ดร.ป๊อป แปลกใจที่นักวิชาชีพที่อยู่ในกฎหมายคือ แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักวิชาชีพครู และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไม่มีการระบุ "นักกิจกรรมบำบัด" แต่มีการระบุการเข้าร่วม "กิจกรรมบำบัด" ในการแก้ไขบำบัดฟื้นฟูเด็กและเยาวชนที่ต้องคดี
ไม่แน่ใจว่า สหวิชาชีพในการฟื้นฟูทักษะชีวิตตามบริบทของกฎหมายนี้ มีความเข้าใจกันในบทบาทของนักกิจกรรมบำบัดหรือไม่อย่างไร เพราะเท่าที่ดร.ป๊อป ไปบรรยายให้กับอาจารย์ฝึกอาชีพในบันทึกที่เกี่ยวข้อง ก็ทำให้ดร.ป๊อป เข้าใขชัดเจนว่า "ทุกคนอยากบำบัดเด็กและเยาวชนต้องคดีให้กลายเป็นพลเมืองดี แต่ใช้การฝึกอาชีพโดยไม่มีความรู้ด้านการบำบัดที่ชัดเจน รวมทั้งยังเข้าใจผิดว่า กิจกรรมบำบัด คือใครทำก็ได้
ดร.ป๊อป เลยขอค้านและให้ดูตัวอย่าง พรบ. วิชาชีพกิจกรรมบำบัดที่ไม่ใช่ทุกคนทำได้ ต้องศึกษาและฝึกปฏิบัติงานทางคลินิกตามกิจกรรมบำบัดไทยและสากลครับผม
เหนื่อยเหลือเกินกับการใช้คำว่า "สหวิชาชีพ" แต่ไม่มีการทำงานเป็นทีมอย่างแท้จริงในประเทศไทย สงสารผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายอย่างบอบบางและไม่มีทางเลือกการเป็นพลเมืองดีของสังคม
การกระทำบนร่างกายมยุษย์ ==> ควรต้องระวัง "มากถึงมากเป็นพิเศษ"
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณมากครับพี่โอ๋ คุณหมอ ป. และพี่เปิ้ล
เป็นกำลังใจให้ครับ
ขอบคุณมากครับดร.จรูญ
กิจกรรมบำบัดในปัจจุบันยังมีไม่มากในประเทศไทย แต่กิจกรรมบำบัดมีความสำคัญสำหรับการรักษาผู้ป่วยแต่ละประเภทอย่างมาก รวมไปถึงเยาวชนในสถานพินิจเพื่อให้เยาวชนสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมและไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นได้
ซึ่งการที่จะรักษาให้คนหนึ่งคนจะใช้แค่หมอรักษาเพียงวิชาชีพเดียวก้ไม่ได้อีกเช่นกัน แต่ควรจะร่วมกันกับสหวิชาวีพอื่นๆ มีการแลกเปลี่ยนความรู้ใหม่และความเป็นไปในการรักษาผู้ป่วยร่วมกัน เพื่อให้เกิดผลดีที่สุดต่อตัวผู้ป่วย
ดังนั้นหนูคิดว่าในอนาคตจะมีการรักษาผู้ป่วยร่วมกันของทีมสหวิชาชีพจริงๆ ถ้าหากเราอธิบายถึงความสามารถของวิชาชีพกิจกรรมบำบัดให้วิชาชีพอื่นเข้าใจและเราก็เข้าใจในวิชาชีพอื่นด้วย การทำงานร่วมกันของทีมสหวิชาชีพจะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นคะ Dr. Pop