ความอัดอั้นตันใจของลุงก้อม


“การคอรัปชั่น ต้อง ดูกันตั้งแต่ระดับย่อย ๆ ครั้งละเล็กละน้อย หลาย ๆ ครั้ง มันก็คือบ่อนทำลายชาติ ถึงจะเล็กจะน้อย ก็ทำให้ชาติย่อยยับเหมือนกัน เหมือนกับเครื่องยนต์ น็อตตัวเล็ก ๆ ตัวเดียวหลุด ก็อาจจะทำให้เครื่องจักรกลใหญ่ ๆ ย่อยยับไปได้เช่นกัน การคอร์รัปชั่น จะเล็กจะน้อย ก็สำคัญเท่ากัน ทำลายชาติเช่นกัน..

ความอัดอั้นตันใจ

ของลุงก้อม

 

        “ผู้อ่านท่านใดเป็นคนที่มองโลกในแง่ดีด้านเดียว มิควรอ่านบันทึกนี้ เพราะมันจะเป็นการมองโลกในแง่ร้ายมากสำหรับความรู้สึกของท่าน แต่ผมกลับเรียกว่า มองโลกตามสภาพจริง ที่เป็นสัจธรรมที่เรามีโอกาสพบเจอกันได้ทุกคน” (wasawat Deemarn: “คนโกง”อยู่ที่ไหนมันก็โกง”คนเลว”อยู่ที่ไหนมันก็เลว”)

 

        ขอนุญาต นำข้อเขียนบางส่วน ของท่าน wasawat Deemarn จากบันทึก “คนโกง” อยู่ที่ไหนมันก็โกง “คนเลว”อยู่ที่ไหนมันก็เลว” มาเปิดเรื่องครับ

        ...ความอัดอั้นตันใจ ของลุงก้อม ที่พกไว้ในใจ มานานจึงมำมาระบายให้ลุงจุ้มฟัง ขณะทั้งสอง นั่งประจัญหน้า ห่างกันเพียง กระดานหมากรุก ลุงก้อม เป็นครูบำนาญ ในเพื่อนฝูงเรียก บักก้อม เพราะ แกเป็นคนอ้วน นิ้วมือสั้น ๆ ภาษาอีสาน เรียกมือก้อม เขาจึงเรียกแกว่า ลุงก้อม แกมีชื่อจริงว่า ครูวันดี สิ้นธงใส

        ลุงก้อมถอนหายใจ มือก็ขยับหมากไปพลาง  “...เพราะอบรมมาจากที่เดียวกัน ถูกเป่าหัว ถูกหลอม มาจากเบ้าเดียวกัน จึงทำให้ผู้บริหารโรงเรียน ที่เรียกว่า ผอ. เหมือนกันแทบทุกโรง คือขาดวิสัยทัศน์ ขาดการคิดวิเคราะห์ ไม่สร้างสรรค์ ไม่เป็นตัวของตัวเอง ชอบลอกเลียนแบบกัน” แก่จิบน้ำชา ลงคอ ...แล้วผู้เฒ่าก็ ป้อนคำถามให้ลุงจุ้ม

        “แก่ว่าไหม”

         ลุงจุ้มเป็นเพื่อนกับ ลุงก้อม ลุงจุ้ม เป็นราษฎร ชื่อจริง นายไกรเกรียง แผ่นสำดาน แก่เป็นคนท้วม เวลาเดิน หัวเข่า จะเบียดกัน คนอีสานเรียก ขาจุ้ม ในเพื่อนฝูงรุ่นเดียวกันจึง เรียก บักจุ้ม

         “... การศึกษาของชาติ จะเปลี่ยนแปลงอย่างไร รับรองไม่พัฒนา รอจนกว่าไอ้ พวกที่จบจากวัดไร่ข่า ไร่ตะไคร้ จะหมดไป การศึกษาไทยจึงจะก้าวไกล ให้อำนาจมากเกินไป เอาเฉพาะวิชาการให้ดีก็พอ อาคารสถานที่น่าจะเป็นของเจ้าหน้าที่โดยตรง ถึงจะโปร่งใส สถาบันที่ผลิตผู้บริหารน่าจะมีหลาย ๆ แห่ง จะได้เกิดการเปรียบเทียบ ว่าใครจบมาจากที่ไหนจะแน่กว่ากัน...” ลุงก้อม พูดด้วยประสบการณ์

        “ครูที่ตั้งใจสอน ไม่รับงานจร มุ่งมั่นทุ่มเท อย่าหวังจะก้าวหน้ามองไม่เห็น พวกที่ประจบ ซูฮก ทิ้งงานสอนรับงานจร เสนอหน้า ผอ. ได้ดิบได้ดี โดยเฉพาะ ครูสอนวิชาทางด้านศิลป์ วาดรูป ตกแต่งรถ ขบวนแห่ สถานที่ใน โอกาสสำคัญ ๆ ครูผู้หญิงก็จะจับผ้า ประดับประดา เป็นดอกไม้ งดงามถูกใจ ผอ. ไม่สอนเด็กไม่เป็นไร ผลงานออกมาเป็นรูปธรรม พวกสอนวิชาการ แห้ว” ลุงก้อมเล่นภาษาวัยรุ่น

        “ เพราะผลสัมฤทธิ์เกิดยาก” ลุงก้อม มากด้วยประสบการณ์ แต่ลุงจุ้ม งง

        “ สู้พวกเห็นแก่ประโยชน์ตนไม่ได้เพื่อนฝูงจะเป็นอย่างไร ไม่สนใจ  เชื่อไหมแกเชื่อไหม จุ้ม .. พวกใกล้ชิด ไปไหน มาไหน ไม่เคยลา ซ้ำใช้รถของราชการ ไปใช้ส่วนตัวเพื่อไปขนยา มาบำบัดตัวเอง...”

        “ยาอะไร ขนเป็นรถ ๆ เอามาขายไง” ลุงจุ้มสอดด้วยสงสัย สายตาจ้องที่กระดาน หมากรุก

        “ เขาเรียกยาหรือเปล่า ที่ใช้ฟอกไต” ลุงก้อมตอบทันที แล้วก็พรึมพร่ำต่อ 

        “เวลานั่งทำงาน นั่งหลับ เพราะฤทธิ์ยา หมดสมรรถภาพในการทำงาน  แต่ได้ความดีความชอบ ปีเว้นปี เพราะใกล้ชิด ประเภท “ฟ้องนาย ขายเพื่อน” ลุงก้อมตบท้าย

        ลุงก้อมจิบน้ำชาลงคอ แล้วเล่าต่อ  “ยึดตัวเอง การทำงานเหมือนเป็นทีม แต่อัตตาสูง ไม่ฟังความคิดเห็นคนอื่น คนอื่นเสนอความคิดเห็นไม่ฟัง เผด็จการไปหมด”

        ลุงก้อมถอนหายใจแล้วก็เริ่มต่อ

         “ ใครที่เสนอแนะในที่ประชุม ใช้หลักฐานอ้างอิง เชิงวิชาการรู้ทัน ถูกสกัดกั้น ไม่ได้เกิด ใช้ตำแหน่ง ผอ.บังคับ”

        “นั่งลง ผมเป็น ผอ. คุณนั่งลง” “ไหว้ผมไม่ได้หรือ ผมเป็น ผอ.”  ลุงก้อมยกถ้อยคำที่แกเคยได้ฟังในที่ประชุม เมื่อครั้ง ยังเป็นครู

“ถ้าฉันเป็น ผอ. ฉันจะย้อนดูตัวเองว่า ทำไมเขาไม่ไหว้เรา...” ลุงจุ้ม นานๆจะพูด  

ลุงก้อมหันมายิ้มกับลุงจุ้ม แล้วก็เล่าต่อ ลุงจุ้ม ได้แต่ พ่นยาสูบ ควันโขมง ฟังลุงก้อมเล่า เข้าใจบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง เพราะแก ไม่ได้เป็นครู

        “เวลาพูดกับเพื่อน รุ่นเดียวกัน หรือ กับใคร ๆ ก็ตาม มักใช้ คำแทนตัว หรือ สรรพนาม (ลุง จุ้มทำหน้า งง) ว่า “ผอ.” จนเพื่อรุ่นเดียวกัน เอือม ระอา อยากถามนัก ตำแหน่ง ผอ. มันใหญ่นักหรือ คนเบื่อก็มี คนที่เขาไม่ปลื้มกับยศฐาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่ง ใช่ว่าเขาโง่ ใช่ว่าเขาไม่เก่ง ใช่ว่าไม่มีความสามารถ เขาอาจมีมากกว่าที่คุณมีหลายเท่า อย่าบ้าอำนาจมากเกินไป....” ลุงก้อมเล่าอดีต “เพื่อนครู น้อง ๆ เขาบ่นกัน”

        “ยังมีอีกนะจุ้ม  ...ก่อนจะประชุมคณะครู จะเรียกครูที่เป็นขณะกรรมการที่ปรึกษา ประชุมก่อน เพื่อเป็นข้ออ้าง ว่าได้หารือกับคณะกรรมการแล้ว แต่ไม่ใช่ แม้แต่คณะกรรมการ เสนอก็ไม่ฟัง ฉัน เข้าสองครั้ง ฉันไม่เข้าอีกเลย ไม่อยากตกเป็นเครื่องมือ เพื่อที่เขาจะไป แอบอ้าง โกหกเพื่อนครูของฉัน ว่าได้มาจาก เป็นมติของกรรมการแล้ว แต่พวกขุนพลอยพยัก ก็จะเป็นหอยลอยตามคราด จนได้ดิบได้ดี จากนั้น...ฉันไม่ได้เกิด จน เกษียณ..นี่แหละจุ้ม ”

         ลุงก้อมเล่าให้ลุงจุ้มฟังด้วยดวงตาที่ขุ่นเคืองนิด ๆ ลุงก้อมเคยเป็นที่ปรึกษา ผอ. ในครั้งนั้น

        “..แต่ฉันไม่เคยทิ้งงานสอน ตลอดชีวิตที่เป็นครู ฉันไม่ชอบงานจร ไม่ใช่ไม่มีความสามารถ ทิ้งเด็กไม่ได้ ทำไม่ได้เหมือนพวกรับงานจร ที่ทิ้งงานจริง นั่นคือ ทิ้งเด็กในเวลาสอนไปทำงานเสนอหน้า...”ลุงจุ้ม นั่งพ่นบุหรี ฟังลุงก้อม

        “...แกทำบาปอะไร ถึงไม่ได้เกิด..” ลุงจุ้ม สอดขึ้น

         “เปล่า..ไม่ได้ความดี ความชอบ..เขาเรียก สองขั้น..จึงไม่ได้เกิด” ลุงก้อมอธิบาย

       “...อือ ๆ..”ลุงจุ้ม เหมือนเข้าใจ

 

        “...ผอ. บางคนที่ได้มาซึ่งตำแหน่ง ต้อง วิ่งเต้น หมดเงิน หมดทองมาก บางคนต้องยอมเป็น ทาสของนักการเมือง ถึงจะได้ตำแหน่งมา น่าเวทนา”

 

           “ไม่ไปสอบ ผู้บริหารหรือ”  “น้อง ๆ ถาม..”  “ฟังแล้ว อยากเอาน้ำล้างหูเลยล่ะจุ้ม” ลุงก้อมเล่าต่อ

          “เป็น ผอ. ไม่สนับสนุนวิชาการ เน้นกิจกรรม ไม่ค่อยให้ความสำคัญด้านวิชาการ ที่สำคัญเน้นสถานที่ ทิ้งงานวิชาการ เพราะเห็นผลตอบแทนทันตา ไม่ใช่ผลสัมฤทธิ์ แต่เป็นผลสำราญ ค่าตอบแทนจาก ผู้รับเหมา จากร้านค้า อีกไม่นาน คงเป็นโรคกระเพาะ เพราะ ปูน หิน ทราย สมุด หนังสือจะกัดกระเพาะ เชื่อไหม มีผู้รับเหมาประจำโรงเรียน ไม่มีการประกาศ หน้าเดิมตลอดปี น่าคิด น่าห่วงใย แถมลงมาควบคุมการเงินเอง โอ้พระเจ้า มีที่ไหน หรือที่สถานศึกษาใดมี ผอ. มากุมอำนาจ การเงินเอง เห็นแต่เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยว ที่ไหนมีบอกด้วย...จุ้มเอ๊ย...”

        “...แม้แต่ค่าหัวที่รัฐช่วยเหลือยังโกง  นักเรียนไม่มีตัวตน  ครูผู้สอนเสนอชื่อให้ออก ก็ไม่ยอมบางคนมีครอบครัวไปแล้ว เมื่อไม่มาเรียน คะแนนก็ไม่มี ส่งผลกระทบต่อครู ถือเป็นสิ่งประพฤติชั่วของครูผู้สอน บอกว่า ครูคนใดยังมี 0 ร ม.ส . แก่นักเรียน ผมไม่พิจารณาความดีความชอบ เขาพูดในที่ประชุมเลยจุ้ม ครูที่เห็นแก่ได้ก็จะแก้ ผลการเรียนให้ทันที บางกลุ่มสาระ เพิ่มให้ดื้อ ๆ จาก 0 เป็น 1 จาก 1เป็น 2 เพื่อให้ผลสัมฤทธิ์สูงเป็นการเอาใจเจ้านาย ส่งผลความดีความชอบให้ตน ผลสมัฤทธิ์ในกลุ่มสาระสูงจริง ๆ สูงกว่า ทุกกลุ่มสาระ แต่ผลสอบ O-net ต่ำกว่ามาตรฐาน ต่ำกว่ากลุ่มสาระอื่น ๆ หารู้ไม่ว่า กำลังฆ่านักเรียน ฆาตกรทางการศึกษา...”   ลุงก้อม ทบทวนความหลังอย่างพรั่งพรูไม่สนใจว่า ลุงจุ้ม จะเข้าใจ O-net หรือไม่

        “...ผู้ที่ตั้งใจสอน ผล 0 ร มส. ก็เป็นเวรกรรม ถือเป็นสิ่งประพฤติชั่วของครู แล้วจะแก้อย่างไร ก็เด็กไม่มา ครูก็สงสัย เป็นนโยบาย ของกระทรวงหรืออย่างไร พฤติกรรมแบบนี้ เหมือนกันแทบทุกโรงจากเสียงสะท้อนของครู... ผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวง รู้หรือไม่รู้ หรือเคยชั่วมาก่อนแล้ว...เหมือนกัน...”ลุงก้อมหันมาจองหน้า ลุงจุ้ม

        ลุงก้อมถอนหายใจ แล้วเล่าต่อ “... แม้แต่การซื้อวัสดุอุปกรณ์บางครั้งไม่ผ่านพัสดุ เจ้าหน้าที่พัสดุ ก็เป็นลูกศิษย์ฉันนี่แหละ จุ้ม  ก็มานั่งบ่น ให้ฟัง ป.ป.ช. น่าจะตรวจสอบ ผอ.ของแต่ละโรงเรียน ฉันว่า ไม่รอดแน่ ในแต่ละโรง โดยเฉพาะ ผอ.ทางภาคอีสาน...”

        “การคอรัปชั่น ต้อง ดูกันตั้งแต่ระดับย่อย ๆ ครั้งละเล็กละน้อย หลาย ๆ ครั้ง มันก็คือบ่อนทำลายชาติ ถึงจะเล็กจะน้อย ก็ทำให้ชาติย่อยยับเหมือนกัน เหมือนกับเครื่องยนต์ น็อตตัวเล็ก ๆ ตัวเดียวหลุด ก็อาจจะทำให้เครื่องจักรกลใหญ่ ๆ ย่อยยับไปได้เช่นกัน การคอร์รัปชั่น จะเล็กจะน้อย ก็สำคัญเท่ากัน ทำลายชาติเช่นกัน..”ลุงก้อมยังไม่หมด ความจำ

        “..อินเตอร์เน็ท ลงทุนเกือบล้าน..แต่ปฏิบัติการ ไม่สมราคา..”ลุงจุ้มไม่เข้าใจ อินเตอร์เน็ท

        “...ตำแหน่งผู้ช่วยผู้บริหาร แต่ละคนนี่ก็ใช่ย่อย  หาความรู้ความสามารถไม่ได้ สู้ครูผู้สอนไม่ได้  เพื่อนครู หลาย ๆคนบอกว่า โรงเรียนนี้ไม่จำเป็นต้องมี ผู้ช่วยผู้บริหารก็อยู่ได้ ตำแหน่งนี้เหมือนกันที่เปลี่ยนกันรับ 2 ขั้น บางทีทะเลาะกันผลประโยชน์ไม่ลงตัว ขนาดวนเวียนกันได้ น่าเห็นใจครูสายผู้สอน ยิ่งสาระการเรียนรู้ใดมีบุคลากรมาก ยิ่งน่าเห็นใจได้แต่มอง พวกคนมือยาว (คนมือยาวสาวได้สาวเอา) ถึงจะสอบก็เถอะ ก็วิ่งเต้นเหมือนกัน เพราะ มันก็มีภาค ก ภาค ข ภาค ง..เหมือนกัน...”ลุงก้อม พูดไป เล่นตลกไป

        “...ภาค ง เกี่ยวกับอะไร ฉัน เคยได้ ยิน แต่ ภาค ก ข ค..”ลุงจุ้มถามด้วยอาการ งง ๆ

        “...เงิน...” “ ถ้าเงินพอก็ได้เป็นผู้ ชั่ว..เอ๊ย..ผู้ช่วย” ลุงก้อมยิ้ม ติดตลก

        “นอกจาก จะมีตำแหน่ง ผช. แล้วที่นี่ ยังแต่งตั้งกันเองอย่างเป็นทางการโดยคณะผู้บริหาร  คือ ต่ำแหน่ง รอง ของ ผช.  (เป็นผู้ ช่วย ของผู้ช่วย อีกทอดหนึ่ง)  ที่สุด ๆ มีตำแหน่ง หัวหน้า ผอ.”

        “ มีด้วยหรือ” ลุงจุ้ม ไม่เคยได้ยิน

        “มี” ลุงก้อมเน้นหนัก

        “ ต่ำแหน่งนี้  เพื่อนครู เข้าตั้งให้เอง เพราะครู คนนี้ สามารถสั่ง ผอ. คนนี้ให้ทำตามคำสั่งได้แทบทุกประการ..มีหัวหน้าชาย หัวหน้าหญิง ” ลุงก้อมพูดไปเรื่อย ๆ   

        “เวลามีการตรวจ ของ สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา เขาเรียกคำย่อว่า สมศ.  จะช่วยกัน ทำสวน พรวนดิน ปลูกผักชี เต็มบริเวณ โรงเรียน คนที่เขาเป็นกรรมการ มาตรวจ เขาคงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี  เขาคงดูออก เหมือนกับนักศึกษาที่เข้าสอบสัมภาษณ์ ต้องตัดผมวันที่จะไปสอบเพื่อดูดี ก็ดูออกว่าเพิ่งตัดมา แสดงว่าเมื่อก่อนคงจะยาวเฟื้อยเพิ่งมาตัดใหม่ๆ เหมือนที่นี่เขาปลูกผักชี แถมติดป้าย บ่งบอกด้วยว่า ผักชีโรยหน้า... “

 

       “ตา ๆ ไปกินข้าว..” เสียงหลานตาก้อม ดังขึ้น

       “ไปกินข้าวด้วยกัน” ลุงก้อม หันมาชวน ลุงจุ้ม

       “ มันอย่างนี้นี่เอง...ไอ้ทอง มันจึงไม่ไปโรงเรียน...มันบอกไม่เรียนก็ได้ 0 ร มส. เดี๋ยวครู ก็แก้ให้คะแนนเอง...”ลุงจุ้ม รำพันในใจ ..ก่อนแยกย้ายกัน

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 496069เขียนเมื่อ 26 กรกฎาคม 2012 13:57 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กรกฎาคม 2012 17:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

เดี๋ยวครู .... ก็ให้คะแนนเอง ==> จริงๆหรือค่ะ

ขอบคุณมาก กับบทความเรื่อง.... ความอัดอั้นตันใจของลุงก้อม 

  • อ่านเรื่องนี้แล้ว คุ้นๆ กับชีวิตจริงที่ อ.วิประสบถึงประมาณ 70 % ค่ะ
  • อ่านแล้วก็สงสารประเทศไทย
  • ยังดีนะคะที่มีคนอย่างลุงก้อม อยู่ในแวดวงการศึกษา

ขนาดลุงก้องยังคิดได้.. แต่ทำไมคนที่คิดว่าตัวเองเก่ง ถึงคิดไม่ได้ ???

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท