ตะลุยไต้หวัน ตอนที่ 4 ออกนอกเมืองไปเที่ยว Yehliu และตลาด Jiufen

     วันนี้จะพาไปเย่หลิว กับตลาดจิ่วเฟิ้น นะคะ  เริ่มต้นจาก  MRT Ximen เช่นเคย ไปลงที่ Taipie Main Station แล้วเดินออกทางที่ไป Zhonxiao west road ให้ตามป้ายไปออกทางออก Z นะคะ แต่เราก็พลาด หาไม่เจอ ไปโผล่อีกฟากหนึ่งของถนน สุดท้ายก็หาทางไปยัง Taipei West Bus Station กันจนได้ เป็นตึกสีเขียวๆ  เข้าไปก็ซื้อตั๋วไปเย่หลิว  ราคาผู้ใหญ่คนละ 96 NTD เด็กครึ่งราคาเช่นเคย 48 NTD เค้าก็ให้ตั๋วมา 3 ใบ จากนั้นก็ชี้ไปที่ประตูทางออกของรถที่จะไปเย่หลิว ก็มีคนขับรออยู่ ฉีกตั๋วและก็ขึ้นไปนั่งไปเลยค่ะ

เจ้าตัวเล็กหมดฤทธิ์ตั้งแต่ขึ้นไปนั่งรถได้ สงสัยงีบเอาแรงไว้ก่อน

     วันนี้เป็นวันจันทร์ คนไม่ค่อยเยอะมาก รถไม่เต็ม ตามที่อ่านมาคือไม่ต้องกังวลว่าจะลงไม่ถูกเพราะคนขับจะบอกว่า เย่หลิว และคนจะลงกันเยอะมาก แต่มองคนในรถแล้ว ไม่เห็นมีแววว่าคนไหนจะลงเย่หลิวเหมือนเราเลย  ก็เลยหันไปยิ้มกับอาม่าเบาะข้างๆ ถามว่า “Excuse me  Can you speak english? อาม่าก็ยิ้มพร้อมส่ายหน้า เราก็เลยส่งโพยคำว่า เย่หลิว ที่เป็นภาษาจีนให้แกดู แกก็พยักหน้าพร้อมกับบอกว่าเป็นภาษาจีนเดาเอาว่า เดี๋ยวจะบอกให้ว่าลงตรงไหน ตอนนี้ยังไม่ถึง อะไรทำนองนี้แหละ ทีนี้พอใกล้จะถึงแกก็มาสะกิดพร้อมกับกดออดให้  เราก็ลงกัน ปรากฎว่าทั้งคันมีลงแค่ 8 คน แถมได้เจ้าป้ายสามเหลี่ยมที่เป็นสัญลักษณ์ว่าให้ลงตรงนี้น่ะ  มองไม่ทันหรอกค่ะ ใครจะไปทันเห็นนะเนี่ย

ลงรถแล้วเดินเข้าไปในซอยตามโพยเลยค่ะ  เดินเข้าไปเรื่อยๆ ผ่านท่าเรือ จากนั้นก็จะเห็นที่จอดรถทัวร์กว้างๆ มีป้ายที่บอกว่า Yehliu Geopark ข้างๆ จะเป็น Aquarium ค่ะ

วัดนี้อยู่ระหว่างทางที่เดินเข้าไปค่ะ ยังไม่แวะ เดี๋ยวค่อยแวะตอนกลับ

สงสัยว่าเค้าคลุมถุงดำด้านหน้ามอไซค์ทำไม เอาไว้กันฝนรึเปล่าหนอ?

     เดินเข้าไปซื้อตั๋วซะเลย ผู้ใหญ่ 50 NTD เด็กครึ่งราคา 25 NTD  และก็แวะที่ Information center เพื่อเอาโบชัวร์ของ Yeileu  ไม่งั้นจะหาไม่เจอค่ะว่าหินอะไรอยู่ตรงไหน  เดินเข้าไปด้านในก็เจอนี่ก่อนเลย Queen’s Head II  แสดงว่าจะต้องมี I อันนี้ไม่ค่อยมีคนถ่ายรูปเท่าไหร่ 

มาแล้วค่ะ ไฮไลท์ หินรูปเศียรราชินี  มีกรุ๊ปทัวร์ยืนต่อแถวกันเข้าไปถ่ายรูป เห็นแถวไม่ยาวก็เลยเข้าไปต่อบ้าง  อ้อ มีเจ้าหน้าที่คอยกำกับไม่ให้มีการแซงคิวกันด้วยค่ะ

เดี๋ยวจะให้ดูหินรูปต่างๆ ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติค่ะ ติดตามชมได้เลย

 

หินรูปรองเท้านางฟ้า

หินรูปลูกโลก

หินรูปช้าง

หินรูปลิงกอริลลาหันหลังมาดูเรา

หินรูปนกทะเล (Marine bird rock)

นี่เป็น Tofu rock ต้องเดินขึ้นบันไดไปมองลงมาจากด้านบนค่ะ วิวด้านบนสวยมั่ก มั่ก

ทางเดินบนเขาริมทะเล โรแมนติกสุด สุด

นี่เป็นอนุเสาวรีย์ ที่เค้าสร้างเป็นอนุสรณ์ให้กับผู้ชายคนนี้ ลงไปช่วยเด็กที่ตกน้ำ แต่ช่วยไม่ทัน ก็เลยจมน้ำตายทั้งคู่

หินรูปเทียน

หินรูปขิง (Ginger rock)

หินรูปไอศครีม

หินรูปหัวมังกร (จินตนาการเอาเอง ไม่มีในโบชัวร์นะคะ)

ฟอสซิลค่ะ อยู่ตามพื้น เดินเหยียบไปเหยียบมา เสียดายจัง

     อากาศดีมาก ไม่ร้อน ไม่มีแดด  ฝนไม่ตก  ลมไม่แรง  เดินกันอยู่จนถึงเที่ยง  เราก็กินข้าวกลางวันกันซะให้เรียบร้อย เป็นร้านอาหารในเต็นท์ที่อยู่ใกล้ๆ กันนั่นแหละ ราคาไม่แพง แถมยังอร่อยด้วย 

     ออกจาก Yehliu เดินออกตามถนนที่เข้ามาและข้ามถนนไปรอรถหน้าร้านสะดวกซื้อตรงข้ามที่ลงรถมาครั้งแรกนั่นแหละ  ตอนนี้เราจะนั่งกลับยังเมืองจีหลง  รอรถเมล์สาย 1022 นะคะ  พอรถเมล์มาก็เดินขึ้นไปบอกคนขับว่าไปจีหลง How much? คนขับเค้าจะบอกราคาเรามา ก็เอาเงินหยอดลงในกระป๋องเหล็ก ข้างๆ คนขับ คราวนี้ราคารวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ 94 NTD ไม่รู้ว่าคิดเป็นผู้ใหญ่กี่บาทหรือเด็กกี่บาทเลยค่ะ  รถออกแล่นโขยกไปตลอดทาง แบบว่าต้องจับที่จับไว้ไม่งั้นอาจลอยไปลอยมาได้ ฮ่า

