KM ที่รัก ตอนที่ 59" การตั้งตัวเป็นผู้พิพากษาคนอื่น...กับการจัดการตัวเอง


ดูละครแล้วย้อนดูตัว
เปาบุ้นจิ้น เป็นภาพยนตร์ที่ดีและ มีคุณค่าเป็นตัวอย่างของการทำความดี การปฏิบัติหน้าที่ ที่ซื่อสัตย์ต่อส่วนรวมและประเทศชาติ ที่อยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจและเครพต่อความมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกคน ผู้ที่จะได้รับสิทธิ์ในการพิจารณาและตัดสินคนอื่นไม่ใช่จะได้มาง่ายๆและไม่ใช่ว่าจะยกตัวเองขึ้นมาง่ายๆ และไม่ใช่จะยกตัวเอง ขึ้นมาเป็นโดยพลการ ต้องมีความรู้ความสามารถเป็นกลาง มีจิตใจเป็นธรรม และที่สำคัญต้องมีคุณธรรม เพราะ ความรู้ต้องคู่คุณธรรม ตัวความรู้เองใครมีการเรียนรู้ ก็จะเกิดความรู้และพัฒนาตัวเขาเอง ส่วนคุณธรรมจะเป็นตัวควบคุมความรู้ให้ทำหน้าที่ที่ถูกต้องเหมาะสม ในระบบศาลการจะตัดสินคดีความจะมีกระบวนการสืบสวนสอบสวนมากทั้งพยานบุคคล พยานหลักฐานและต้องใช้เวลานานและต้องวิเคราะห์อย่างรอบคอบจึงจะมีคำพิพากษาออกมาและผู้ถูกการไต่สวนยังมีโอกาสแย้งขออีกสมเหตุสมผลและให้โอกาสได้ชี้แจงทั้งสองฝ่าย แต่โลกปัจจุบันมีการแก่งแย่งกันมากมายทุกระดับ แต่ละค่ายแต่ละคนก็พยายามคิดเอาวิชามารเพื่อบรรลุซึ่งคำว่าชนะหรือความสะใจ โดยไม่ได้คำนึงถึงคุณธรรมและจริยธรรม ยิ่งทางภาคธุรกิจยิ่งมีการใช้วิชามารมากมาย การไม่จำกัดวิธีการ วิธีใดก็ได้ขอให้ได้ผลกำไรสูงสุด ดังเช่น การหลีกหนีภาษี ตบแต่งบัญชีหรือแม้กระทั้งการทำร้ายคู่ต่อสู้ (ทั้งทางตรงและทางอ้อม)เพื่อให้อ่อนกำลังลง ผมได้ยินจากคำพูดของนักศึกษาคนหนึ่งที่มาเรียน หลักสูตรเดียวกันกับผม ผมจึงไม่แปลกใจกับพฤติกรรมของเขาที่เหยียบหัวเพื่อนเพื่อชูคอของตัวเองขึ้น เทคนิคการทำลายเพื่อนมีหลายแบบ เช่น ใส่ร้าย ปั้นน้ำให้เป็นตัว สร้างภาพดีให้ตัวเองสร้างภาพเลวให้เพื่อนโดยใช้ความรู้และเครื่องมือทางไอที ที่เก่งกาจกว่าคนอื่นซึ้งเป็นข้อได้เปรียบ เข้าทำลายเพื่อนๆและหลักสูตร บางท่านเข้ามาอ่านภาพจำลองของเขาก็เชื่อแต่บางคนก็ไม่แน่ใจ พฤติกรรมอย่างนี้อาจจะเป็นผลมาจากการก่อกำเนิดมาของเขามี สองประการ ประการที่หนึ่ง ถูกเลี้ยงอย่างดี(แตก) เข้าข่าย “พ่อแม่รังแกฉัน” ถูกตามใจทุกอย่างจะเอาอะไรก็ได้หมด พอมาเรียนและทำงานก็แพ้ไม่เป็น ประการที่สอง ร่ำเรียนมาทางธุรกิจจึงมีหลักคิดวิธีการที่จะเอาชนะ”แบบไร้รูปแบบ” และทุกรูปแบบขอเพียงชนะอย่างเดียว ผมก็หนักใจแทนหลักสูตรแทนมหาลัย สงสารครูบาอาจารย์ที่สอนเขามา”คงเอาปี๊บคลุมหัวเป็นแน่”ถ้าได้รับรู้ถึงพฤติกรรมของลูกศิษย์คนนี้ สุดท้ายสงสารประเทศชาติครับที่ให้คนประเภทนี้มาเป็นอาจารย์สอนประชาชน แต่ก็ดีใจแทนมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตร...และเยาวชนที่เข้ามาเรียนไม่ทัน เพราะบุคคลผู้นี้ได้ถูกออกจากมหาวิทยาลัยเรียนร้อยแล้ว ดีใจจริงๆที่เด็กๆและเยาวชนส่วนหนึ่งที่รอดพ้นเงื้อมมือของปีศาจในคราบนักบุญ...ครับ
หมายเลขบันทึก: 48910เขียนเมื่อ 7 กันยายน 2006 20:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

 

    อ. ศิริพงษ์ ครับ

        ผมได้แจ้งเรื่องราวเป็น mail ไว้ 6 ประเด็น กับทาง ดร.แสวง/ดร.ธิติพล/อ.พิษิฐชัย/และคุณอรพิน ซึ่งเป็นผู้ประสานงานระหว่างหลักสูตรกับสคส. แล้วครับ

(กำลัง ส่งไปยัง ดร.อภิชัย อยู่ ครับ)

       แต่ mail เกิดอะไรไม่ทราบไม่สามารถอ่านได้

      อย่างไรก็ตาม การเรียนในหลักสูตรที่มหาวิยาลัยเราทราบมาตลอดว่าอะไร คืออะไร ทั้งที่เคยพูดคุย เตือนหวังดี เพราะข้อเขียน ของเพื่อบางคนได้เริ่มเข้าไปละเมิดวิชาชีพของผู้อื่นเขา ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม เพราะเวที blog เป็นเวทีสาธารณะเมื่อใครอ่านแล้วถ้าข้อมูลไม่ครบถ้วนก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง

       คนเขียน blog ต้องมีความรับผิดชอบต่อข้อมมูลที่ถูกนำเสนอไป อย่างกรณี biog เรื่อง ตัดไฟแต่ต้นลม ลงวันที่ 3 กันยายน 2549   เมื่อไปเปิดอ่าน พบว่า มีเพื่อนมากมายที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น คล้าย คนในกลุ่มวิชาชีพด้านการศึกษาที่กำลัง ลาศึกษาต่อเนหลักศุตร ป็นเอาเปรียบสังคม กินหยาดเหงื่อแรงงานประชาชน (เช่นกรณีป้าบ๋วมที่ให้ความเห็นใน blog  ขอโทษครับที่ต้องเอยนาม แต่ผมขอรับผิดชอบครับต่อการเอยนามมายังป้าครับ)

      เมื่ออ่านแล้ว ก็รู้สึกได้ว่า ข้อมูลดังกล่าวควรจะต้องระมัดระวัง เพราะเริ่ม ไปดูแคลน ดูถูกคนอื่นเขาทั้ง ๆ ที่ การเรียนในหลักสูตร และผู้เรียน รู้ตนเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ น้ำ ไฟ ตึกเรียน อุปกรณ์สื่อโสตการสอน มันเป็นของประชาชน เราสำนึกมาตลอด เราจะรีบเรียน และนำความรู้ไปใช้ ไปพัฒนา หรืออื่น ๆ ทั้งตน เอง และสังคม เพราะมันเป็นปณิธาณของผู้เรียน และของหลักสูตร เพราะอะไรหรือครับ

      1. ผู้เรียน ตระหนักและรู้ว่าปรัชญาหลักสูตรที่เราเรียนนั้น สามารถตอบสนองทางสังคมในรูปแบบใด ผู้เรียนมีสำนึกรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง และสังคมอย่างไรดี

      2. การนำเสนอข้อมูลใน blog  ของสมาชิกในชุมชนแห่งการเรียนรู้นี้ ต้องพึงระมัดระวังไปละเมิดล่วงผู้อื่นเขา ดังเกิดกรณี ตัดไฟแต่ลม เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2549  หรือ กรณี วันที่ 23 สิงหาคม 2549

