542. คุณงามความดี ไม่มีสูญ บุญกุศลไม่มีกาลเวลาและสถานที่


ทำบุญได้ผลบุญ

โรงเรียนเด็กเล็กของเจ้าชายพระภิกษุแห่งสยาม

 

ผมไปเยี่ยมวัดทีปทุตตมาราม 3 ครั้งในช่วง 3 เดือนแรกที่ไปรับตำแหน่ง การไปแต่ละครั้งไปด้วยความศรัทธาในวัดแห่งนี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น “วัดไทย”จากการที่ได้อ่านข้อมูลจากเว็บและหนังสือต่างๆ เกี่ยวกับศรีลังกาก่อนไปรับตำแหน่ง จึงได้รับทราบถึงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของเจ้าชายพระภิกษุจากสยามพระชินวรวงศ์  Prince Prist หรือพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าปฤษฏางค์ ชุมสายฯ ที่ไปไปบวชในศรีลังกาในปี 1896 และสร้างตำนานไว้ในศรีลังกาอย่างโดดเด่นโดยเป็นคนต่างชาติคนแรกและคนเดียวที่ได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพุทธในศรีลังกา แม้ต่อมาประวัติของพระชินวรวงศ์จะเงียบหายไปเลย ด้วยเหตุผลบางประการ(ซึ่งจะไม่กล่าวในที่นี้) แต่ก็ถือว่าในประวัติศาสตร์ มีเจ้าชายพระองค์หนึ่งจากสยามประเทศ มาสร้างคุณงามความดีในประเทศนี้ซึ่งเป็นสิ่งที่ลืมไมได้ สำหรับผม สิ่งนี้เป็นตัวเชื่อมประการหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับศรีลังกาที่น่าจดจำที่สุด

จากข้อมูลวัดทีปทุตตมาราม มีโรงเรียนในวัดที่ชื่อว่า Prince College ซึ่งเป็นโรงเรียนเด็กมัธยม มีนักเรียนประมาณ 400 คน จากเดิมที่เคยรุ่งเรืองที่สุดเพราะเป็นโรงเรียนพุทธศาสนาที่สอนโดยใช้ภาษาอังกฤษแห่งแรกของโคลัมโบ สมัยนั้นมีนักเรียนมากถึง 2000 คน แต่ต่อมากิจการซบเซาลง จนเกือบถูกปิด แต่ทว่า ด้วยแรงสนับสนุนจากบรรดาศิกษ์เก่าทำให้โรงเรียนยังคงดำเนินการมาได้จนถึงทุกวันนี้ ผมไปเยือน Prince College มาแล้วในครั้งแรกที่ไปวัด แม้จะไม่ได้ไปในช่วงที่โรงเรียนเปิดสอนแต่ก็ได้เดินดูสภาพโรงเรียนทุกจุดที่มีความสัมพันธ์กับประเทศไทย ผมเข้าใจมาโดยตลอดว่าถ้ากล่าวถึงวัดทีปทุตตมาราม ก็ต้องมี Prince College เป็นสิ่งที่คู่กัน แต่ที่ผมได้พบโดยไม่ได้ตั้งใจคือยังมีโรงเรียนเด็กเล็กระดับอนุบาลและประถมอีกแห่งหนึ่งที่พระชินวงวศ์ก่อตั้งขึ้น ชื่อว่า ศรีคุณานันท์ Sri Gunananda  Vidyalaya (College) ตั้งอยู่หลังวัดนั่นเอง แทบจะพลาดไปเพราะเมื่อเราไปวัดนี้ จะเห็นแต่โรงเรียน Prince College ที่ตั้งอยู่ในวัดด้านในสุด แต่โรงเรียนเด็กแล็กศรีคุณานันท์นี้ตั้งอยู่หลังวัดลึกไปทางด้านซ้ายของวัดและมีทางเข้าเล็กๆ เฉพาะอีกทางหนึ่ง  

 

โรงเรียนเด็กเล็กแห่งนี้สอนเด็กตั้งแต่เกรด 1- 5 มีความสำคัญก็ตรงที่พระองค์เจ้าปฤษฏางค์หรือพระชินวงวงศ์เป็นผู้ก่อตั้ง เจ้าอาวาสของวัดองค์ปัจจุบันกล่าวว่าเดิมพระชินวรวศ์สร้างโรงเรียนแห่งเดียวคือ คุณานันท์วิทยา  ส่วน  Prince College นั้นเป็นเจ้าอาวาสองค์ต่อมาที่สร้างเพื่อเป็นที่ระลึกแด่พระชินวงวงศ์นั้นเอง จึงกลายเป็นอาคารเรียนสองแห่งในวัด คืออาคารเด็กเล็กและอาคารโรงเรียนมัธยม   เนื่องจากช่วงที่ผมไปเยือนวัด เป็นวันหยุดจึงไม่ได้เข้าไปดูในอาคารเรียน  Prince College  ความสนใจของผมกลับมุ่งไปที่อาคารเรียนเด็กเล็ก ผมจึงได้ขอไปดูและโชคดีที่ไวยาวัจกรมีกุญแจจึงเดินลัดเลาะไปหลังวัดไปเยี่ยมโรงเรียนที่ก่อตั้งโดยเจ้าชายจากสยาม

 

เวทีไม้ผุพังไปหมดแล้ว ฝุ่นเต็มไปหมด

 

ในการเยือนครั้งแรก สภาพภายนอกอาคารดูโทรมมาก เป็นเสมือนโรงเรือนชั้นเดียว ข้างล่างมีชั้นใต้ถุนเหมือนศาลาวัดในบ้านเรา ตึกอยู่ในสภาพเก่าและโทรม เดินขึ้นไปบนอาคาร ไม่มีความใหม่อยู่เลยในทุกสิ่งที่เห็น เป็นโรงเรือนเหมือนห้องประชุม มีเวทีสูงด้านในซึ่งรกร้าง ไม้พื้นผุพังเต็มไปด้วยฝุ่นเขรอะ มุมหนึ่งของเวทีไม้มีโต๊ะเก้าอี้ซึ่งก็รู้ทันทีว่าเป็นสิ่งของที่ชำรุด เอาไปกองรวมไว้ หันมามองภายในอาคาร ก็เช่นเดียวกัน ไม่มีอะไรเจริญตาเลย โต๊ะ เก้าอี้สีฟ้าดูเก่ามาก กระดานดำเก่าและแทบจะผุ พื้นไม่ต้องพูดถึง ปูนแตกหลุดเป็นหย่อมๆ มีฝุ่นและมีร่องรอยของความเก่าปรากฏเต็มไปหมด บอร์ดที่ใช้ในการติดประกาศต่างๆ ก็เอามาจากบานประตูที่เก่ามาก มุมหนึ่งผมเห็นชุดคอมพิวเตอร์ที่ถูกคลุมด้วยผ้าเก่าๆ เข้าไปดูใกล้ๆ ปรากฏว่าคอมเก่าและโทรมมาก เก่าแบบนี้ไปไว้ในพิพิธภัณฑ์ของเก่าได้สบายและสงสัยยังใช้ระบบปฏิบัติการดอสมั้ง....

 

 

ห้องน้ำห้องเดียวสำหรับนักเรียน 140 คน

 

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมลืมเรื่องสภาพห้องเรียนไปก็คือมุมห้อง 2 มุม มีโต๊ะเก่าๆ มีพระพุทธรูปสีขาวตั้งอยู่ ยังมีของบูชาเป็นดอกไม้เหี่ยวๆ และผลไม้ที่เก่าจนเสียไปแล้วตั้งอยู่ นี่คือศรัทธาของคนศรีลังกาโดยแท้ ด้วยความเป็นพุทธ อย่างไรก็ไม่ลืมที่จะบูชาพระพุทธเจ้าด้วยรูปปั้นเท่าที่จะหาได้

 

เพดานที่สีหลุดร่วง 

ผมมองสภาพห้องเรียนของเด็กเล็กแล้วก็รู้สึกหดหู่ นี่หรือคือโรงเรียนของเจ้าชายพระภิกษุจากสยามในอดีตร้อยกว่าปีมาเอง ไวยาวัจกรของวัดบอกว่าเด็กๆ มาจากเด็กครอบครัวพุทธที่ยากจนในบริเวณนั้น ก็อยู่กันไปเท่าที่จะอยู่ได้ โรงเรียนอยู่ในการดูแลของกระทรวงศึกษาศรีลังกา วัดเองก็ไม่มีปัญญาที่จะช่วยเหลืออะไรมากนัก

การทำบุญ ผมคิดว่า ในที่สุดแล้ว ทำที่ไหนก็ได้บุญเช่นกัน โดยเฉพาะหากจิตใจเราประกอบด้วยความตั้งใจที่เป็นกุศลทั้งก่อนทำ ขณะทำและหลังจากทำแล้ว ทำแล้วบุคคลที่ได้รับบุญนั้นมีความสุขนั่นคือความสุขของผู้ให้ ผมคงต้องกลับไปเยี่ยมโรงเรียนแห่งนี้อีกและคิดหาทางต่อไปว่าจะช่วยเด็กๆ อย่างไร...ฝากกัลยาณมิตรคิดต่อ

ในการไปเยือนครั้งที่ 2 และ 3 ของผม ก็เป็นการตั้งใจไปเยี่ยมโรงเรียนคุณานันท์โดยเฉพาะ โดยผมตั้งใจจะทำโครงการบูรณะโรงเรียนโดยให้คนไทยในโคลัมโบร่วมกิจกรรมด้วย

 

จะทำอะไรและอย่างไรต่อไป

ผมนึกทวนในใจว่าการทำบุญ ทำที่ไหนก็ได้ และก็ได้บุญเสมอ เพราะจริงๆ แล้ว วัดอยู่ในใจของเรานั่นเอง วัดทีปทุตตมารามอาจจะเป็นวัดที่สำคัญในประวัติศาสตร์ ได้รับความสนใจและช่วยเหลือจากฝ่ายราชการชองไทยมาโดยตลอด เช่นในอดีตที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตเสนอรับกฐินพระราชทานไปแล้วทั้งหมด 5 ครั้ง และก็คงเสนออีกในอนาคตโดยสลับกันไปวัดพุทธในศรีลังกาที่มีความสำคัญด้วย นอกจากนั้นตระกูลชุมสายเองก็ทราบว่าเคยจัดกิจกรรมสนับสนุนวัดเป็นระยะ แต่สำหรับโรงเรียนเด็กเล็กคุณานันท์ ต้องบอกว่ายังไม่ได้รับความช่วยเหลือนักเพราะโรงเรียนไม่ได้อยู่ในความดูแลของวัด แต่อยู่ในความดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ ศรีลังกาซึ่งยังไม่สามารถจัดสรรงบประมาณได้ทั่วถึงทุกโรงเรียน เท่าที่ผมไปสำรวจโรงเรียนในวัดมาหลายแห่ง สิ่งที่รัฐจัดให้คือชุดนักเรียนปีละ 1 ชุด หนังสือเรียนและอุปกรณ์การเรียนเท่าที่จำเป็น ที่เหลือโรงเรียนต้องหาเอง ซึ่งก็ได้วัดช่วยเหลือกันไปเท่าที่มีแรง ไม่ว่าจะเป็นสมุด อุปกรณ์ต่างๆ และอาหารกลางวัน

ในส่วนตัวของผมคงจะช่วยเหลือโรงเรียนเด็กเล็กแห่งนี้เพราะโยงกับประวัติศาสตร์สยามประเทศและนักการทูตที่ยิ่งใหญ่คนหนึ่งของสยาม (ที่เราไม่ควรลืม) และเพื่อให้โอกาสคนไทยและกัลยาณมิตรได้มีส่วนร่วมบุญกุศลในครั้งนี้ ผมจึงตั้งใจจะจัดกิจกรรมการกุศลที่โรงเรียนเด็กเล็กแห่งนี้โดยจะไปพัฒนาอาคาร อุปกรณ์และจัดอาหารไปเลี้ยงเด็กในโอกาสที่เหมาะสมต่อไป

หมายเลขบันทึก: 492243เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2012 14:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 มิถุนายน 2012 13:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อนุโมทนาสาธุกับท่านทูตด้วยนะคะ

ที่ตั้งใจจะจัดกิจกรรมการกุศลที่โรงเรียนเด็กเล็กแห่งนี้

โรงเรียนเด็กเล็กแห่งนี้น่าช่วยเหลือมาก

ถ้ามีโอกาสอยากร่วมช่วยจัดกิจกรรมนี้ด้วยค่ะ

อนุโมทนาสาธุจ๊ะ แค่อนุโมทนาสาธุก็ได้บุญกุศลแล้ว 

หากคณะจากม.นครปฐมและม.สยามจะร่วมบุญกันก็จะยิ่งดีจ๊ะ

พี่กะว่าจะจัดกิจกรรมภายในเดือนกันยายน เหมือนกับการออกค่ายของนักศึกษา 

การทำบุญถ้าได้ออกแรงร่วมด้วยช่วยกัน ก็จะทำให้หมู่คณะมีความสามัคคีด้วย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท