สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเดินทางความวิตกกังวลกับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อรถที่เตรียมไว้มีอาการผิดปกติน้ำมันเดินสะดุด ระบบ Gas ยังไม่สมบูรณ์ การจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆก็ยังไม่พร้อม ความวิตกกังวลจึงเกิดเป็นความ “วิตกจริต” ยิ่งหาข้อมูลมากขึ้นและพูดคุยกับผู้รู้มากๆ การเตรียมพร้อมก็ต้องมากขึ้นอีก การเดินทางไกลข้ามประเทศมีความแตกต่างทั้งเรื่องถนนหนทางและสภาพอากาศ ระบบต่างๆของรถยนต์ที่เตรียมไว้ต้องวางแผนเป็นอย่างดี แต่ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและประสบการณ์คือสิ่งสำคัญ อะไรๆต่างๆจากเดิมที่วางแผนไว้ก็ต้องเปลี่ยนและปรับเพิ่มขึ้นอีกด้วย ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงรถยนต์และเรื่องอื่นๆก็มากขึ้นตามมา
แต่ก่อนเคยขับรถขึ้นเขาลงห้วยและเดินทางออกต่างประเทศก็ตั้งหลายครั้ง ยังไม่เคยเตรียมการอะไรมากมายขนาดนี้ แต่มาครั้งนี้คงเป็นเพราะคำว่า “ระยะทาง” ถ้าดูจากแผนการขับรถเส้นทางที่ไกลที่สุด คงเป็นระยะทางจากกรุงเทพฯ ถึง อำเภอเชียงของ(ท่าเรือด่านศุลกากร) ประมาณ 900 กิโลเมตร ถ้าขับรถ SUZUKI CARIBIAN คำนวณความเร็ว (บวก ลบ) ใช้ความเร็วเฉลี่ยประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 ชั่วโมง เวลาพักรถพักคน คร่าวๆอีก 2-3 ชั่วโมง รวมๆแล้วน่าจะใช้เวลาเดินทาง 18 ชั่วโมง วันและเวลานัดหมาย คือ วันที่ 6 เมษายน เวลา 08.00 น. นั้นหมายความว่าผมต้องออกเดินทาง อย่างช้าที่สุดจากกรุงเทพฯ เวลา 12.00 น. ของวันที่ 5 เมษายน แต่มันไม่ได้หยุดแค่นั้นซิ เช้าวันที่ 6 เมษายน ผมจะต้องขับรถต่ออีก จากด่านเชียงของ(ลงแพขนานยนต์)ข้ามฝากมุ่งหน้าสู่ด่านบ่อเต็นชายแดนลาวซึ่งอยู่เขตพื้นที่เมืองหลวงน้ำทา เดินทางสู่ด่านชายแดนจีนเข้าเมืองที่ด่านโมฮัง แล้วขับรถต่อไปที่เมืองเชียงรุ้งหรือ(สิบสองปันนา) เพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองทาย รวมระยะทางประมาณ 500 กม. ใช้เวลาอย่างน้อยอีก 10 ชม. กว่าจะได้พัก นั้นหมายความว่าจะต้องขับรถระยะทางรวมประมาณ 1,500 กม. ใช้เวลาประมาณ 28 ชั่วโมง ถึงจะได้พักผ่อนหลับนอนในคืนแรก ณ ประเทศจีน
นี่แหละคงเป็นสาเหตุให้ผม “วิตกจริต” ก่อนเดินทาง” คือ สภาวะที่เรียกว่าเกิดความกังวลขึ้นอย่างสูง สภาวะความกังวลอย่างสูงนี้ทำให้ตนมองโลกในแง่ร้ายอยู่เสมอ นั้นเอง
ไม่มีความเห็น