ปิดเรียนปีนี้ ผู้เขียนวุ่นวายอยู่กับการหารังให้ลูกอยู่ เพราะคิดอยู่เสมอว่า..ใกล้ถึงเวลาที่เราจะกลับไปบ้านเก่า....อยากดูความสำเร็จของลูกๆ เมื่อก่อนเคยคิดว่าเมื่อลูกเรียนจบจะให้ลูกกลับมาหางานทำที่บ้าน ผู้เขียนจะสร้างรังนอนอันแสนอบอุ่นไว้...แต่ด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น พี่กานต์ ทำงานที่ มสธ. สัก 5-10 ปีน่าจะย้ายมาบ้านก็ได้ แต่ เขามีโรคประจำตัวมากมาย ต้องพบกับหมอทุกเดือน ทุกสามเดือน จึงคิดว่าเขาน่าจะอยู่ใกล้โรงพยาบาลที่ดีที่สุดดีกว่า น้องกวาง เรียนวิศวะ หางานตามต่างจังหวัดคงยาก อีกทั้งปัยจัยภายนอกที่มาอยู่กับเขาแทนเรา เขาเป็นชาวกรุงเทพฯ ลูกคนเดียวคงยากที่เราจะได้ลูกเขามาอยู่กับเรา ผู้เขียนจึงต้องรีบปรับแผนชีวิตให้ลูกก่อนที่เราจะปรับไม่ได้ จึงคิดหาบ้านที่เป็นที่รวมรักและความอบอุ่นไว้ใกล้ลูก ทั้งที่การซื้อบ้านที่กรุงเทพฯที่แสนน่ากลัวจากภัยธรรมชาติและภัยจากมือมนุษย์ คนกรุงเทพฯเองเขาย้ายไปซื้อบ้านที่อื่นๆกันแล้ว แต่คิดว่าอะไรจะเกิดก็ช่างเถอะ ขอให้ชีวิตที่เหลืออยู่ วางรากฐานให้ลูกไว้ก่อน เมื่อไม่มีเรา ส่วนที่เหลือเขาคงคิดสานต่อเอง
ปิดเทอมนี้จึงไปอยู่กะลูก ใช้เวลาว่างทั้งหมด สืบ..เสาะ..หาที่อยู่ให้กับเจ้าชีวิตของเรา...ลูกรัก.. จากการหาทั้งทางอินเตอร์เนต จากไปดูสถานที่จริง มันมีปัญหาต่างๆนานา เช่น
- ความปลอดภัย
- ใกล้-ไกล จากที่ทำงานพี่กานต์
- กลัวน้ำท่วมเหมือนปีที่แล้ว
- ราคาแพง ผ่อนไม่ไหว
- ราคาถูก แต่ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก
ครั้งแรกจะซื้อแถวเมืองทอง แต่ส่วนใหญ่เปป็นทาวน์โฮม ราคาแพงสุดกู่แต่ใกล้ที่ทำงานพี่กานต์มากๆ เกือบตัดสินใจไปแล้ว ถ้าไม่ติดที่ว่า ต่อไปถ้าน้องกวางมีครอบครัว คงต้องซื้อใหม่อีกแน่ๆ เลย ไปดูใหม่
ครั้งที่สอง หมู่บ้านแถวแจ้งวัฒนะ ใกล้ๆนะแหละ แต่ราคาใกล้ 10 ล้าน....ไม่น่าสนใจ ^___^
ครั้งที่ สาม ราคา ถูกใจ บ้านก็หลังใหญ่ แต่ปีที่แล้ว น้ำท่วมข้างนอก 80 cm ในบ้าน 10 cm เลยเดินไปหาต่อ.......
ครั้งที่สี่ ราคาถูก หลังใหญ่ ผ่อนสบายๆ มีประกันโครงสร้างปีเดียว ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวก เงียบมากๆ รถโดยสารหายากมาก ต้องมีรถเป็นของตนเอง แต่พี่กานต์หมอห้ามขับรถ
สุดท้าย ตกลงใจซื้อที่หมู่บ้าน.......คลอง 2 ปทุมธานี เพราะลูกครูที่อยู่โรงเรียนเดียวกับผู้เขียน อยู่มาก่อนปีที่แล้ว น้ำไม่ท่วม ใกล้หน่วยราชการ ใกล้ห้าง (อิๆๆ) มีรถราสะดวก ใกล้ดอนเมือง ราคาพอกัดฟันผ่อนได้ สัก 10 ปี (ถ้าไม่ด่วนรีบกลับบ้านเก่า) ส่วนที่เหลือเขาสองคนคงช่วยกันได้ ที่ชอบคือ อาและหลานๆ เขาอยู่หมู่บ้านใกล้ๆกัน มีคนใต้อยู่หลายหลัง เวลาพี่กานต์เจ็บป่วย คงไม่โดดเดี่ยว
จึงตกลงจองบ้านไป 5 หมื่น วิ่งขึ้นลงจัดทำเอกสารกับธนาคาร (ตามประสาคนยากจน) แล้วก็ต้องไปรับโอนบ้านภายใน 30 วัน คงเสร็จภาระไปอีก 1 ภาระ ถ้าน้องกวางเรียนจบโท (อีก 1 ปี หรือปีกว่าๆ) แล้วเขาไม่เรียนต่อ มีงานทำ คงเสร็จภาระที่ 2 และเมื่อสองคนมีคนช่วยดูแล แทนเรา ภาระเราคงเสร็จ วางมือ กลับบ้านไปอย่างมีความสุข (หวังไว้เช่นนั้น)
กลับมาจัดการกับตัวเอง เมื่อเงินเดือนโดนหักค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายน้องกวาง หมด.. ต้องมาทำบัญชีรับจ่ายใหม่ อยู่กันแค่ 2 คน (ยาย) ค่าใช้จ่ายคงน้อยลง อีก 2 ปี คงมีรายได้จากสวนยางพารา สวนผลไม้ เล็กๆ
ปีนี้น่าจะเปิดร้าน สอนคอมพิวเตอร์ เด็กในหมู่บ้านเพื่อรับกับ แท็บแลต และสอนการใช้คอมพิวเตอร์แก่เด็กโตๆ คงไม่เปิดเป็นร้านเกม เพราะไม่อยากส่งเสริมเด็กวัยรุ่น ที่ใช้เวลาว่างไม่เป็นประโยชน์
จึงวางแผนว่า มิถุนายน น้องกวางปิดเทอม จะวางแผนจัดระบบคอมพิวเตอร์ ในร้าน ต้องใช้ความรู้เด็กปริญญาโท อิเลกทรอนิกส์ วิศวะไฟฟ้า วิศวะพลังงาน (เพื่อนๆคู่หูเขา) คงเสร็จทัน เปิดเดือนกรกฏา-สิงหา (ก่อนผ่อนบ้าน)
แผนมีเยอะะ เพราะเป็นคนชอบวางแผน จะสำเร็จดังที่หวังหรือไม่ ต้องติดตามตอนต่อไป ค่ะ
ขอบคุณบ้านโกทูโนที่เปิดโอกาส ให้ได้เขียนฝัน
บ้านที่เลือกแล้ว ว่าดีที่สุด
เย้ ๆ อยากซื้อบ้านบ้างจัง
ยังหาไม่ได้เลยค่ะพี่สอน
ไปซื้ออยู่ใกล้ๆกันไหม น้องอิง พอปิดเทอมเราก็ไปสังสรรค์กัน
อนาคตของลูกเราต้องวางไว้ตั้งแต่เรามีแรง เมื่อแก่ชราจะได้นั่งชื่นชม
ความฝัน...เสมือนหมุดหมายของชีวิตครับ
บ้าน คือ ลมหายใจของการมีชีวิต...
....
ขอบคุณน้องอาจารย์ทั้งสองคนค่ะ