ซึ่งการเลือกดังกล่าวมีความสัมพันธ์กับการเรียนรู้ กับความรู้ คุณธรรมที่สั่งสมมาตั้งแต่วัยเด็ก ฯลฯ
สำหรับการศึกษาเพื่อเด็กไทยในปี 2020 ผู้เขียนมีความเห็นว่าควรให้สอดคล้องกับสภาพสังคม เพื่อให้เด็กรู้ทันข่าวสารสามารถคัดกรองสาระ ทั้งจากสิ่งที่ตนตั้งใจจะสื่อ และจากสิ่งที่ตนรับได้ การศึกษาจึงควรเน้นที่ความสุขแบบประสาน อันเกิดจากการให้ กระบวนการคิด และ หลักสันโดษ
เนื่องจากเมื่อมีความปรารถนาที่จะให้ จึงมีการขวนขวายกระทำเพื่อการให้ เมื่อผู้รับได้รับผลนั้น ย่อมเป็นสุข เมื่อเห็นผู้รับเป็นสุข ผู้ให้ก็ย่อมสุขตาม อีกทั้งเมื่อปรารถนาให้ผู้อื่นเป็นสุข กระบวนการคิดจึงเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่กันและกัน
การสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น จัดเป็นการไม่สันโดษในกุศลธรรม ส่วนการสันโดษในอกุศลธรรมนั้น คือการกระทำในทางที่ตรงกันข้าม ก็นำมาซึ่งความสุขได้เช่นกัน เช่น สุขใจที่สามารถหักห้ามใจจากการกระทำที่ไม่ดีได้สำเร็จ
ความสุขชนิดนี้ต่างจากการได้ เพราะเมื่อมีผู้ได้ ก็ย่อมมีผู้เสีย อันนำไปสู่การมองผู้อื่นอยากหวาดระแวง เพราะผู้อื่นก็ต้องการได้เช่นกัน จนถึงมองเป็นคู่แข่งเพราะการแย่งชิง กระทั่งมองเป็นเหยื่อในที่สุด ซึ่งสุดท้าย ย่อมนำไปสู่การเบียดเบียนกัน อันเป็นอีกสาเหตุที่สร้างความไม่สงบสุขในสังคม
เนื่องจากเราไม่สามารถควบคุมกระบวนการคิดของผู้อื่นได้ จึงควรสร้างทักษะการคิดแก่เด็ก เพื่อให้รู้ทันการแสวงหาผลประโยชน์จากผู้อื่น เช่น รู้ทันภาพยนตร์โฆษณา ไม่ตกเป็นเหยื่อการหาผลประโยชน์ของผู้ผลิต ด้วยการรู้จักคุณค่าแท้ (ประโยชน์ที่ได้อย่างแท้จริง) คุณค่าเทียม (คุณค่าอื่นที่ไม่ใช่ประโยชน์โดยตรง เช่น ความหรูหรา โก้เก๋ เป็นต้น) รู้จักพอใจในสิ่งที่ตนพึงมีพึงได้ (สันโดษ) จนไม่กระวนกระวายเพราะข่าวสารจนเกินไป
และควรสอนสิ่งเหล่านี้แก่เด็กตั้งแต่วันอนุบาล เพราะเมื่อเด็กอายุเกิน 7 – 8 ปีไปแล้ว เด็กย่อมสร้างกฎเกณฑ์ของตนเองขึ้นมาจากประสบการณ์และการสั่งสอนของผู้ใหญ่แล้ว โดยการสอนผ่านนิทาน หรือ การวาดภาพ
เหล่านี้คือสิ่งที่ผู้เขียนปรารถนาจะเห็นในการศึกษาของเด็กไทย
ควรสอนสิ่งเหล่านี้แก่เด็กตั้งแต่วันอนุบาล เพราะเมื่อเด็กอายุเกิน 7 – 8 ปีไปแล้ว เด็กย่อมสร้างกฎเกณฑ์ของตนเองขึ้นมาจากประสบการณ์และการสั่งสอนของผู้ใหญ่แล้ว ... เป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากค่ะ ทำให้คิดถึง ผู้ป่วย ซึ่งนักศึกษาสะท้อนอย่างอัศจรรย์ใจ ว่าทำไมเขา "ไม่ทุกข์" แม้ร่างพิการแต่กำเนิดค่ะ
ขอบคุณความเห็นจากคุณหมอ ป. ค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมา และดอกไม้จากท่านที่ฝากร่องรอยไว้ด้วยค่ะ
สวัสดีครับพี่ณัฐรดา ไม่เคยผิดหวังครับ สำหรับการเข้ามาอ่านข้อเขียนของพี่ สิ่งที่ได้รับคือ ข้อคิด และความสงบ อย่างลึกซึ้ง ครานี้ว่าด้วยเรื่องของเด็กได้แง่คิดอีกรูปแบบหนึ่งครับ ขอบคุณครับ
ขอบคุณคุณบินหลาดงค่ะ
ที่แวะมาฝากความเห็นไว้