ท่านผู้อ่านที่รักท่านคงเคยได้ยินคำกล่าวที่ว่า "เสียทรัพย์สินเสียเล็กน้อย เสียเงินทองเสียมากขึ้น เสียสุขภาพเสียหมดทุกอย่าง" การดูแลรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่ง ต่อให้ท่านมีเงินร้อยล้านพันล้านแต่ต้องให้อาหารทางสายยางจะมีประโยชน์อันใด
วันนี้ผู้เขียนขอนำท่านมาเรียนรู้กิจกรรมหลักสูตรล้างพิษที่น่าสนใจและเชื่อแน่ว่าทุกท่านที่รักสุขภาพจะได้ประโยชน์อย่างยิ่งในการดูแลตนเอง ลองติดตามประสบการณ์ตรงของผู้เขียนดูนะคะ
บ่ายวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๕ ผู้เขียนได้รับโทรศัพท์เชิญชวนให้เข้าร่วมกิจกรรมหลักสูตรล้างพิษระยะสั้น (๒๑-๒๓ เมษายน) จากคุณครูวิบุลย์ ปานบุญ บอกให้เข้าร่วมหลักสูตรระยะสั้นได้เพราะผู้ที่จองไว้มาไม่ได้เนื่องจากไม่สะดวกในการเดินทาง โดยหลักสูตรนี้เริ่มตั้งแต่วันที่ ๑๘ - ๒๓ เมษายน อย่างน้อยไปเรียนรู้ก็ยังดี หลักสูตรระยะยาวเสียค่าใช้จ่าย ๒,๕๐๐ บาท ระยะสั้น ๑,๗๐๐ บาท สถานที่คือ สถาบันฝึกอบรมผู้นำ มูลนิธิพลตรีจำลอง ศรีเมือง อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี
ผู้เขียนตัดสินใจไปเพราะต้องการให้พี่สาวไปร่วมกิจกรรมด้วยเพราะมีปัญหาภาวะไตเริ่มเสื่อม โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันอุดตันเส้นเลือด ลำพังตนเองร่างกายยังปกติมีปวดเมื่อย มึนศีรษะบ้างบางเวลา
เราสามคนรวมทั้งพี่วิบุลย์ ปานบุญซึ่งลงทุนมาช่วยงานเพื่อนำความรู้ไปช่วยคนอื่นต่อไปร่วมเดินทางไปด้วย (พี่เขาไปช่วยงานตั้งแต่วันที่ ๑๘ เม.ย.แล้วแต่วันนี้แวะมาร่วมงานเลี้ยงรุ่นศิษย์เก่าที่ มหาวิทยาลัยศิลปากร)
เดินทางออกจากนครปฐมเกือบสี่โมงเย็น โดยงดอาหารตั้งแต่บ่ายสามโมงเพื่อกิจกรรมล้างพิษ มาถึงโรงเรียผู้นำเกือบหกโมงเย็น ภารกิจแรกก็คือการ วัดความดันโลหิต และลงทะเบียน พี่สาวความดันโลหิต ๑๘๑/๙๓ ส่วนผู้เขียน ๑๔๕/๘๗
กิจกรรมแรกก็คือการดีท็อกซ์ (สวนลำไส้ระบายพิษ) นับเป็นครั้ง
ครั้งแรกในชีวิตของเราพี่น้อง เคยได้ยินเขาพูดและพี่วิบุลย์ชวนทำแต่ก็ไม่กล้าคิดว่าคงจะเจ็บและน่ากลัวไม่น้อย แต่พอทำเข้าจริง ๆ ไม่ลำบากอย่างที่คิดเพียงมีอุปกรณ์พร้อม ใช้น้ำด่างและน้ำอุ่นสวนระบาย มีสายยางพร้อมทั้งแจก
น้ำมันมะพร้าวเพื่อทาปลายสายยางและทาบริเวณก้นเพื่อมิให้ระคายเคือง
พี่วิบุลย์ช่วยแนะนำขั้นตอนการวางขวดน้ำให้ได้ระดับมิให้สูงหรือต่ำเกินไป การปล่อยน้ำไม่ให้ช้าหรือเร็วจนเกิดไป ช่วยดูแลจนเราสามารถทำได้ นับว่าตื่นเต้นไม่น้อย และก็เป็นไปด้วยดี หลังจากสวนล้างลำไส้ก็ขับถ่ายออกตามปกติ เมื่อกลับไปวัดความดันโลหิตพบว่า พี่สาวเหลือ ๑๒๑/๖๓ ส่วนผู้เขียนเหลือ ๑๒๓/๗๔ นับเป็นความอัศจรรย์ครั้งแรกที่เราได้พบ
คืนนี้พวกเรากว่า ๑๓๕ ชีวิตที่เข้าร่วมกิจกรรมต่างเข้านอนที่บ้านพักธรรมชาติโดยมีห้องน้ำให้คนละ ๑ ห้องเพื่อความสะดวกในการสวนลำไส้ระบายพิษ
เสียงหริ่งเรไรร้องระงมสลับกับเสียงตุ๊กแกซึ่งร้องเป็นระยะ ๆ ได้นอนในมุ้งขาวสะอาด ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอนหอมสะอาด ได้กลิ่นดอกไม้รวยรินยิ่งทำให้พวกเราหลับอย่างสบายใจ
วันรุ่งขึ้นเวลาตีห้าต่างมารวมตัวกันเพื่ออมน้ำมันมะพร้าวล้าง
สารพิษเป็นเวลา ๑๕ นาที ระหว่างที่อมน้ำมะพร้าวก็ออกกำลังกายไปด้วย
จากนั้นพวกเราต่างไปรวมตัวกันที่สระน้ำ ดื่มน้ำสมุนไพรเพื่อกวาดล้างลำไส้ ๕ แก้ว (น้ำสมุนไพรรสชาติหอมอร่อย เรียกว่าน้ำสามสหายทำจากอ้อยดำ ใบเตย และมะตูม) พอกหน้าและแช่เท้าด้วยน้ำสมุนไพรเพื่อให้หน้าตาผ่องใสและร่างกายแข็งแรง
กิจกรรมดี ๆ ยังไม่หมดยังมีสาระดี ๆ และความรู้เรื่องการขับสารพิษ
จากตับและถุงน้ำดี ตลอดจนความเป็นมาและจุดเริ่มต้นของการล้างสารพิษในเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ไหน อย่างไร ? ค่อยติดตามอ่านโอกาสหน้านะคะ
เป็นกิจกรรมกลุ่มเพื่อสุขภาพที่วัดผลได้..รออ่านต่อไปค่ะ..
สวัสดีค่ะคุณธรรมทิพย์
...ขอบคุณบันทึกดีดี ขอให้สุขภาพแข็งแรงครับ
กิจกรรมสร้างสุข สุขสร้างได้ด้วยตนเอง
อยากเข้าร่วมกิจกรรมบ้างจังเลยคะ เคยขับนิ่วได้เอง แต่ก็ไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ก็ทำตามสูตรเป๊ะนะคะ เลยอยากเข้าร่วมจริงๆจังๆน่ะคะ
2 เดือน ขอบคุณมากที่สอนให้ดูแลสุขภาพร่างกายของตนเองและนำมาปรับใช้กับครอบครัว ดีมาก ๆ ดูโปรดแกรมไว้จะไปอีกเป็นครั้งที่ 2 ค่ะ
สนใจมากเลยคะขอเบอร์ติดต่อด้วยคะ