เกือบไปแล้ว นึกว่าซื้อของถูกแต่จ่่ายแพง


ไปซื้อของถูกเกือบได้ของแพง ในห้างค้าปลีกมีชื่อแห่งหนึ่ง

เมื่อวานนี้(วันที่14มิถุนายน) ยามบ่ายเกือบเย็นมีโอกาสไปซื้อของใช้ที่ห้างค้าปลีกห้างใหญ่แห่งหนึ่งในจังหวัดใกล้เคียงเนื่องจากปกติแล้วนิยมซื้อของใช้ในร้านค้าของจังหวัดเพื่อเป็นการกระจายรายได้. 

จากประสบการณ์ก่อนหน้าของตนเองและจากเพื่อนๆพบว่า ที่นี่จะคิดราคาสินค้าสูงกว่าปกติ เช่น เพื่อนซื้อขนมปังราคาไม่เกิน 30 บาทรวมกับของอื่นแล้วประมาณราคาน่าจะไม่เกิน 200 บาท พอพนักงานคิดเงินรวมแล่วต้องจ่ายเกือบ 500 บาทเลยดูราคาสินค้าแต่ละรายการก่อนจ่ายเงิน พบว่า พนักงานคิดราคาขนมปังเกือบร้อยบาท ไป 2 ชิ้นเลยบอกให้พนักงานดูราคาสินค้าใหม่กว่าจะยอมรับเห็นว่าเหนื่อยเลย   ที่พบกับตัวเองคือ ลูกชายต้องการซื้อลูกอมเพิ่มความหอมกลิ่นปากแบบโฆษณา 1 กล่องแต่ป้ายประชาสัมพันธ์อันเล็กๆที่ติดไว้ที่ชั้นวางของบอกว่า ซื้อ 2 แถม 1 ด้วยความเสียดายอยากได้ของฟรีก็เลยซื้อไป 3 ชิ้นพอคิดเงินก็ไม่ทันได้ดูเพราะรีบกลับบ้าน มาถึงบ้านว่างจากการเก็บของมีเวลามานั่งดูใบเสร็จพบว่า จ่ายค่าลูกอมเต็มราคาทั้ง 3 ชิ้นเลยคะ งง.งง เข้าใจว่าดูป้ายไม่ชัดไม่เป็นไร ครั้งต่อไปจะระวังมากขึ้น

ล่าสุดเมื่อวานดูราคาข้าวสารหอมมะลิ 100% ที่ลดราคาพบว่า ข้าวสารยี่ห้อหนึ่งป้ายเล็กๆที่ติดเป็นแถวบอกว่า ราคาข้าวสารต่อหน่วยคือ 165 บาทเลยตัดสินใจซื้อมา 2 ถุง พอมาจ่ายเงินได้รับใบเสร็จก็ยืนดูราคาสินค้าก่อนจะออกจากห้างเพราะว่าวันนี้มีเวลา ไม่รีบ พบว่า ราคาข้าวสารถุงละ 203 บาททั้งสองถุง คุณสามีเลยบอกให้ไปดูที่ป้ายราคาอีกครั้งเผื่อว่าเราเข้าใจผิด พอไปถึงก็อ่านอยู่หลายรอบยังเป็นราคา 165 ยี่ห้อก็เหมือนที่ซื้อทุกประการ เลยใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปมาปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรดี

ตกลงกันว่าจะไปที่ฝ่ายลูกค้่าสัมพันธ์เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้น เผื่อเราสับสนหรือเข้าใจอะไรผิด เจ้าหน้าที่ทั้งหมดที่ให้บริการก็ทำหน้าที่ได้ดี ให้บริการไปตรวจสอบราคาสินค้าให้ แต่คำตอบแรกที่ได้คือราคาสินค้าทั้งห้างเพิ่งปรับราคาใหม่เมื่อคืนนะคะอาจจะยังไม่ได้นำป้ายราคาเก่าออก เรายืนยันว่าราคาสินค้าที่ซื้อมาสิ้นสุดวันที  18/07/55 นับแล้วเดือนนี้เดือน 6 วันที่ 14 น่าจะไม่สิ้นสุด  ประมาณ 5 นาทีพนักงานบอกว่าราคาสินค้าที่ป้ายถูกต้องแต่ระบบยังไม่ได้ลดราคา ซึ่งอาจจะเกิดความผิดพลาดได้ จึงขอคืนเงินส่วนต่างราคาสินค้าให้เป็นสองเท่า คือ 203-165=38 บาท แล้วคูณสอง 38x2=76. บาทต่อถุง

จริงๆแล้วไม่อยากได้เงินคืนสองเท่าหรอกคะ อยากได้ความเชื่อใจว่าเราไปซื้อของตามราคาป้ายไม่ถูกโกง ได้เงินทอนครบถ้วนมากกว่า

อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณ..ที่ทำให้มีประสบการณ์ใหม่ สอนให้เรารอบคอบ ตรวจสอบให้ดี ขอบคุณน้องๆพนักงานที่ให้บริการอย่างดี

@@@@@@@@@@@@@@

คำสำคัญ (Tags): #ราคาสินค้า
หมายเลขบันทึก: 491297เขียนเมื่อ 15 มิถุนายน 2012 19:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 21:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ซื้อแล้ว.. ก็เหมือนได้เปล่าค่ะ

 

บ้านเรายังไม่คุ้มครองผู้บริโภคเท่าไหร่ และพวกเราก็ขี้เกียจเอาเรื่องเอาราวด้วยนะคะ ก็เลยถูกเอาเปรียบโดยไม่รู้ตัว ที่ออสเตรเลียเขามีเป็นระบบเลยว่า ถ้าเขาคิดเงินผิดจากป้ายราคา เราจะได้สินค้าชิ้นนั้นฟรีเลยค่ะ เป็นความรับผิดชอบของห้างร้านที่ต้องติดป้ายให้ตรงกับราคาจริงจะมาอ้างว่าเปลี่ยนไม่ทันไม่ได้

ขอบคุณ คุณโอ๋-อโณ

  เห็นด้วยอย่างยิ่งคะ  งั้นเราต้องช่วยกันรักษาสิทธิของผู้บริโภคกันเพิ่มขึ้น 

เมื่อวันก่อนน้อง ๆ ไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแล้วไม่ยอมทอน 50 สตางค์ อ้างว่าไม่มีเงินทอน แต่น้องเค้าไม่ยอมยืนรอจนพนักงานต้องให้มา 1 บาท เลยบอกน้องเค้าไปว่าให้เตรียมเหรียญ 25 หรือ 50 สตางค์ไว้ในกระเป๋าตลอดเวลา หากร้านไหนไม่มีทอนจะได้ส่งให้เลย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท