญแสนจะอิ่มเปรม แบบอร่อยจังตังค์อยู่ครบ ก่อนจะเดินทางไปนิเทศ รพ.สต.หนองจิกต่อไป
ชื่อชมการทำงานของ น้องๆ พี่ๆ ที่ รพ.สต.เรียกว่าเข้าถึงชุมชน รู้ปัญหาครบด้านสำหรับหารแก้ปัญหานั้นก็มีการวางแผนไว้อย่างเหมาะสม เป็นโชคดีของชุมชนนี้ที่มีเจ้าหน้้าที่ใส่ใจการรักษา ดูแลสุขภาพของคนในชุมชน แต่เนื่องจากปัญหาสาธารณสุขมีมาก บุคคลากรในพื้นที่ยังขาดแคลน หากรัฐจะหันมามองการส่งเสริมสุขภาพในชุมชนให้จริงจัง ก็คงลดปัญหาโรคเรื้อรังในอนาคตได้มาก ......... ขอให้กำลังใจพี่ๆ น้องๆ ทุกท่านก็แล้วกันค่ะ
ชลัญธร ตรียมณีรัตน์
เดี่๋ยวมีตอนต่อไป อีก รพ.สต.ค่ะ
ชื่นชมกับทีมงานมากครับ...สุดยอดเช่นเคยครับ
งานใน-งานนอกสถานบริการเยอะแยะไปหมดนะคะน้องชลัญ เป็นกำลังใจให้ค่ะ