     3.  มีเพื่อนเราในกลุ่มเรียน พยามใช้ blog ซึ่งเป็นเวทีสาธารณะเป็นเครื่องมือเพื่อแสวงหาเรื่องราวบางอย่าง ซึ่ง สคส. ควรต้องเข้ามาดูแลครับ อย่าใช้ใช้ blog เป็นเงื่อนไขและโอกาสทำร้ายผู้อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม

     ส่วน ขอเสนออื่น ๆ ได้ แจ้งให้เพื่อผุ้เรียนทั้งหมดแล้วทั้งวาจา และ mail

                        สมทรง ครับ

  • แวะมาขอบคุณครับผม
  • ยินดีที่ได้รู้จัก


  • Thank You



ขอบคุณ อ.ขจิตมากครับ ที่อุตส่าหาพบ ด้วยความยินดียิ่งที่ได้อ่าน บันทึกของอ.ขจิต ผมอ่านแค่ชื่อบันทึกของอาจารย์ สมองผมเปิดกว้างมาก ความทรงจำดีๆผุดขึ้นมามากมาย มีโอกาสจะเข้าไปร่วมแลกเปลี่ยน ด้วยครับ อ.ขจิตเข้ามาช่วง hot พอดี ไม่มีอะไรมากครับ เรากำลังตรวจสอบพฤติกรรมของนักศึกษาบางคน ที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม โดยพี่หลง(สมทรง)หัวหน้าห้องของเรากำลังส่งเอกสาร ไห้ผูหลักผู้ใหญ่ได้อ่าน เพื่อประกอบการตัดสินใจครับ
     ตามอาจารย์พี่ขจิตมาครับ เลยถือโอกาสบอกว่าอ่าน KM ที่รักอยู่ทุกตอนครับ (มักจะตามอ่านย้อนหลัง ในช่วงหลัง  )
เรียนพีหลง พี่ชายที่แสนดี ขอบคุณพี่มากที่ส่งมาไห้ผม ทาง blog เพราะ ผมก็อ่าน mail ที่พี่ส่งมาไห้ผมไม่ได้เหมือนกัน บุคคลนี้อันตรายมากกว่าที่เราประเมินไว้ พี่หลงอย่าลืม ว่าเขาก่งกาจมากทาง IT และเขารู้รหัสผ่านของเราเกือบทุกคน ผมไม่อยากเดาว่าเขาจะทำอะไรอีก ผมเคยวิเคราะห์เหตุการณที่กำลังเกิดขณะนี้ไว้แล้ว ตอนเหตุการแรกที่เราประชุมกัน แล้วพี่หลงทำบันทึกถึงหลักสูตร (ไม่ควรพูดในที่นี้)ผมเคยวิเคราะไห้ น้องไลฟัง พี่ลองถามดู จะเห็นภาพเริ่มเกิดขึ้นตามที่ผมพูดไวครับ ขอบคุณมากครับพี่หลง
ขอบคุณ คุณชายขอบมากครับที่อุตส่ามาแอบอยู่ข้างหลัง มีอะไรช่วยแนะนำผมด้วยครับ ขอบคุณครับ
     ผมแอบอยู่ข้างหลังเสมอแหละครับ ด้วยนิสัยเป็นคนขี้ขลาดครับ ตามประสาคนใต้ (แซว ๆ ครับ อิๆๆ)
เรียนคุณชายขอบ คุณชายขอบ พูดอะไรผิดหรือปล่าวครับ คนใต้ ไม่ได้ขี้ขลาดครับ แถมยังเป็นคนเก่ง และกล้ามาก เลยครับ ผมมีเพื่อน และเคยรู้จัก เคยทำงาน โครงการ วิทยาศาสตร์ท้องถิ่น ของ สกว. เช่น อ. บํญญัติ ลายพยัคฆ์ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ที่นครศรีรรมราช อ.อัจฉรา ใจปลึ้ม ที่ ทุ่งสง อ. ถวิล ที่ตรัง มีแต่คนเก่ง ๆทั้งนั้น รวมทั้คุณชายขอบด้วยครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท