.
ไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านนี้ได้พบประสบการณ์ธรรมชีวิตที่น่าสนใจมาก (สำหรับผม) จึงขอนำมาถอดบทเรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ
ข้อเท็จจริง
"จิต" เป็นเครื่องรับรู้อารมณ์(ทางธรรม) ที่ผ่านเข้ามาทางอายตนะ 6
แต่ก่อนนั้นผมเข้าใจว่า
จิต จะแปรปรวนไปตามสิ่งที่มากระทบ เช่น กระทบกับสิ่งที่ชอบใจก็จะมีความสุข เมื่อกระทบกับสิ่งที่เกลียดหรือไม่ชอบใจก็จะมีความทุกข์
แต่ความเห็นใหม่
สิ่งมากระทบจะชอบหรือชังนั้นไม่สำคัญ เท่ากับสภาวะแห่งจิตขณะนั้น ยกตัวอย่าง สภาวะจิตผมที่ซีคอนสแควร์ กับ สภาวะจิตผมที่โอซาก้า ดังนี้ครับ
.
สภาวะจิตที่ซีคอนสแควร์ เป็นสภาวะจิตที่เป็นผลจากการเดินมรรคสูงสุดอย่างต่อเนื่อง (ศีล สมาธิ ปัญญา) จิตจะมีสมาธิ สงบ สะอาด สว่าง เป็นช่วงเวลาที่จิตมีสติสัมปะชัญญะ และมีสติปัญญา(ทางธรรม)มาก สิ่งที่ผ่านมาทางอายตนะทั้ง 6 จะถูกแปรเป็นธรรมเข้าสู่ใจ
.
แต่มือใหม่นั้น เมื่อเดินมรรคได้สูงสุดแล้ว ก็จะเผลอไม่เดินต่อ จึงส่งผลให้จากสภาวะจิตที่ตั้งมั่นมีสติปัญญามากก็จะเริ่มแปรเปลี่ยนไปสู่ความวุ่นวาย ทั้งนี้น่าจะเกิดจากว่า เมื่อจิตอยู่ในสภาวะที่มีสติปัญญาใช้การได้ดีแล้ว จึงประมาทไม่เห็นความจำเป็นของการเดินมรรค จิตก็จะค่อยวุ่นวายไปตามเหตุทางโลกมากขึ้นเรื่อย ๆ สติสัมปะชัญญะเริ่มลดน้อยลง จนถึงจุดต่ำสุด ดั่งเช่น สภาวะจิตตอนที่อยู่ที่เมืองโอซาก้า เป็นต้น เมื่อจิตด้านในวุ่นวายสิ่งที่ผ่านเข้ามาทางอายนะทั้ง 6 ก็จะถูกปรุงแต่งไปต่าง ๆ นา นา รวมไปถึงการนำทุกข์เข้าสู่ใจมากกว่าธรรมด้วยหนอ
ประเด็นที่น่าสนใจ
เราจะเริ่มเห็นธรรมชาติของจิต คือ ความไม่เที่ยง แปรปรวนไป
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว อย่างไรต่อดีหนอ ?
อนุโมทนาในธรรมทานค่ะ "การยอมรับธรรมชาติอย่างที่มันเป็น" ที่อาจารย์เขียนไว้ใน facebook เป็นถ้อยคำที่ยิ่งใหญ่ หัวใจที่นำมาซึ่งคำกล่าวนี้ เป็นหัวใจควรแก่การกราบไหว้
มีหลายครั้ง ที่ข้อปฏิบัติอันเอกอุนับไม่ถ้วน บรรจุอยู่ในถ้อยคำสั้นๆ "การยอมรับธรรมชาติอย่างที่มันเป็น" รวมไว้ทั้งทศบารมีและมหากุศลนับไม่ถ้วน
หากพวกเราจะใช้ทั้งชีวิต เรียนรู้คำกล่าวนี้ สัมผัสหรือเล่าถึงประสบการณ์ที่ทำให้เราได้มาซึ่งคำกล่าวนี้ จะเป็นประโยชน์แก่ผู้ฟังยิ่ง
บางทีสิ่งที่อาจารย์มีพลังในการถ่ายทอดสูงสุด อาจเป็นประสบการณ์ต่างๆมากมายในชีวิตตนเอง ที่ชักนำให้อาจารย์ซาบซึ้งในคำกล่าวนี้ จากก้นบึ้งของหัวใจ พลังที่ออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ มีแรงสั่นสะเทือนสูง สามารถสั่นสะเทือนใจผู้ฟังที่หลับอยู่ให้ตื่นได้ พลังนั้นมีอยู่แล้วในตัวอาจารย์ค่ะ
"การยอมรับธรรมชาติอย่างที่มันเป็น" รวมไว้ทั้งทศบารมีและมหากุศลนับไม่ถ้วน...
จะเห็นธรรมนี้ได้ นอกจากความเพียรแล้ว ก็เพราะครูบาอาจารย์และกัลยาณมิตรช่วยชี้ทางหนอ สาธุ สาธุ