ไอคิวดี อีคิวเลิศ คู่ซี้สู่ความสำเร็จ


ไอคิวดี อีคิวเลิศ คู่ซี้สู่ความสำเร็จ

ไอคิวดี  อีคิวเลิศ  คู่ซี้สู่ความสำเร็จ

      พ่อแม่ผู้ปกครองหลายท่านคงจะสงสัยว่า ไอคิวและอีคิว  ต่างกันอย่างไร  และเราจะพัฒนาให้ลูกของเรานั้นมีทั้งไอคิวและอีคิวเด่นได้อย่างไร  ซึ่งพัฒนาการด้านสติปัญญาและอารมณ์เป็นทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตทั้งในปัจจุบันและอนาคต  เพื่อที่เด็กจะได้เจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีมีคุณภาพ  จึงเป็นโจทย์ที่พ่อแม่ต้องแสวงหาและเรียนรู้

      ไอคิว  (Intelligence  Quotient  : IQ) คือ ความสามารถทางเชาวน์ปัญญา  เป็นความสามารถในการเรียนรู้  การจำ การคิดอย่างเหตุผล  การคิดวิเคราะห์  และการเชื่อมโยงสิ่งต่างๆ แล้วสรุปเป็นความหมาย 

      อีคิว  (Emotional  Quotient  : EQ)  คือ ความฉลาดทางอารมณ์  เป็นความสามารถในการรู้จัก เข้าใจควบคุมอารมณ์และปรับจิตใจอารมณ์ของตนเอง  ได้สอดคล้องกับวัย  มีสัมพันธภาพที่ราบรื่น  และมีการปฏิบัติตนในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม  และมีความสุข  ความฉลาดทางอารมณ์เป็นคุณลักษณะพื้นฐานที่สำคัญ  ที่จะนำไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ ทั้งความคิด  อารมณ์  และพฤติกรรม ฉะนั้น  ในการพัฒนาความฉลาดของเด็ก  เพื่อให้เด็กทุกคนเป็นคนดี  มีความสามรถสูง  มีโอกาสประสบความสำเร็จและใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุขนั้น  ควรให้ความสำคัญทั้งการพัฒนาความสามารถทางเชาวน์ปัญญา  (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์  (EQ) ควบคู่กันไป เป็น 2 สิ่งเสริมกันให้ไอคิวดีมีความคิด  และอีคิวดี  เก่ง  และสุข

      พ่อแม่จะเสริมสร้างไอคิวและอีคิวของลูกได้อย่างไร ?

      ทั้งไอคิวและอีคิวมีแนวทางการพัฒนาและเสริมสร้างไม่แตกต่างกันนัก  พ่อแม่ทำได้โดยให้ความรักกับลูกด้วยการโอบกอดหรือสัมผัส  เอาใจใส่ดูแล  ใกล้ชิดสนิทสนม  พาไปออกเที่ยวชมธรรมชาติ  พาไปสวนสัตว์  การเคลื่อนไหวร่างกาย  ปลูกนิสัยการออกกำลังกาย  เล่นกีฬา  เล่นดนตรี  การร้องเพลง  ศิลปะ  การเล่นนิทาน  อ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอน  และรับประทานอาหารร่วมกัน  นอกจากนี้  พ่อแม่ควรขยันถามถึงเหตุการณ์ประจำวันกับลูกเพื่อให้ลูกคิดหาคำตอบ  เล่นเกมตอบปัญหากับลูกอย่างสม่ำเสมอ  ส่งเสริมความคิดและการวางแผนตลอดจนฝึกให้มีโอกาสได้ช่วยเหลือตนเอง  รู้จักให้  รู้จักมีน้ำใจช่วยเหลือแบ่งปันและเข้าใจผู้อื่น   ฝึกให้ลูกรู้จักรอคอย  อดทนอดกลั้น  เปิดโอกาสให้ลูกรู้จักปรับตัว   เผชิญและแก้ปัญหาด้วยตนเอง  สิ่งเหล่านี้สามารถเสริมสร้างไอคิวและอีคิวได้ทั้งนั้น  อีกทั้งยังเป็นการสร้างโอกาส  และเพิ่มประสบการณ์ในการเรียนรู้ของลูกได้เป็นอย่างดี ดังนั้น พ่อแม่ควรร่วมทำกิจกรรมกับลูกให้มาก ๆ หรืออย่างน้อยวันละประมาณ 30 นาที เพื่อเป็นการสร้างความรักความผูกพันระหว่างพ่อแม่ลูกได้อย่างดี

        ทั้งนี้ยังมีปัจจัยที่เสริมสร้างศักยภาพไอคิวและอีคิว  คือ  อาหารสมองดี  (นมแม่  สารอาหารที่จำเป็นอื่น ๆ) คนเลี้ยงดี  เลี้ยงดูดี  สถานที่ดี  และสื่อดี  ก็มีส่วนช่วยพัฒนาทั้งสติปัญญาและอารมณ์ด้วยทั้งหมดนี้ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรนัก  หากใช้หัวใจ  เวลา  และปัญญาของพ่อแม่นี้เองจะเป็นการสร้างรากฐานที่งดงามให้กับชีวิตลูก  ซึ่งเป็นเป้าหมายที่พ่อแม่ทุกคนต่างวาดหวังรอคอยเพื่อชื่นชมและภาคภูมิใจในบั้นปลาย  แต่ต้องอาศัยความอดทนในการบ่มเพาะเท่านั้นเอง  

   

เอกสารอ้างอิง

กรมสุขภาพจิต,กระทรวงสาธารณสุข.2555.ไอคิวดี อีคิวเลิศ คู่ซี้สู่ความสำเร็จ.

        วารสารกรมสุขภาพจิต 19(มิถุนายน): 6. 

 

 

 

 

                                                                                                         

หมายเลขบันทึก: 495453เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2012 15:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 กรกฎาคม 2012 15:58 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท