.. ๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕...
..pax vobiscum, (๘)
เห็นเมื่อไหร่ก็อยากไปอีกครั้งนะคะ ธรรมชาติที่บริสุทธิ์ แต่กำลังถูกคุกคามจากฝีมือคนอีกแหละนะ อิอิ
ขอบคุณค่ะคุณสันติสุข ที่แวะเข้ามาทักทาย .ถึงแม้ว่า จะสนุกในการเดินทางไปยังที่ต่างๆ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะคิด ทั้งๆที่เตือนตนว่าทุกอย่างไม่จีรัง เปลีียนแปลงไปตามสภาวะ แต่นี่มันเปลี่ยนเร็วมาก..โดยเฉพาะที่ซึ่งได้รับการตีตราว่าเป็นมรดกโลก...เสียดายกับสิ่งที่แลกมา...ประชาชนชาวโลกควรจะได้ชื่นชม ความเป็นธรรมชาติไปนานๆ...แต่นั่นหล่ะค่ะ ที่ไหนก็จะคล้ายๆกันหากธุรกิจเบ่งบานจนอำนาจเงินปิดหู ปิดตาก็สร้างความเสียหายมากมายต่อธรรมชาติ ตัวอย่างบ้านเราก็มีให้เห็น ทางใต้ของเราไม่ว่าจะเป็นสมุย หรือเกาะพีพี หรือที่อื่นๆ ไปเที่ยวหลายครั้งก็ต้องทำใจเปรียบเทียบกับครั้งก่อนๆ ..ต้้องช่วยกัน เร่งสร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการถึงผลระยะยาวหากไม่การบริหารจัดการให้เหมาะสม ..ประเดี่ยวอาทิตย์นี้ช่วงหยุดหลายวันจะไปเวียดนามตอนใต้สัก 5 วัน ดูว่าเปลียนไปมากมายอย่างไร แล้วจะมาแบ่งปันค่ะ:-))
ขอบคุณ คุณรินดาค่ะ อารมณ์เดียวกันเลย อิอิ..ถามว่าจะไปอีกไหม๊ ก็ยังจะตอบว่าไป เพราะส่วนอื่นๆที่ดีๆก็ยังมีให้เห็นมากมาย แต่อดจะไม่ได้ที่จะรู้สึกเป็นห่วง เพราะไม่อยากจะให้เปลีี่ยนไปเร็วนักนะค่ะ :-))
สวัสดีค่ะคุณมะเดื่อ..ขอบคุณสำหรับภาพ หาดสามพระยา..วันก่อนได้ดูบันทึก..ที่สมาชิกน้อยๆไปเที่ยวกัน สนุกสนานนะค่ะ...
สวยงามค่ะ เพื่อนร่วมงานชวนไปหลายครั้งแล้วยังไม่ได้ฤกษ์เสียที วันนี้ความอยากเพิ่มขึ้นมาตะหงิดๆ ค่ะ
ขอบคุณค่ะ
คุณปริมค่ะ ถ้ามีโอกาสความสวยงามตามธรรมชาติรออวดสายตาพลเมืองชาวโลกอยู่ค่ะ ก่อนที่อ่าวฮาลองจะถูกทำร้ายไปมากกว่านี้ อืม...ขอแนะนำว่าเลือประเภทที่ล่องเรือด้วยนะค่ะ สงบ สดชื่นดี บังเอิญว่าช่วงที่พี่ไป ขอไปล่องเรือด้วยเพราะชอบ สมาชิกในเรื่อทั้งหมดมีเพียง 13 คน บนเรือลำใหญ่ เลยเป็นอะไรที่ง่ายๆ บรรยากาศพูดคุยกันสบายๆ บนเรือ แต่ถ้าคุณปริมชอบทะเล (ไม่กลัวผิวเสีย ;-)) อิอิ) และเดินทางไม่ไกลจากสิงค์โปร์ แถบปักษ์ใต้ฝั่งอันดามันของบ้านเราก็สวยงามไม่น้อยกว่ากันเลยค่ะ :-))
สวัสดีครับ คุณข - ชา. แวะมาชมภาพที่เวียตนามบ้าง ที่จริงเคยชมแต่ในทีวี..ถ้ามีโอกายอยากไปกันเองทางบกและเที่ยวอย่างสบายๆโดยไม่ต้องไปตามตารางของทัวร์ต่างๆ ถ้าไปเมื่อไรจะลองเขียนที่ซึ่งไม่ซ้ำกันมาให้ได้อ่านโดยทั่วกัน.. สวัสดีอีกครั้งครับ. โตนี่ - ฟาง. ๑๕ พ.ค.๕๕
สวัสดีค่ะคุณ "โตนี ฟาง"..ขอบคุณที่แวะมาทักทาย จริงๆถ้ามีโอกาสขับรถเข้าไปก็จะสนุกมากนะค่ะ หลายคนก็ใช้วิธีนั้นโดยส่วนตัวแล้วชอบเช่นกัน ไปเจอกับกลุ่มคนไทยที่ขับรถขึ้นไปจากเวียดกลาง/ใต้ เห็นว่า เข้าทางมุกดาหาร?? ข้ามมา แต่ระบบการจราจรบ้านเค้า ใช้รถพวงมาลัยซ้ายค่ะ ตามฝรั่งเศษ ซึ่งต่างจากบ้านเรา ช่วงที่ไปก็ออกจากสุวรรณภูมิไปยังสนามบินนอยไป..จากนั้นก็เที่ยวกันเอง จะได้อรรถรสมากกว่า เฉพาะตอนไปอ่าวฮาลองหล่ะค่ะ ก็จะบุ๊คทัวร์เพราะการเดินทางจับรถประจำทาง/แท๊กซี่ไป ไม่สะดวกนัก เลยก็ปรับไปตามสถานการณ์ หวังว่าคุณโตนี คงมีโอกาสไปเที่ยวชื่นชมด้วยตนเองนะค่ะ จริงๆบ้านเราก็มีที่เที่ยวน่าสนใจมากมาย แต่ก็เพราะกลุ่มอยากไปก็เลยไม่ขัดกัน ตามใจกันไปเที่ยวที่ต่างๆไปบ้าง ประสบการณ์จากฮาลอง เบย์ก็ได้ใช้เป็นตัวอย่าง ที่เล่าให้ศิษย์ิฟัง คิด ถึงการพัฒนาที่ส่งผลต่อระบบนิเวศทั้งระยะสั้น/ยาว ไม่ว่าที่ไหน สุดท้ายมีผลกระทบต่อโลกใบน้อยของเรา...ทั้งนั้นค่ะ
อ่านเพลินได้ความรู้และได้มุมมองที่น่าสนใจมากค่ะ ตัวเองก็เป็นคนชอบเที่ยวแบบอิสระอย่างนี้เหมือนกัน ยังไม่เคยไปเวียดนามเลยค่ะ ได้ชมแต่สารคดี
ชมสารคดีอ่าวฮาลอง ที่ไม่ใช่สารคดีท่องเที่ยว เห็นถึงความยากลำบากของคนเวียดนามที่อาศัยอยู่ในเรือค่ะ น้ำจืดหายากมาก ลำพังแค่คนของเขาก็คงสร้างของเสียให้ท้องน้ำมากมายอยู่เป็นประจำแล้วยังบวกกับการต้อนรับนักท่องเที่ยวอีก อีกไม่นานสภาพน้ำคงถึงขั้นวิกฤต แต่อย่างไรก็ตามชื่นชมสปิริตของคนเวียดนามที่อดทนมาก ตอนนี้ได้ข่าวว่าเขาสามารถผลิตผลไม้เมืองร้อนแบบเราได้มากมาย ภาพชาวสวนพายเรือขนผลไม้ออกจากสวนเหมือนบ้านเราสมัยก่อนเลย
คุณนุชคะ ..ขอบคุณค่ะ ความรู้สึกเช่นเดียวกันเลย เมื่อได้อ่านบันทึกของคุณนุชที่นำมาแบ่งปัน อย่างเช่นล่าสุดที่ไปญี่ปุ่นค่ะ .เวียดนามมีอะไรที่น่าเรียนรุ้มากมาย ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีความเป็นอยู่ สัตว์ พืชฝัก ผลไม้ หรืออาหารการกิน เพราะในประวัติศาสตร์ที่เรียนตั้งแต่เด็กๆ กล่าวไว้มาก และเราก็ได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมไหลไป/มา.. ครั้นเมื่อสบโอกาสก็ไปเยี่ยมเยือน เหมือนเยี่ยมเพื่อนบ้านใกล้เคียง ล่าสุดได้มีโอกาสไปเียี่ยมเวียดนามตอนใต้ค่ะโดยเฉพาะ Mekong Delta ที่คิดอยากจะไปอยู่นานแล้วหล่ะค่ะ ..เอาไว้เมื่อเวลาเหมาะๆจะเล่าสู่กันฟังนะค่ะ ..คุณนุช. เอ..อยากร้องเพลงอะไรประกอบดีนะ เมื่้อเจอคุณนุช:-)) เอาเพลง "ยวนยาเหล"..เคยฟังไหม๊ค่ะ?? ที่มี ประโยคว่า "...จะซื้อเปลยวน ที่ด้ายหย่อนๆ ไว้ให้น้องนอน ไกวเช้าไกวเย็น" นึกถึงเพลงนี้ เพราะไปที่ไหนในเีวียดนาม ก็จะเห็น"เปลยวน" ผูกเรียงราย เอาไว้พักผ่อน เรียกได้ว่า วัฒนธรรมเปลยวนจริงๆค่ะ เลยถึงบางอ้อ... ว่าทำไมเค้าถึงเรียกเปลยวน เพราะสาเหตุนี้กระมัง :-)) .