เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ แม้เป็นเรื่องเล็กๆ เรื่องหนึ่งซึ่งอาจจะไม่สลักสำคัญเท่าไรนัก แต่ถ้าลองติดตามอ่านดูผมคิดว่า ท่านจะได้อะไรดีๆ จากบันทึกนี้แน่นอน...Beeman กล้ารับประกัน
นอกจากนั้นท่านจะได้เห็นความตึ๋งหนืดของผมด้วย..ผมขอนิยามคำว่า "ตึ๋งหนืด" ของผมหน่อย ตึ๋งหนืดนี้ความหมายคงใกล้เคียงกับขี้เหนียวคือพยายามไม่ให้เม็ดเงินหลุดออกไปจากกระเป๋าของเรา แต่เมื่อบริษัทนานมีนำการ์ตูนเกาหลีมาแปลขาย ตึ๋งหนืดในฉบับการ์ตูนดูน่ารักน่าหยอก ดังนั้นความหมายของตึ๋งหนืดจึงดีกว่าขี้เหนียวหน่อย คือ การรู้จักคุณค่าของความประหยัดแม้เพียงเล็กน้อย โดยที่เราเลือกการประหยัดหรือฉลาดใช้บนพื้นฐานของความเสมอภาคในการบริการมหาชนของบริษัทห้างร้านต่างๆ
อีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนมองข้ามไปคือ เรื่องความสำคัญของ สมุดบันทึกเรื่องราวเฉพาะเรื่อง อย่างที่ผมเรียกว่า "สมุดแห่งการเรียนรู้" หรือ สมุด Journal ซึ่งต้องบันทึกให้เห็นตัวกระบวนการหรือ Process ในการดำเนินการสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเป็นข้อบกพร่องขึ้น เราก็จะสามารถตรวจสอบได้ง่าย...ดังเรื่องเล่าต่อไปนี้
ถ้าพูดถึงธนาคารไทยพาณิชย์ น้อยคนนักที่ไม่รู้จัก ผมเป็นคนหนึ่งที่ภาคภูมิใจในธนาคารนี้มาก ตอนเรียนเกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์สมัยมัธยม ได้เรียนรู้ว่าธนาคารไทยพาณิชย์นี้เป็นธนาคารแห่งแรกของประเทศไทย ในนามแบงก์สยามกัมมาจล เมื่อปี ๒๔๔๙ และเป็นธนาคารแห่งแรกที่นำตู้ ATM (Automatic Telling Machine) มาใช้ในการถอนเงินสดออกจากบัญชีออมทรัพย์ของธนาคาร ในราวปี 2525-2526 (ผมหาข้อมูลไม่พบและยังไม่มีเวลาไปค้นหาบัตร ATM ใบแรกของผม-ซึ่งผมยังคงเก็บไว้เป็นที่ระลึก)
จากสมุดบันทึกการเรียนรู้ของผม บันทึกไว้ว่าเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๕ เวลาเย็นๆ ประมาณ ๖ โมง ขณะที่ผมกำลังจะออกจากห้างเซ็นทรัลพลาซ่าพิษณุโลก พนักงานใส่เสื้อยืดสีม่วงได้เดิน มาสอบถามผมว่า มีบัตรเครดิตไทยพาณิชย์แล้วหรือยัง...ผมบอกว่ายัง เธอก็ชักชวนให้ผมทำ พร้อมทั้งรับรองว่าทำกับเธอจะผ่านแน่นอน ผมทำท่าว่าจะไม่ทำ แต่มาคิดดูอีกทีลองทำดูก็ไม่เห็นเสียหายอะไร
ผมบอกว่าเคยยื่นเรื่องที่ธนาคารไทยพาณิชย์ในเมืองพิษณุโลก แล้วส่งหลักฐานที่เป็นสลิปเงินเดือนแล้วไม่ผ่าน เธอบอกว่าให้เซ็นเอกสารคำขอไว้กับเธอแล้วค่อยส่งหลักฐานมาให้เธอภายหลัง ขอเป็นหนังสือรับรองเงินเดือนแล้วกัน หลังจากเซ็นเอกสารแล้ว ผมขอเอกสารที่เป็นสำเนากลับมาอ่านด้วย ผมขอเวลาเธอ ๗ วันเพื่อนำเอกสารตามมาส่ง เธอให้เบอร์โทรติดต่อกลับให้ด้วย เธอชื่อว่าออย (ตอนแรกเข้าใจว่าเธอเป็นพนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ แต่ภายหลังทราบว่าเธอเป็น Outsouce จากกรุงเทพฯ มาหาลูกค้าบัตรเครดิตให้ธนาคารไทยพาณิชย์)
ตอนที่เซ็นเอกสาร เธอบอกว่าจะทำบัตรให้ ๒
ใบ คือ บัตรเครดิต และ บัตรกดเงินสดที่เรียกว่า Speedy Cash
เรื่องบัตรเครดิตหลายคนคงทราบดี แต่บัตรกดเงินสดหลายคนอาจจะไม่ทราบ
แต่ผมมีประสบการณ์เคยใช้บัตรกดเงินสดมาแล้วจึงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับผม (Note : บัตรเครดิตจะคิดดอกเบี้ยเราร้อยละ 20 ต่อปี ส่วนบัตรเงินสดจะคิดดอกเบี้ยเราร้อยละ 28 ต่อปี ทั้งนี้ได้รับความเห็นชอบจากธนาคารแห่งประเทศไทยแล้ว)
เมื่อผมนำเอกสารกลับไปอ่าน พบว่าการที่ไทยพาณิชย์ไม่อนุมัติบัตรใน ๒ ปีที่แล้วน่าจะเป็นผลดีกับผมมากกว่า เพราะในบัตรเครดิตรุ่นใหม่ที่จะทำให้ผมนี้ ได้เสนอผลประโยชน์ให้ผมดังนี้
1. นับจากวันอนุมัติบัตรเป็นต้นไป
ภายใน ๓๐ วัน หากมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร ๕,๐๐๐ บาทขึ้นไป จะได้ ๓,๐๐๐
คะแนน ซึ่งสามารถนำไปแลกกระเป๋าล้อลากได้ ๑ ใบ มูลค่า
4,590 บาท
2. บัตรเครดิต นี้ ทุกๆ 20 บาท
ปกติจะได้ 1 คะแนน แต่บัตรเครดิต Platinum นี้ ทุกยอดการใช้จ่าย ๒๐
บาท จะได้ ๒ คะแนน และทุกวันศุกร์เมื่อไปทานอาหาร ทุกยี่สิบาท จะได้
๑๐ คะแนน (เท่ากับเราซื้อของทั่วไปเขาลดให้เราร้อยละ ๕
เลยทีเดียว)
3. บัตรเครดิต สามารถนำไปพ่วงกับบัญชีออมทรัพย์ได้ เมื่อพ่วงออมทรัพย์แล้วจะทำตัวเสมือนเป็นบัตรเอทีเอ็ม ซึ่งใช้ถอนเงินจากตู้ไทยพาณิชย์ที่อยู่ในเขตบริการที่มีบัญชีออมทรัพย์อยู่จะไม่เสียค่าธรรมเนียมใดๆ แต่หากเป็นของธนาคารอื่นๆ ต้องไปศึกษารายละเอียดในคู่มือซึ่งแจกให้ลูกค้า
4. บัตรเครดิตที่ทำตัวเป็นเสมือนเอทีเอ็ม
สามารถใช้โอนเงินจากบัญชีนี้
ไปยังบัญชีอื่นที่เป็นของธนาคารเดียวกันนอกเขตบริการ
โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม ได้ ๑ ครั้ง ในรอบ ๑ เดือน
นับตามเดือนของปฏิทิน
5. บัตรเครดิต บางเดือน สามารถนำไปใช้ผ่อนสินค้าเครื่องไฟฟ้าได้ โดยไม่เสียดอกเบี้ยเป็นเวลา 10-12 เดือน
6. อื่นๆ ที่ยังไม่ได้ศึกษา แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ไม่มีวินัยทางการเงินแล้ว กรุณาอย่าถือบัตรเครดิต เพราะถ้าคุณผิดนัดชำระหนี้เมื่อไร เขาจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 บาท ย้อนหลังไปถึงวันที่เกิดรายการเลยทีเดียว..อิอิ
ส่วนบัตร Speedy Cash นั้น ธนาคารเสนอผลประโยชน์ให้ผมดังนี้
1. ใช้กดเงินสดตามวงเงินที่ได้รับอนุมัติ จากตู้เอทีเอ็มที่ไหนก็ได้โดยไม่เกี่ยงธนาคารได้ฟรีทั่วประเทศโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
2. ได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย ฟรี ๒ รอบบัญชี
3. เมื่อถึงกำหนดชำระรอบบัญชีแรก สามารถเลือกวิธีชำระได้เพียงร้อยละ ๕ ของยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมด
4. พอถึงวันกำหนดชำระของรอบบัญชีที่ ๒ คุณจะต้องชำระเต็มจำนวน หากชำระไม่เต็มจะเสียดอกเบี้ยร้อยละ 28 บาท ต่อปี
พอวันพฤหัสบดีที่ ๑๙ มกราคม ตอนเย็นๆ ผมนำเอกสารหนังสือรับรองเงินเดือนมายื่นให้เธอ ซึ่งเธอจะส่งเอกสารไปในวันรุ่งขึ้น และบอกว่าบัตรควรจะอนุมัติภายใน 3-5 วันทำการ ซึ่งอย่างช้าไม่ควรเกินวันที่ ๓๑ มกราคม
ขอติดค้างไว้ก่อนครับ เอาไว้มาเล่าต่อ
เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้ค่ะอาจารย์
ชอบมากๆ เป็นเรื่องเล่าในครอบครัว มัธยัสถ์ พร้อมภาพประกอบ
เด็กๆ ชอบกันมากมาย ได้มีฮา สาระ ครบครัน ขอบคุณนะคะ