ให้ตั้งอกตั้งใจประพฤติปฏิบัติ…(2/2)


พระพุทธเจ้าท่านให้เราสร้างฐานที่จะรองรับในวันต่อไปของเรา เราจะไปเอาแต่ปล่อยวางไม่ได้ เพราะนั่นมันไม่ใช่การปล่อยวาง มันเป็นผู้ขี้เกียจ

Large_goodness

 


ลูกศิษย์พระพุทธเจ้าต้องไม่มีพระขี้เกียจเณรขี้เกียจ ไม่ว่าพระเก่าพระใหม่ ถือว่าทุกคนมันยังไม่สายนะ ต้องปรับปรุงส่วนที่บกพร่อง เมื่อปฏิปทานี้สำคัญ ต้องเปลี่ยนแปลงปฏิปทาตัวเองจากไม่ดีให้มันดี จากขี้เกียจก็ให้มันขยัน ต้องตั้งใจทำตั้งใจปฏิบัติ ถ้าไม่อย่างนั้นน่ะชีวิตของเรามันต้องมีปัญหาแน่


วัดคือข้อวัตรปฏิบัติ วัดไม่ใช่กุฏิวิหารลานเจดีย์ ที่เรามาบวชในวัดนี่คือวัดของผู้มีข้อวัตรปฏิบัติ ถ้าเรามีข้อวัตรปฏิบัติถึงจะเป็น “วัดที่แท้จริง”


ถ้าเราไม่มีข้อวัตรปฏิบัติ เรากำลังจะเน่าจะเห็นจะตายแล้ว เรายังไม่ตายเราก็เน่าก็เหม็นแล้วเพราะไม่มีข้อวัตรปฏิบัติ


เรานุ่งห่มผ้ากาสาวพัตร์ปลงผมนี้มันเป็นแบบฟอร์มเฉย ๆ ถ้าเราไม่มีข้อวัตรปฏิบัติอย่างนี้มันใช้ไม่ได้ มันทำให้ศาสนาเสื่อม ทำให้วัดเสื่อม ผู้ที่มาบวชก็ถือว่าเป็นบาปมาอาศัยพระพุทธศาสนากิน เลี้ยงชีพแล้ว แต่ไม่ปฏิบัติ ชื่อว่าเป็นผู้ไม่กตัญญูกตเวทีต่อพระพุทธเจ้า เป็นผู้ทำให้ศาสนาหมดไปเสื่อมไป

 

 


พระพุทธเจ้าท่านตรัสว่ามันหนักวัด หนักแผ่นดิน ไม่ได้เกื้อกูลไม่ได้เสียสละ ไม่ได้เดินตามสายลาง ตามพระพุทธเจ้า ไม่ได้ปรับตัวเองเข้าหาศีลเข้าหาธรรมวินัย ถืออัตตาตัวตนเป็นใหญ่อย่างนั้นไม่ได้ เป็นคนทิฐิมานะมาก เจ้าอารมณ์อย่างนั้นไม่ได้


วันหนึ่ง ๆ เอาแต่ถือฟอร์มว่าตัวเองห่มจีวรโกนหัวอย่างนั้นไม่ได้ มันไม่ตรงเจตนาของพระพุทธเจ้า ที่ทรงมีเมตตาเผยแผ่พระศาสนา ให้ทุกคนเข้าถึงพระนิพพานกัน


เมื่อตัวอย่างมันไม่ดี กุลบุตรลูกหลานที่เกิดมาภายหลังก็ลำบาก พระเณรเราต้องปรับปรุง แม่ชีหรือผู้ที่มาถือศีลในวัดต้องปรับปรุง ถ้าไม่อย่างนั้นน่ะอนาคตเราไม่สดใสแน่ เวลาแก่เฒ่ามาจะลำบาก เพราะคุณธรรมของเรามันไม่มี ใครเค้าจะอยากอุปัฏฐากเรา อยากจะมาดูแลเรา เพราะเรามันไม่มีคุณธรรมอะไร ให้แก้ไขตัวเองนะ ส่วนไหนที่มันบกพร่อง


ผู้ที่มีอินทรีย์อ่อนมาก ๆ มันมีอยู่ทุก ๆ วัดเป็นส่วนใหญ่ พวกที่หัวไม่ดีแล้วยังปฏิบัติไม่เก่งมันมีมาก หัวดีน่ะถ้าเราปฏิบัติไม่ดีเค้าเรียกว่าเป็นคนกะล่อน อย่างนี้มันก็ใช้ไม่ได้นะ

 


พระพุทธเจ้าสอนเรานะ เราเป็นคนหัวดีต้องปฏิบัติให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไป


ถ้าเราเป็นคนหัวไม่ดี เราปฏิบัติให้ดี ๆ เป็นคนซื่อสัตย์เอาข้อวัตรเป็นหลักไว้ เคร่งครัดในศีลไว้ เคร่งในข้อวัตรปฏิบัติไว้ ถ้าเราปฏิบัติอย่างนี้ทุกคนก็รับได้ พอใจ


พระพุทธเจ้าสอนเราอย่าได้พากันออกจากวัดบ่อย ๆ มีธุระมากมีกิจมาก ถ้าเราไม่ได้ออกนอกวัด แต่เราไม่มีข้อวัตรปฏิบัติ ชื่อว่าไม่อยู่ในวัดเหมือนกันเพราะเราไม่มีข้อวัตรปฏิบัติ


พระพุทธเจ้าท่านไม่ให้เราผิดศีลผิดข้อวัตรปฏิบัติ ถ้าผิดข้อวัตรแล้วใจมันไม่สงบ ถ้าผิดศีลแล้วใจมัน ไม่สงบ การพัฒนาตัวเรามันต้องพัฒนาที่ศีลของเราข้อวัตรปฏิบัติของเรา ถ้าศีลถ้าข้อวัตรของเราดีใจของเรามันก็สงบ เพราะความสงบไม่สงบมันเป็นผลของการปฏิบัติศีล ปฏิบัติข้อวัตรปฏิบัติ


สำหรับญาติโยมผู้ที่อยู่บ้าน โยมต้องเอาที่บ้านเป็นที่ปฏิบัติธรรม เพราะชีวิตของเรามันอยู่ที่บ้านไม่ได้อยู่ที่วัด เราปฏิบัติอยู่ที่บ้านหรืออยู่ที่วัด ที่ทำงาน ก็ตัวเรานี้เป็นผู้ปฏิบัติ โยมจะปล่อยให้ตัวเองเสียเวลา เสียโอกาสไม่ได้ ถ้าอยู่บ้านอยู่ที่ทำงาน เราก็ปฏิบัติที่นั่น เราอย่าพากันเข้าใจผิดว่าปฏิบัติที่บ้านไม่ได้ มันไม่สงบ ถ้าไปคิดแบบนั้นมันไม่ได้ปฏิบัติ เราไปทิ้งข้อวัตรปฏิบัติ ทิ้งทางธรรมน่ะ แทบจะไม่เหลืออะไรเลยอย่างนั้นไม่ได้ไม่ถูก

 


ถ้าเราตั้งใจปฏิบัติอยู่ที่ไหนก็ปฏิบัติได้ ถ้าเราเป็นคนไม่เห็นแก่ตัวที่ไหนมันมีประโยชน์หมด ที่ไหนเค้าก็ต้องการ กายวาจาใจมันประเสริฐ ทุกคนต้องการหมด


เราจะไปทิ้งศีลทิ้งธรรมไม่เหลืออริยทรัพย์เลย มันไม่ดี มันไม่ถูก ก็ให้เข้าใจใหม่นะว่าเราเป็นโยมเราก็ปฏิบัติที่บ้าน ถ้าเราไปที่ทำงานก็ปฏิบัติที่ทำงาน พระอริยเจ้าครั้งพุทธกาลเค้าก็ปฏิบัติที่บ้านที่ทำงาน วันพระเค้าก็ค่อยมาถือศีลอุโบสถ


ถือว่าเราเป็นคนโชคดีนะมีบุญวาสนา ให้เราพากันประพฤติปฏิบัติที่บ้านที่ทำงานนั่นแหละ ใครเค้าจะปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติมันก็เรื่องของเขามันไม่เกี่ยวกับเรา ให้เข้าใจให้มันดี ๆ นะ มันจะได้ไม่ปิดกั้นตัวเอง มันจะได้ไม่บล็อคตัวเองให้ไม่เจริญก้าวหน้า


โลกธรรมที่มันสัมผัสกับใจของเราในชีวิตประจำวันทุกท่านต้องผ่านให้ทุก ๆ น่ะรับรู้อย่างแจ่มแจ้ง แล้วก็ปล่อยวาง เค้านินทาเรา เราต้องขอบคุณเค้า ทำไมถึงขอบคุณเราจะได้ทำใจ ถ้าเค้าสรรเสริญ เราจะได้ทำใจอยู่เหนือความยินดี สิ่งต่าง ๆ เราจะได้ฝึกใจถ้าเราไม่มีเราก็ไม่ได้ฝึกใจ


ในชีวิตก็มีแต่โลกธรรมทั้งวัน แม้แต่ตัวเราเองก็ต้องขอบคุณตัวเองเพราะตัวเองมันเป็นคนขี้เกียจ จะได้ละความขี้เกียจ จะได้ละความขี้เกียจจะได้ละสิ่งที่เป็นบาปเป็นอกุศลออกจากใจของเรา ถ้าเราคิดให้ดีมองในทางที่ดี สิ่งที่ว่ามีโทษเอามาใช้ประโยชน์หมด ส่วนใหญ่น่ะคิดว่าสิ่งต่าง ๆ มารบกวนนะ ไม่ได้คิดว่า สิ่งต่าง ๆ มาฝึกใจของเรา

 

 


พระพุทธเจ้าท่านให้เราสร้างบารมีสร้างความดีอย่างนี้ อยู่ที่ไหนเราก็ปฏิบัติได้ มันจะไม่ได้เสียเวลา ในการประพฤติปฏิบัติ

 

หวังว่าทุกท่านทุกคนจะได้เข้าใจพระธรรมคำสั่งสอนแล้วน้อมไปประพฤติปฏิบัติให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยกันทุกท่านทุกคนเทอญ

 Large_tt458

 

 

พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์เมตตาให้นำมาบรรยาย
เช้าวันจันทร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๕
(เพิ่มเติมจากค่ำวันพุธที่ ๑๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔)

หมายเลขบันทึก: 488247เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2012 22:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 พฤษภาคม 2012 13:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท