เสียง “อาซาน” ช่วงเช้าประมาณตี 5 ครึ่ง เป็นสัญญานบ่งบอกว่าการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดช่วงเช้าใกล้เข้ามา เสียงที่ส่งผ่านลำโพง จากเครื่องเสียงในมัสยิดที่อยู่บริเวณใกล้ๆกับแฟลตที่พัก ต. "รูสะมิแล” เป็นสิ่งที่ “ครูพื้นที่” คุ้นชินและใช้เป็นเวลาปลุกตื่นยามเช้าเช่นกัน เพียงเพื่อไปออกกำลังกายเติมพลังให้กับชีวิต...สดชื่น-ตื่นเช้า
หากแต่วันนั้นใครจะรู้บ้างไหม??...เมื่อยามฟ้าสางหลังเสร็จสิ้นจากละหมาด ความดี ความศรัทธาที่ได้มอบให้กับองค์อัลเลาะห์ ได้ฝังลึกในจิตใจที่งดงามของผู้คนที่นี่ ช่วยเหลือชีวิตเพื่อนสัตว์ยามยาก เช้านั้น ณ. พื้นที่รอยต่อบ้านรูสะมิแลและบ้านบางปลาหมอ อ. เมืองปัตตานี จ. ปัตตานี เสียงโครมดังลั่นของมอเตอร์ไซค์ตามด้วยเสียงร้องตกใจ!!...คงปะทะกับอะไรเข้าแล้วซิ.??
ครั้นเริ่มสว่างชาวบ้านละแวกนั้น มองเห็นสัตว์ตัวใหญ่ หางแบนยาว ขนเกรียน 1 ตัว ส่วนหัวโชกเลือด นอนสลบแน่นิ่งอยู่บนถนน ..ใครสักคน ก้มลงอุ้มขึ้นมาตรวจดูให้ละเอียด ก็พบว่าเป็นเลี้ยงลูกด้วยนม/สัตว์นม (mammal) และยังหายใจรวยริน......”อันว่าความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ.....” ”ลี สาและ” เห็นดังนั้นก็รีบไปบอกเพื่อนให้ช่วยกันอุ้มเพื่อนสัตว์ผู้เคราะห์ร้าย “เจ้านากใหญ่ขนเรียบ” ตัวหนักประมาณกว่า 10 กก. ความยาวประมาณ 1.5 เมตร กลับมายังที่พัก และตรวจพบต่อมาว่า “กำลังท้องแก่” จากนั้นเครือข่ายชาวบ้านติดต่อประสานงานมายังหน่วยพิพิธภัณฑ์ประวัติธรรมชาติและเครือข่ายเรียนรู้ท้องถิ่น คณะวทท. มอ. ปัตตานี โดยทีมฯได้ประสานงานกับสัตว์แพทย์ให้เข้าไปตรวจอาการ
สองวันต่อมาแม่นากให้กำเนิดลูกน้อย 5 ตัว เหลือรอดได้ 3 และ 2 ตัวในที่สุด เจ้านากน้อยกระจ้อยร่อย ต่างเพศกัน ตัวกลมๆ ขนนิ่มๆ น่าทะนุถนอม ยังไม่ลืมตาจนกว่า 4 สัปดาห์ผ่านไป น้ำหนักแรกเริ่ม 200 กรัม ปัจจุบัน 2 กิโลกรัมเศษๆ (สัปดาห์ที่ 7) และยังไม่สิ้นสุดระยะการดูแลลูกอ่อน ..ยังโปรดกินนมจากเต้า กินอิ่มก็ตามด้วยการนอน ขณะที่ปัจจุบันฟันเขี้ยวคู่บนล่างเริ่มงอก ..รอลุ้นว่าเมื่อไหร่จะลองกินปลา..อาหารอันโอชะของนากได้เป็นคำแรก!! ทั้งหมดนี้อยู่ในความอุปถัมภ์รับเลี้ยงดูไว้ในพื้นที่ โดย “ลี สาและ” พร้อมด้วยเพื่อนรัก “วัน” ช่วยกันหาปลาสดให้แม่นาก ฉีดน้ำทำความสะอาดและให้แ่ม่นากได้เล่นน้ำทุกวัน สองหนุ่มผู้มีน้ำใจงาม มีที่พักเล็กๆเพื่อเฝ้าปลาในกระชังเป็นผู้ที่ดูแลครอบครัวนาก 3 ชีวิตจวบจนปัจจุบัน ..เราต่างร่วมเครือข่ายความดี ได้ร่วมเข้าไปช่วยเหลือตั้งแต่เมื่อทราบข่าว จัดการเรื่องกรงเลี้ยง ถามไถ่เรื่องการเลี้ยงดู/อาหาร ให้กำลังใจทั้งผู้ดูแลและครอบครัวนากสามชีวิต พร้อมทั้งดูแลเรื่องอื่นๆ
ได้ใช้โอกาสนี้เรียนรู้ชีวิตของ “นากใหญ่ขนเรียบ” บอกเล่าเรื่องราว Natural history & biodivesity บันทึกข้อมูลเชิงวิชาการ ชั่งน้ำหนักตัว วัดควายาว สังเกตพฤติกรรม และความผูกพันคน-สัตว์ของผู้คนและชุมชนที่นี่ รวมทั้งสรุปและเขียน milestones เกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพฤติกรรมที่น่ารัก ของน้องนากทั้งสองตัวและแม่นากทุกอาทิตย์ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ต่อไป
(อ่านบันทึกเพิ่มเติมได้ที่นี่ http://burongtani.oas.psu.ac.th/blog/874 )
.. ๘ เมษายน ๒๕๕๕..
...pax vobiscum..
ขอให้กำลังใจแด่หัวใจอันงดงามที่ช่วยกันพยาบาลและเลี้ยงดูเพื่อนร่วมโลกครอบครัวนี้ค่ะ ซึ้งใจจริงๆ
ขอบคุณค่ะ
ขอบคุณค่ะ คุณปริม..ความงดงามในจิตใจของผู้คนที่นี่ มีให้สัมผัสได้ และมีตัวอย่างอื่นๆอีกมากมาย ...หากทว่าสิ่งดีๆเหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการถูกบดบังด้วยความรุนแรงในพื้นที่... เป็นความอ่อนโยน VS รุนแรงในต่างกรรมต่างวาระกัน.. ภาพที่เห็นจึงเป็นอย่างที่รับทราบ ความผูกพันที่อยู่ร่วมกันของคนและเพื่อนสัตว์ โดยรับรู้ถึงความทุกข์ของเขาเฃ่นความทุกข์ของเรา นั่นไม่ใช่หรือคือความรักที่ "ลี และเพื่อน" และทีมงานที่หยิบยื่นให้ โดยไม่ต้องสื่อสารเป็นภาษาใดๆที่กำหนดไว้ในโลกเลย.. แต่เปี่ยมด้วยภาษารักและเมตตา...ขอชื่นชมในความมีน้ำใจงาม ของเครือข่ายความดีทุกคน..ที่ร่วมกันสร้างความดีให้มีอยู่คู่กับโลกของเราค่ะ..:-))