งานถาวร : ๔ / ๑ - รับ : ส่งพนักงานต่อ..


โตนี่ - ฟาง. GotoKnow.

* นายลีมักจะชอบขับรถไปตามที่ต่างๆ ในพื้นที่บ้าง ที่กรุงเทพฯบ้าง. วันหยุดที่เขาว่างเขามักจะชวนผมและครอบครัวไปเที่ยวที่พัทยาบ้าง พาไปดื่ม - กินบ้าง..ผมว่าเขาเป็นลูกค้าที่ใจสปอร์ตคนหนึ่งตั้งแต่มีลูกค้ามาอยู่ที่สำนักงานแห่งเดียวกัน.

 

 

 

ปกติเขาจะเปิดห้องไว้ตลอดเวลา ช่วงใดว่างนายลีมักจะออกมาคุยกับผม ถ้าเขายุ่ง..ส่วนใหญ่จะตะโกนคุยกัน เราจึงสนิทกันพอสมควร.  งานของผมมีมากกว่าเพราะต้องทำเอกสารคิดเงินจากเขาด้วย พอใกล้เที่ยงเขามักจะตะโกนถามผมเสมอๆว่าเฮ้ ! ปั่นป๊ง..กีนอารายดี ? Hey , Panpong what would you like to have for lunch ? ถ้าผมพร้อมเราจะออกไปพร้อมกัน. ไปคันเดียวกันบ้าง ไปรถคนละคันบ้างในกรณีที่อิ่มแล้วต่างฝ่ายต่างต้องทำงานต่อ..นายลีเป็นฝ่ายจ่ายตลอดครับพอผมขยับจะจ่ายบ้าง..เขาท้วงไว้แล้วประกาศว่า.ถ้าน้อยจ่ายได้..ถ้ามากเขาขอจ่ายเอง.. แน่นอนครับเพราะผมคงไม่มีเงินจ่ายมากขนาดนั้น  พี่แกมีเงินเดือนเทียบเงินบาทแล้วประมาณ..สองแสนบาท.  แถมยังสามารถนำใบเสร็จไปเบิกคืนในยอดเอ็นเตอร์เทรนได้อีกต่างหาก...เรากินอาหารโดยไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ใดใดเลยครับ.อย่างถูกๆมื้อละ ๖๐๐ - ๙๐๐ บาท. ผมสามารถซื้อกับข้าวกินได้เกือบ ๑ อาทิตย์ทีเดียว. เห็นรายการอาหารแล้วก็สมน้ำสมเนื้อครับ. พี่ลีแกชอบสั่งปลาแดดเดียวราดน้ำจิ้ม. ปลาสำลีบ้างปลาอินทรีย์บ้าง..คิดราคาตามน้ำหนัก. ปูผัดผงกะหรี่ , ต้มยำกุ้งตัวใหญ่และที่พี่แกชอมมากคือหอยนางรมสดสดพร้อมน้ำจิ้มซีฟู๊ด. นายลีแกเลี้ยงผมคนเดียวยังไม่พอน๊ะครับ แกท้าให้ผมพาครอบครัวไปพบด้วย วันหนึ่งผมพาลูกชายไปด้วยแล้วบอกว่า..วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดด.ช.แบ๊งค์.พี่แกหยิบเงินมาให้สองพันบาทแถมยังเลี้ยงมื้อเย็นพ่อและแม่นายแบ๊งค์อีกต่างหาก วันวาเลนไทน์แฟนสาวบินมาจากสิงคโปร์ นายลียังมีน้ำใจโทรเรียกให้ผมพาครอบครัวไปร่วมวงด้วยที่ร้านอาหารยื่นไปในทะเล ที่บางเสร่.Thanks for your kindness , my friend.วันหยุดพี่แกให้ผมพาทัวร์พัทยาก่อนโดยแกเป็นผู้จ่ายเพียงคนเดียว  เรามีความสุขแบบครอบครัวและเพื่อนสนิทด้วยกัน ส่วนเรื่องกินนั้น..เล่นเอาผมเบื่อไปทีเดียวเพราะเที่ยงและเย็นนั้นส่วนใหญ่ เราจะเป็นเจ้าประจำของร้านอาหารสีฟ้า.ร้านมีระดับ. ที่ก.ม.สิบ สัตหีบ. บางวันผมต้องขอตัวเพราะอยากกินฝีมือแม่ครัวหัวป่าประจำตัวบ้าง..ต่อมาวันหนึ่งผมได้มารับพนักงานตามปกติ และช่วงที่ได้ขับรถตามไปยังท่าเรือนั้น ผมแวะเอาของที่สำนักงาน ไม่นานนัก.  และยังอยู่ในเวลาที่ทางผู้รับผิดชอบเรื่องเรือแจ้งไว้.

๒๖. ขอลงภาพเก่าอีกครั้ง. - ในห้องอาหารที่แท่นเจาะน้ำมัน. ที่บังคลาเทศ ปี ๒๕๔๐

นายลีก็นำคนของตัวเองมาลงเรือด้วย  เขากลับมาที่สำนักงานและบอกผมว่า..จนท.ปล่อยเรือกำลังตามหาผมอยู่..พอตามมาถึงท่าเรือ.ปรากฎว่าผู้ควบคุมให้พนักงานทุกคนลงเรือได้หมด  ยกเว้นพนักงานที่ผมรับผิดชอบ   สร้างความแปลกใจให้กับผมเป็นอย่างยิ่ง..ผมถามเขาตรงๆเพราะคิดว่เขาพูดเล่นแต่เขาบอกว่า..ไม่ได้พูดเล่น..ผมพูดจริงๆน๊ะพี่.  ผมไม่ให้คนของพี่ลงเรือเพราะพี่มาช้า. เอ้าทำไมล่ะ ! ก็ยังไม่เก้าโมงเลยน๊ะ ก็ไหนประกาศว่าจะไม่ให้ลงเรือถ้ามาหลังเก้าโมงไงล่ะ ?  ไม่ได้ผมจะรีบปล่อยเรือแต่พี่แกก็เงียบอยู่ในที.  จนผมพูดขึ้นว่าถ้างั้นผมขอแก้ตัวสักครั้งเถอะ !ไอ้เหี้ยม. กระเทยราคาถูก. มันจึงยอมผมคิดที่จะยิงทิ้งอีกคน.ถ้าผมมีปืน..น่าเสียดายทุกครั้ง..บ่มีปืน.  ไม่งั้นมันหรือเราคงต้องมีอันเป็นไปแน่ๆ..ผมคงอยู่ในกองทัพนานเกินจึงไม่ค่อยรู้ว่า..งาน บริษัทนั้นก็ดำเนินกันไปอีกรูปแบบหนึ่ง  พนักงานจากบริษัทใหญ่มักจะกร่างและข่มเหงพนักงานจากบริษัทที่เล็กกว่า เช่นนายคนนี้..ถือว่าตัวเองอยู่กับบริษัทใหญ่กว่านั่นเองจึงกร่างกับผู้เขียน..เอาเข้าจริงพี่แกมิได้ใหญ่อย่างที่ตัวเองคิดเพราะถูกเลิกจ้างก่อนใคร..มีอีกหลายคนทั้งที่ปากก็เรียกผมว่าพี่ทุกคำ..แต่การกระทำมิได้เป็นเช่นนั้น ผมเคยพูดฝากเด็กไปบอกว่าถ้ายังไม่เปลี่ยนนิสัย..ผมจะเอาให้อ่วมก่อนจะถูกไล่ออก. ดูสิได้ผลครับเพราะตั้งแต่นั้นมาพี่แกไม่เคยคุกคามผมด้วยคำพูดอีกเลย.. ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้เหนือกว่าผมมากนัก เจ้านายชาวสก๊อตของเขาให้ตามผมไปพูดคุยด้วย..เขายังไม่กล้าโต้ตอบเลยครับได้แต่โทรมาแจ้งให้ผมไปคุยกันเอง..กะแค่คุยกับชาวต่างชาติพี่แกยังปอดแหกขนาดนั้นแล้วจะมากร่างกันเองทำไม ? ในที่สุดคนของผมก็ได้ลงเรือ..พร้อมแล้วเรือจะออกเดินทางทันทีเพื่อจะได้กลับเข้าฝั่งไม่ดึกนัก. ผมและผู้ที่เกี่ยวข้องจากบริษัทฯต่างๆ ก็จะต้องมารอรับลูกเรือกันอีกครั้งในช่วงเย็น..เพื่อไปพักค้างอีกหนึ่งคืน ที่รร.สวอนเลคและตัวพนักงานก็จะเริ่มเดินทางกลับบ้านพร้อมรถเที่ยวแรกของวันรุ่งขึ้น  ประมาณตีสองเศษๆ. ที่จริงผมว่าสะดวกกับพนักงานมากเพราะผู้โดยสาร..สามารถเลือกรถได้หลายสายทีเดียว  เริ่มตั้งแต่ไปกรุงเทพฯปลายทางคือสถานีรถสายเอกมัย  สามารถไปกับรถได้หลายสายสาย ๔๖  , รถจันทบุรี สาย ๔๑ ,รถตราด , สาย ๔๒.

๒๗. แท่นผลิตน้ำมัน ในทะเลเหนือ. Vallhall A Production Platform.ขอบคุณภาพจากเน็ท.

นอกจากนี้พนักงานยังสามารถ มาขึ้นต้นทางที่สัตหีบสาย ๓๖ ปอ.- ๑  หรือธรรมดา - สาย ๔๗. หรือเดินทางกับรถสาย ๕๗ ซึ่งวิ่งผ่านหน้าโรงแรม สายนี้จะไปตลาดหมอชิต.  แต่ถ้าจะเดินทางไกลพนักงานยังสามารถไปกับรถระยองไปถึงแม่สาย , เชียงใหม่ , อุดร , หนองคาย ฯ มีหมดทุกสายแต่ต้องรอตามเวลาที่เขากำหนดให้. ด้านนี้มีรถออกทุกชั่วโมงเช่นกัน.คือ ระยอง - หมอชิต ; ระยอง - โคราช  ข้ามเขาปักไปเลย ไม่ต้องไปต่อที่หมอชิตให้ปวดหัวแล้ว.  ที่สำคัญ..ต้องมีเงินซื้อตั๋ว.เข้าใจไหม? ขณะนำเรื่องนี้ลงในบล็อกรถบัสสายสัตหีบ - กรุงเทพฯ ได้เลิกกิจการไปแล้ว..ขาดทุนสิครับ.เพราะถูกรถทางของราชการแย่งผู้โดยสารยังไม่พอ..พี่น้องรถตู้ยังออกมาแย่งกันอีก..แถมยังขับแข่งกันโดยพักผ่อนไม่เพียงพอ..เราท่านๆจึงพบในสื่อต่างๆเสมอว่ารถตู้โดยสารแหกโค้งบ้าง คนขับหลับในบ้าง..คงต้องรอเวลากันต่อไปว่าเมื่อไร ? รถไฟหัวกระสุนจะออกให้บริการ..เมื่อเวลานั้นมาถึงจริงพี่-น้องรถตู้คงปิดกิจ การไปเอง..ก่อนที่พนักงานจะมาลงเรือผมต้องคอยประสานงานกับฝ่ายบุคคลตลอดเวลา ทั้งในและนอกเวลางาน. เพราะจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเสมอ. พนักงานบางตำแหน่งหรือบางคนจะมารายงานตัวในเวลาที่กระชั้นชิดมาก บ่อยครั้งที่ผมต้องพาไปตรวจโรค เรื่องความปลอดภัยระหว่างเดินทางนั้นทางเรือจะเป็นผู้จัดเตรียมเสื้อชูชีพให้พนักงานทุกคน Life Jacket.สวมก่อนลงเรือ  พอเรือแล่นออกไปจากท่าก็หมดหน้าที่ของผมแล้ว. ที่จริงผมหมดหน้าที่ตั้งแต่ส่งตัวพนักงาน ขึ้นรถของไทโปแล้วครับ.  ช่วงนั้น..ทางบริษัทสหจันทรเนตรต้องรับผิดชอบลูกเรือจากรร.บ้านฉาง มาจนถึงท่าเรือสัตหีบ และจนกว่าทุกคนจะลงไปอยู่ในเรือแล้ว จากนั้นทางเรือจะรับต่อทันทีที่เรือออกจากฝั่ง.แต่มีเหตุการณ์ที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น..ในช่วงนั้นมีข่าวว่าพายุจะมา และทะเลด้านนอกมีคลื่นสูงมาก...ทางบ้านของพนักงานคนหนึ่ง เธอเกรงว่าสามีอาจจะไม่ปลอดภัย ในการเดินทางไปทำงานครั้งนี้เธอรีบโทรมาดักที่โรงแรมทันที...พ่อสาระมีก็คงอยู่ในโอวาทครับ..เกิดไม่อยากจะเดินทางขึ้นมาไม่รู้ว่าที่จริงแล้วกลัวคลื่น..หรือกลัวเมียกันแน่  ! พี่แกไม่รู้จะทำอย่างไรดี..เลยรีบหาโอกาสเมามันเสียเลย.

๒๘. ขอนำภาพเก่ามาลงอีกครั้ง.  ผู้เขียนกับจนท.เซฟตี้ที่ริคบก - บังคลาเทศ. ปี ๒๕๔๐

** ช่วงนั้นได้เริ่มมีการตรวจ - เป่าแอลกอฮอล์กันแล้ว  ปรากฏว่านายคนนี้เป่าไม่ผ่านครับ..ปกติคนที่เป่าไม่ผ่านมักจะพยายามหาน้ำร้อนมาดื่มเพื่อไปไล่แอลกอฮอล์ออกจากร่างกาย  จะได้เป่าผ่านและสามารถไปทำงานได้   ถ้าใครเกิดเป่าไม่ผ่านขึ้นมาในสมัยแรกๆนั้นจะให้พนักงานพักรอที่รร.เดิมอีก๑คืน ระหว่างที่รอพนักงานให้หายเมาอยู่นั้น  ผมขอเดินหน้าต่อเรื่องลูกค้าที่กำลังมาเช่าห้องสำนักงานก่อนน๊ะครับ แล้วค่อยวกมารับลงเรือในเที่ยวของวันรุ่งขึ้น.  เช้านี้ผมได้รับแจ้งจากสำนักงานใหญ่ว่าจะมีลูกค้าย้ายเข้ามาอยู่ใหม่คือ  บริษัทเคมเทค ฯ  Chemtech. ผู้ชายคนไทยคือ พี่ อดิศร. พี่แกเคยทำงานให้กับบริษัทอมฤตฯ ที่ศรีราชา. แต่ลาออกมาทำให้กับบริษัทเคมเทคฯ  เพราะได้เงินมากขึ้นเกือบสามเท่า. * ถ้าใครมีโอกาสมาทำงานบริษัทแล้วจะรู้ว่า ถ้าเรามีความสามารถพอและที่ไหนให้เงินเดือนดีกว่า..ก็ควรจากไปแต่โดยดี.แต่ถ้ายังอยากอยู่ที่เดิมก็ตามใจน๊ะ ! เรามีสิทธิเลือกครับไม่เหมือนงานราชการ..ถ้านายไม่ชอบหน้าเขามักจะย้ายส่งเราไป. ยังที่ไกลแสนไกล..เพื่อนผู้เขียนโดนย้ายจากจันทบุรีไปนราธิวาสสาเหตุเพราะ..ทำความเคารพแล้วแต่นายแกล้งทำเป็นไม่เห็น ก่อนลาออกผมเคยทำความเคารพนายทหารเด็กๆที่จันทบุรีเช่นกัน พี่แกทำเฉย..ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นตัวเดียวกันกับที่ย้ายเพื่อนผมหรือไม่ ? ปัจจุบันมันเป็นนายพลเรือแล้วแต่ไม่น่าจะเกี่ยวกับข้าราชการบำนาญอย่างผมหรอกน๊ะ..นายที่ดีมีเยอะในกองทัพ..แต่นายเลวก็มีมากพอพอกัน..บางคนพอเป็นใหญ่เข้าหน่อยโกงกินแม้กระทั่งดินที่เขามาขุดทำสระเก็บน้ำหน้ากองพันฯ ปล่อยทหารกลับบ้านแต่เงินไปอยู่ในกระเป๋าใครก็ไม่รู้ ? แถมยังพูดแบบไม่อายอีกด้วยว่ากว่าจะจบข้าต้องใช้เงินไปมากพอมีโอกาสต้องขอเรียกคืนบ้าง..ไชโยประเทศไทย.. ขออภัยที่เถลไถลออกนอกเรื่องอีกแล้ว..หัวหน้าใหญ่ คือนายคี๊ท เครวี่. Mr. Keit Cravy. พนักงานหญิงมีสามคนเท่านั้น !  คนแรกออกจะแสบๆสักนิดแต่ดีน๊ะ..ที่หล่อนไม่คัน แสบเพียงอย่างเดียว. คนในย่านนี้เขาเรียกเธอว่าน้องดำ อีปากดำ.จากการแต่งตัวดูยังไงๆหล่อนก็เหมือนเมียเช่าฝรั่งคนหนึ่งครับ. ผมเขียนให้ทราบเท่านั้นมิได้ดูถูกใคร ? เสมียน - ชื่อน้องแก้ม หรืออะไรนี่แหละ ?

 ๒๙. ขอนำภาพเก่าลงอีกครั้ง. - ริคบกที่บังคลาเทศ. ปี ๒๕๔๐

ผมก็ลืมชื่อเธอเสียแล้ว.แม่บ้านอีกหนึ่งคน. แม่บ้านคนนี้ก็ไม่ใช่ย่อย.  คอยจะมาเกทับผมหรืออย่างไรก็ไม่ทราบครับ ? หล่อนไปแอบคุยกับลูกน้องผมเพื่อต้องการให้กลับมาเข้าหูผม. ดีน๊ะที่ผมไม่จี้ตามไปด้วย.  มีอย่างที่ไหนไปบอกลูกน้องผมว่า แม่บ้านที่บริษัทฯนี้รับเดือนละ ๒๗,๐๐๐ บาท.ที่เหลือทุกตำแหน่งรับกันสี่หมื่นขึ้น..เอากันไปเถอะโยมเงินทองนั้นไม่ว่าจะรับเท่าไร ?  ถ้าไม่รู้จักพอล่ะก็ ! ชีวิตไม่เคยมีความสุขหรอกครับ.  ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูชีวิตตัวเองเป็นตัวอย่าง. ผมเสียอีกที่ไม่ทราบว่าเรื่องเงินเดือนเงินดาวน์นั้น..ทำไมคนเราต้องโกหกตัวเองว่า..รับมากกว่าใคร ?เอ๊ะถ้าชนะแล้วจะได้อะไร ? เปล่าเลยนี่นา..ผมไม่เคยโกหกเพราะรับจริงเท่าไรก็ต้องเท่านั้น..น่าอายตรงไหนเงินเดือนเราเองแท้ๆ. ข้างบ้านผมคุยฟุ้งว่าผัวรับสี่หมื่น ลูกสาวจบป.ตรีรับสี่หมื่น หลานจบม.สามรับสองหมื่น.โอ้โฮสามคนรับ ๑ แสนพอดิบพอดี.ผมรับบำนาญจาก๘,๖๒๔ บาท..น่าแปลกที่ผ่อนบ้านหมดก่อนพวกที่รับเงินเป็นแสน..คงจะแสนสาหัสมากกว่า.. ที่จริงถ้าไม่เป็นการละลาบละล้วงผมอยากบอกว่า..ใครรับมากรับน้อยไม่สำคัญหรอกครับ.ใครเหลือเก็บมากกว่ากันต่างหาก.ผมเคยแอบคิดไว้ในใจว่าถ้าพบกับเธอครั้งแรก ผมจะถามความรู้สึกเธอว่า...รู้สึกอย่างไรบ้างที่มาอยู่ที่ใหม่ ? และจะเสนอว่า..มีอะไรให้รับใช้กรุณาบอกมาได้เลยครับ  แต่ผมต้องเลิกล้มความคิดไปเพราะตอนที่พบหล่อนครั้งแรกนั้นหล่อนมัวแต่..ยืนเต๊ะท่าอยู่นั่นแหละ ! น้องดำยืนอยู่ใต้ต้นพุทราและหันหลังให้.   ผมนั่งรออยู่ในรถรอไปเถอะเหมือนจะรู้น๊ะ!หล่อนจึงไม่ยอมหันมาสักที...ถ้าหันหน้าเข้าบริษัทฯ ห้องขวามือจะเป็นสำนักงานของบริษัทเคมเทค ฯ  ผมนั่งทำงานอยู่ตรงห้องกลางครับ. ส่วนห้องซ้ายมือ..เป็นห้องของนาย เดวิด ลี.บริษัทเหล่านี้มักจะประมูลงานได้งานปีต่อปี  หรือบางครั้งไม่ถึงปีด้วยซ้ำ. นายเดวิดกับผมนั้นประสานงานกันตลอด. บ่อยครั้งที่เขาต้องใช้บริการจากบริษัทที่ผมทำอยู่ เช่นการเคลียร์ของเข้า-ออก จากสิงคโปร์. การใช้รถรับ- ส่ง ลูกเรือของเขา.  ส่วนน้องดำนั้นเธอไม่พยายามจะคุยกับผม  มีอะไรเธอก็จะคุยอยู่กับชิปปิ้งสาวเท่านั้น !

๓๐. ริคแจ๊คอั๊พ. Galaxy. - ขอบคุณภาพจากเน็ท.

บริษัทเคมเทคฯ ประมูลงานในการส่งเคมีต่างๆไปยังแท่นเจาะน้ำมัน.ในอ่าวไทย. ส่วนบริษัทฯของนายลีนั้นได้งานสร้างแท่นเจาะในอ่าวไทยเช่นกัน. วันหนึ่งโทรศัพท์ในย่านการท่าเรือเสีย  ที่จริงพี่แกเสียเป็นประจำ.  ทางการสื่อสารทหารเรือก็ไม่ค่อยอยากจะซ่อมทำกันเลย  ผมมาติดต่อครั้งใดพี่แกมักจะโยนไปว่า..เสียตรงจุดเชื่อมต่อที่ช่องแสมสารครับ. แต่พอถึงเดือนพี่แกวางบิลทันที  ผมว่าน่าจะคิดเงินตามตัวเลขที่ใช้จริงแบบมิเตอร์ไฟฟ้า.น่าจะดีครับ.ผมได้แต่คิด.ยังไม่เห็นมีใครทำเลย.  เวลาระบบต่างๆเสียลูกค้าจะได้ไม่ต้องเสียเงิน ทั้งๆที่..เสียงานไปแล้ว. แต่ไม่สามารถใช้งานได้หรือว่าไม่จริงครับ ?  แทนที่น้องดำจะมาบอกผมโดยตรง ผมจะได้รีบดำเนินการให้.แต่น้องดำ..ดันเขียนใส่กระดาษว่าให้ช่วยดูโทรศัพท์หน่อย.  แล้วนำไปติดไว้ที่โต๊ะซึ่งน้องแปนั่งอยู่  ผมเดินผ่านเข้า-ออกโดยไม่ได้หยิบดูเพราะเดี๋ยวจะหาว่า..ผมละลาบละล้วง จริงๆแล้ว...ผมยังไม่ได้ล้วง.  เพราะมัวไปติดต่อกับจนท.โทรศัพท์ของทหารเรือ..เขาทราบแล้วและกำลังดำเนินการอยู่. นายพรชัยจากบริษัทฯแห่งหนึ่งเป็นผู้ตั้งฉายาให้อีดำเอ๊ย !น้องอีดำ.บ่ายวันนั้นเองที่เธอตะโกนว่าผม..แหม !นั่งหัวหงอกหัวดำอยู่ได้ไม่ยอมมาดูเลยว่าลูกค้าต้องการอะไรบ้าง ? แถมยังโทรไปฟ้องที่สำนักงานใหญ่เสียด้วยน่ากลัวจังเลย!  ผู้เขียน..อ้าว ! คุณรู้ได้ยังไง - คุณรู้รึเปล่าล่ะว่าผมไปไหนมา ? โทรศัพท์เสียต้องมาบอกผมสิครับ ไม่ใช่เขียนใส่กระดาษไว้แบบนั้น..ใครจะรู้ล่ะครับ ? พอเราใจเย็นทั้งคู่เราจึงได้มาคุยกันดีดี  วันต่อมาน้องดำทำแสบอีกครับ  หล่อนอาจจะคิดฮอดบ้านก็เป็นได้น๊ะ.ประมาณสิบโมงเช้า เธอทำกับข้าวในสำนักงานครับ..โคตรเหม็นเลย.ถ้าเขียนแบบสุภาพเกรงจะไม่เหม็นจริง ! ก็แหมหล่อนดันทำปลาร้าผัด  หรืออะไรนี่แหละ !กลิ่นปลาร้าระเหยออกมา..หนอย !หล่อนดันเปิดประตูระบายให้กลิ่นผ่านมาเข้าที่ห้องกลาง ซึ่งผมนั่งทำงานอยู่.  ปกติประตูห้องของนายเดวิดนั้นเขามักจะเปิดไว้ตลอดเวลาเพื่อตะโกนคุยหรือถามอะไรจากผม..เขาทนไม่ไหวจึงต้องลุกออกมาตะโกนด่าว่า..เหม็นห่า..อะไรว๊ะ ?ผมแปลเอาเองครับ.เพราะเขาตะโกนมาเป็นภาษาอังกฤษ.

 

๓๑. เจ้าของมาม่า - สมัย. คนตะโกนด่า ตาแฟร๊งค์. - คนเปิดประตูระบายกลิ่น. ผู้เขียน.

 

ทำให้ผมนึกถึงในสมัยที่ผมไปเรียนภาษา.ที่สถาบันภาษาของกองทัพอากาศสหรัฐฯที่ ลั๊คแลนด์ เท๊กซัส ในปี ๒๕๒๘โน่น !พันจ่าอากาศเอก  สมัย  พิลึก  เพื่อนนร.ทหารอากาศของผม..พี่แกดันต้มมาม่ากินในห้องพัก กินอิ่มแล้วกลิ่นมาม่ายังคงลอยวนเวียนอยู่ในบริเวณที่พัก นั่นแหละครับ. ปรากฎว่าจ่าแฟร๊งค์และจ่าหลุยส์ ทหารบกจากเนเธอร์แลนดเปิดประตูออกมาตะโกนด่าใหญ่เลยว่า Shit , stinky shit. Who did the god damn shit. ? เหม็นฉิบ....ใครทำห่าอะไรว๊ะ ? ผมคงไม่โกรธถ้าทหารหาญทั้งสองนายนั้น..ไม่มาตะโกนหน้าห้องผม  ในที่สุดผมต้องออกมาเปิดประตูอาคาร เพื่อระบายให้กลิ่นมาม่าลอยออกไปตามทางของพวกหล่อน.ผมหันมาพูดกับสมัยว่า..เป็นยังไงล่ะทีนี้ ? ผมห้ามแล้วไม่เชื่อผม.เงียบสิครับ.

* เรื่องอาหารการกินนั้นแม้จะเป็นเรื่องของใครของมันก็จริง..แต่เวลาด่าเขามาด่าเราน่ะสิ ! มันจึงเป็นเรื่องของเราที่ต้องระวัง..โดยเฉพาะเวลาไปต่างบ้านต่างเมือง..

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 485746เขียนเมื่อ 22 เมษายน 2012 10:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 13:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)
เสริมสวัสดิ์ หมายสุข

ข้อมูลเป็นที่น่าศึกษา และขยายความกว้างไกลของโลกดีครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท