อาการนี้เขาเรียกว่า
อ. ศิริพงษ์ ครับ
ผมได้แจ้งเรื่องราวเป็น mail ไว้ 6 ประเด็น กับทาง ดร.แสวง/ดร.ธิติพล/อ.พิษิฐชัย/และคุณอรพิน ซึ่งเป็นผู้ประสานงานระหว่างหลักสูตรกับสคส. แล้วครับ
(กำลัง ส่งไปยัง ดร.อภิชัย อยู่ ครับ)
แต่ mail เกิดอะไรไม่ทราบไม่สามารถอ่านได้
อย่างไรก็ตาม การเรียนในหลักสูตรที่มหาวิยาลัยเราทราบมาตลอดว่าอะไร คืออะไร ทั้งที่เคยพูดคุย เตือนหวังดี เพราะข้อเขียน ของเพื่อบางคนได้เริ่มเข้าไปละเมิดวิชาชีพของผู้อื่นเขา ก็คิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม เพราะเวที blog เป็นเวทีสาธารณะเมื่อใครอ่านแล้วถ้าข้อมูลไม่ครบถ้วนก็จะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจอย่างยิ่ง
คนเขียน blog ต้องมีความรับผิดชอบต่อข้อมมูลที่ถูกนำเสนอไป อย่างกรณี biog เรื่อง ตัดไฟแต่ต้นลม ลงวันที่ 3 กันยายน 2549 เมื่อไปเปิดอ่าน พบว่า มีเพื่อนมากมายที่เข้าไปแสดงความคิดเห็น คล้าย คนในกลุ่มวิชาชีพด้านการศึกษาที่กำลัง ลาศึกษาต่อเนหลักศุตร ป็นเอาเปรียบสังคม กินหยาดเหงื่อแรงงานประชาชน (เช่นกรณีป้าบ๋วมที่ให้ความเห็นใน blog ขอโทษครับที่ต้องเอยนาม แต่ผมขอรับผิดชอบครับต่อการเอยนามมายังป้าครับ)
เมื่ออ่านแล้ว ก็รู้สึกได้ว่า ข้อมูลดังกล่าวควรจะต้องระมัดระวัง เพราะเริ่ม ไปดูแคลน ดูถูกคนอื่นเขาทั้ง ๆ ที่ การเรียนในหลักสูตร และผู้เรียน รู้ตนเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ น้ำ ไฟ ตึกเรียน อุปกรณ์สื่อโสตการสอน มันเป็นของประชาชน เราสำนึกมาตลอด เราจะรีบเรียน และนำความรู้ไปใช้ ไปพัฒนา หรืออื่น ๆ ทั้งตน เอง และสังคม เพราะมันเป็นปณิธาณของผู้เรียน และของหลักสูตร เพราะอะไรหรือครับ
1. ผู้เรียน ตระหนักและรู้ว่าปรัชญาหลักสูตรที่เราเรียนนั้น สามารถตอบสนองทางสังคมในรูปแบบใด ผู้เรียนมีสำนึกรับผิดชอบทั้งต่อตนเอง และสังคมอย่างไรดี
2. การนำเสนอข้อมูลใน blog ของสมาชิกในชุมชนแห่งการเรียนรู้นี้ ต้องพึงระมัดระวังไปละเมิดล่วงผู้อื่นเขา ดังเกิดกรณี ตัดไฟแต่ลม เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2549 หรือ กรณี วันที่ 23 สิงหาคม 2549
3. มีเพื่อนเราในกลุ่มเรียน พยามใช้ blog ซึ่งเป็นเวทีสาธารณะเป็นเครื่องมือเพื่อแสวงหาเรื่องราวบางอย่าง ซึ่ง สคส. ควรต้องเข้ามาดูแลครับ อย่าใช้ใช้ blog เป็นเงื่อนไขและโอกาสทำร้ายผู้อื่น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม
ส่วน ขอเสนออื่น ๆ ได้ แจ้งให้เพื่อผุ้เรียนทั้งหมดแล้วทั้งวาจา และ mail
สมทรง ครับ