ความเหมือนที่แตกต่างของ นักเรียน


เป็นความเหมือนที่แตกต่าง ทำไมกระบวนการคิดของเด็กมันช่างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ของเด็กห้องกิ๊บ หรือห้องพิเศษ กับเด้กทั่วไป

ในการบันทึก เรื่อง ยุวชนคนจิตอาสา นั้น ดิฉันได้เขียนชื่นชม นักเรียนที่มาเป็นจิตอาสาที่ รพ.พบว่า  เด็กที่มานี้ส่วนใหญ่ เป็นนักเรียน ที่เรียนในห้องทั่วไป ไม่ใช่เด็กห้องพิเศษ หรือ ห้องเก่ง ของโรงเรียน  ซึ่งในการทำงานเมื่อ วัน พฤหัสบดี ที่ผ่านมามันทำให้เห็นความแตกต่าง ของเด็กห้องพิเศษ กับเด็กห้อง ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง

     เรื่องมีอยู่ว่า  ในระหว่างที่เร่งซักประวัติให้แพทย์ ตรวจอยู่นั้น  เวลา คือ 11.55 น.  มีคุณครูท่านหนึ่งเดินมาหา บอกว่า

   " ขอโทษเถอะครับ เด็กนักเรียนผม 8 คน มาขอใบรับรองแพทย์ นั่งรอเป็นชม. แล้ว ไม่เห็นเรียกชื่อเลยครับ  "

    "  ขอทราบรายชื่อคะ" ......... เมื่อ ตรวจสอบคิวได้แล้ว  ชลัญธรก็แจ้ง ว่า "อ้อยังไม่ถึงคิวค่ะเด็กคิวที่ 212 น่าจะเป็นช่วงบ่ายค่ะ "

     คุณครูท่านนั้นทำท่าทางไม่พอใจ "ผมอยากทราบบริการของคุณ แค่มาเอาใบรับรองแพทย์ ไปสอบ แค่นี้ ทำไม่ต้องต่อคิวให้ยุงยาก "

     " เอางี้ค่ะ ตอนนี้ เหลือ 5 นาที จะเที่ยง  แพทย์ เราต้องพัก  เรามีแพทย์ น้อย  แต่ในตอบบ่าย จะมีแพทย์ จากการดูแลผู้ป่วยในตึกผู้ป่วยออกมาเพิ่ม จะจัดคิวให้ค่ะ ไปรับประทานอาหารก่อนนะค่ะ  ตอนนี้คนไข้เบาหวาน คนแก่ที่ยื่นบัตรตั้งแต่ ตี 5 ยัง ตรวจไม่หมดเลยค่ะ"

      คุณครูท่านนั้นไม่พอใจ เดินไปหาหัวหน้า ฝ่ายงานอีกห้องหนึ่ง  จากนั้นหัวหน้าท่านนั้นก็มาถามชลัญธร  บอกว่า เด็กกลุ่มนี้เป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียน  การสอบครั้งนี้ เท่ากับ  ทำชื่อเสียงให้โรงเรียน  ทำไมไม่ให้เขาพบแพทย์ ก่อน 

     ชลัญธรล่ะงงเลย  เข้าใจอะไรผิดมั๊ยนี่  เขาเปิดสมัครสอบมาตั้งนาน หมดเขตพรุ่งนี้  มันเป็นหน้าที่ ของคนไข้คนอื่นหรือที่ต้อง ให้ คน 8 คนแทรงคิว  เพื่อให้คุณตาคุณยายแก่ๆ  กลับบ้านช้าลง  นี่บอกตอนบ่ายโมงจะมีแพทย์ เพิ่มจะจัดคิวให้ นี่ถือว่า แทรงให้แล้ว  รอไม่ได้ ไม่รู้จะว่ายังไง  ชลัญธรเริ่ม ปรี๊ดแตก บอกว่า บ่ายจัดคิวแรกให้เลย จัดแพทย์ ให้ แต่ตอนนี้ไม่ได้ แพทย์ ต้องพัก  แพทย์ ที่ไม่พักต้องไปดูผู้ป่วยฉุกเฉิน ถ้าจะเอาก็รอ  ถ้าไม่เอาเชิญกลับ  พูดเสร็จชลัญธร เสียวสันหลังวาบ โดนเรียกเข้าห้องเย็นซะละมั้ง งานนี้