     รถแล่นได้ไปสักพักก็เข้าเขตเมืองจีหลง เริ่มงงอีกละ แล้วจะลงตรงไหนล่ะ ตามโพยบอกให้ลงที่ Keelung Station (จีหลง สเตชั่น) ก็เลยถามผู้ชายเบาะข้างๆ เช่นเคย โชคดีอีกแล้ว เค้าบอกว่าเค้าจะลงที่เดียวกัน เดี๋ยวเค้าบอก  คือมองป้ายไม่ออกเลยว่าต้องลงตรงไหน ที่ที่จะลงนั่นมันจะเป็นท่าเรือกว้างๆ ลงแล้วก็ให้เดินขึ้นสะพานลอยไปอีกฝั่ง แล้วไปยืนรถรถต่อที่ป้ายหน้าร้าน Family mart สาย 1013 ไปจิ่วเฟิ้น  อ้าวรถมาแล้วพอดีเลย ขึ้นรถจ่ายเงิน คราวนี้ผู้ใหญ่ 51 เด็ก 25 NTD  ค่ะ หยอดเงินแล้วก็ไปนั่งได้  อ้อ ต้องเตรียมเงินให้พอดีนะคะ ไม่มีการทอนค่ะ

     ทางไปจิ่วเฟิ้นจะเป็นทางขึ้นเขา ประมาณดอยสุเทพ หรือดอยแม่สะรอง ประมาณนั้น แต่ดูเหมือนเขาจะสูงกว่าจะก็มีบรรยากาศเป็นฝนตกปรอยๆ หมอกเริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ อากาศเย็นมากขึ้น มากขึ้น  เหมือนเดิมมองในรถแล้ว จะมีใครลงจิ่วเฟิ้นมั่งเนี่ย  ก็เลยถามวัยรุ่นเบาะข้างๆ เค้าก็บอกว่า “Same ot me Don’t worry” ดีจัง โชคดีอีกแล้ว

     ถึงจิ่วเฟิ้นก็ลงรถ อากาศแปลกมาก ฝนตกไม่แรงแต่มีละอองไอน้ำเล็กๆ อยู่ในบรรยากาศโดยรอบ ยิ่งหนาวไปใหญ่ เราก็งัดเอาร่มออกมาและเดินเข้าไปตรงข้างๆ ร้าน 7-11 ตลาดจิ่วเฟิ้นให้อารมณ์คล้ายๆ ตลาดสามชุกบ้านเรา มีร้านขายของ ร้านชา ร้านของกิน ก็เดินกันไปแบบกางร่ม  ซื้อเห็ดย่างกิน ซื้อขนมกิน แต่ด้วยความที่ฝนตกและหนาว ก็เดินกันได้ไม่เยอะ  พอได้ไอเดียจากการดูการ์ตูน Spirited away แล้วแล้วก็ชวนกันกลับ 

     ขากลับให้ข้ามมาอีกฝั่งรอรถตรงหน้าร้านสะดวกซื้อ รอรถกลับ Taipei ถามวัยรุ่นที่ยืนรอรถอยู่ เค้าก็ตอบให้และช่วยเหลือเป็นอย่างดี พอรถมาก็บอกให้ขึ้นรถได้ ค่ารถผู้ใหญ่ 100 เด็ก 50 NTD ค่ะ เดินขึ้นไปหยอดตังค์กะตู้เหล็กแล้วคนขับก็จะให้การ์ดมา 3 ใบ งงอยู่เหมือนกันว่าให้มาทำไมหว่า เค้าใช้ตอนลงค่ะ คือเอาการ์ดคืนให้คนขับตอนลงนั่นเอง 

    รถมาจอดที่สถานี Zhongxiao Fuxing ใกล้ๆ กับ Sogo เขียว นั่นเอง  เราก็เลยคุยกันว่า กลับห้องก่อนดีกว่าเพราะเปียกไปหมด กลับไปเปลียนเสื้อผ้าแล้วค่อยว่ากันอีกที ใน Taipei ฝนไม่ตกเลย แห้งสนิท

     จากนั้นก็ออกมาเดินเที่ยวต่อย่าน Ximen เป็นเหมือนแถวๆ สยามบ้านเรา มีร้านขายของเป็น shop อย่างเช่น skinfood Etudy ร้านขายเสื้อผ้า และที่สำคัญ ร้านอาหารเยอะแยะเลย ก็เลยกินกันแถวๆ นั้น ราคาไม่แพง และอร่อยด้วย