        พอตอนพักกลางวัน น้องๆ จิตอาสา มาเล่าว่า เด้กนักเรียนที่มาขอใบรับรองแพทย์  เป็นเด็กคนละโรงเรียน รู้สึกจะเป็นห้องพิเศษ  เด็กเขาคุยกันว่า " จะให้รอทำไมว่ะ เดี๋ยวข้าบอกคุณครูเอง ให้จัดการให้  นี่ถ้าพวกเราสมัครไม่ทัน  คุณครูต้องเอาเรื่อง รพ. แน่ งานนี้ถือว่า เป็นชื่อเสียงของโรงเรียนเชียวนะนี่" จากนั้นคุณครูคนนั้นถึงได้บ้าจี้ตามเด็ก 

     เฮ้อ.... ก็สอนกันซะแบบนี้น้า ไม่เคยรอคิว ไม่เคยรอใคร  ไม่เคยไม่ได้อะไร  เพราะข้าเป็นคนทำชื่อเสียงให้ รร. ถ้าไม่มีพวกข้า โรงเรียนจะเอาชื่อเสียงมาจากไหน    แล้วอย่างงี้จบไปทำงานจะรับผิดชอบสังคมได้อย่างไร  ฉลาดที่เป็นอันตรายกับสังคมแบบนี้ น่ากลัวมาก  แล้ว ดูท่าเด็กไทยเรา จะเป็นแบบนี้มากซะด้วย 

    จริงๆ  การแก้ปัญหา เรื่องนี้ไม่ยากเพื่อไม่ให้กระทบใคร  คุณครูสามารถทำหนังสือถึง โรงพยาบาล โดยตรงในช่วงที่เด็กเตรียมตัวสอบ  เพื่อการอำนวยความสะดวกในการ ออกใบรับรองแพทย์  รับรองโรงยาบาล จัดระบบรองรับได้แน่ แต่มาแทรงคิวต่อหน้าต่อตาคนอื่นนี่ มันทำให้คนทำงานลำบากใจ  คุณตาคุณยายนั่งรอทำตาปิบๆ ไม่มีลูกหลาน มารับมาส่ง นี่น่าสงสารกว่ามาก  เราไม่ทันสอบอันนี้ อันอื่นก็มีให้สอบเยอะแยะ   แต่ถ้าอยากได้จริงก็ควรมีการเตรียมตัวล่วงหน้า  ไม่ใช่ 1 วัน ก่อนหมดเขต

   วอนให้ทุกส่วนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เราจะทำอย่างไร ให้เด็กไทยมีความรับผิดชอบ ต่อตนเอง ครอบครัว สังคม ประเทศชาติมากกว่านี้  บ้าง .........

  http://www.gotoknow.org/blogs/posts/480972

คำสำคัญ (Tags): #การศึกษา
หมายเลขบันทึก: 484585เขียนเมื่อ 8 เมษายน 2012 11:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 20:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอบคุณเรื่องเล่าสะท้อนสังคมได้อย่างดีค่ะ ใบรับรองแพทย์ ไม่ใช่เรื่องด่วย ถือเป็น Priority ท้ายกว่าผู้ป่วยอยู่ เรื่องนี้เป็นกติกาสังคมที่เด็กควรได้เรียนรู้ ... อ่านเรื่องนี้แล้วยังคิดถึง ระบบนัดหมายผู้ป่วย ในที่ทำงานตัวเอง ซึ่งก็ยังมีปัญหาอยู่ว่าเราไม่สามารถ กำหนดช่วงเวลาที่ชัดเจนให้เขาได้ตอนนัด หากเราสามารถจัดให้เขา นัดทางโทรศัพท์ แล้วตรวจระบบคิวว่า น่าจะพบแพทย์ได้ประมาณช่วงไหน ก็จะช่วยลด ความแออัดในการนั่งรอ และเรื่องที่จอดรถ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท