ส.ค.ศ.ท.พร้อมปรับหลักเกณฑ์ครูพันธุ์ใหม่


เน้น"3 เสา"สถาบันผลิต-ผู้เรียน-อัตราบรรจุในพื้นที่ตัดปัญหาขอย้ายคืนถิ่นภายหลัง ตั้งกรรมการครูพันธุ์ใหม่ปลอดนักการเมือง...งานไม่สะดุด! 

นายสุรวาท ทองบุ ประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย (ส.ค.ศ.ท.) เปิดเผยว่า ในการประชุม ส.ค.ศ.ท. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เมื่อเร็วๆ นี้ นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช รมว.ศึกษาธิการ ได้มอบนโยบายให้แก่ ส.ค.ศ.ท. พร้อมทั้งหารือการดำเนินโครงการครูพันธุ์ใหม่ว่า อยากให้ความเป็นธรรมแก่นักศึกษาครูทุกคน ซึ่งได้ชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ารับการคัดเลือกอยู่แล้ว เพื่อจะได้คนดีคนเก่งมาเป็นครู ส่วนการการันตีการมีงานทำ ก็เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนเก่งอยากเรียนครู 

ทั้งนี้ หากไม่เอารูปแบบของโครงการครูพันธุ์ใหม่ก็ได้ แต่จะต้องมีโครงการอื่นขึ้นมาทดแทน เพื่อจูงใจให้คนดีคนเก่งมาเรียนครู และมีงบประมาณสนับสนุนกระบวนการผลิต ที่แตกต่างจากการผลิตบัณฑิตด้านอื่น เพราะครู คือผู้ที่ต้องมีทั้งความรู้และความดีที่ช่วยยกระดับจิตใจของคนให้สูงขึ้น 

นายสุรวาท กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ส.ค.ศ.ท.ได้เคยทำบันทึกถึง รมว.ศึกษาธิการ ให้ผลักดันโครงการผลิตครูใหม่ 100% ทั้งระบบ โดยขยายอัตราการผลิตขึ้นเป็น 100,000 คน จากเดิม 30,000 คน พร้อมทั้งมีอัตราครูรองรับเมื่อสำเร็จการศึกษา และมีทุนระหว่างเรียน ขณะเดียวกันก็เสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่สถาบันฝ่ายผลิตอย่างเร่งด่วน โดยจัดสรรอัตราอาจารย์ประมาณ 1,000 อัตรา และบุคลากรสนับสนุนอีก 350 อัตรา โดยในการผลิตนักศึกษาครูนั้นควรให้เงินสนับสนุนแก่สถาบันฝ่ายผลิตในอัตรา 15,000 บาทต่อคนต่อปี รวม 1,500 ล้านบาทต่อเนื่องเป็นเวลา 5 ปี ซึ่งหากทำได้ก็จะทำให้ผลิตครูได้อย่างมีคุณภาพ 

ทั้งนี้ หากต้องการปรับปรุงโครงการครูพันธุ์ใหม่ก็สามารถทบทวนได้ ในส่วนของหลักเกณฑ์การคัดเลือกสถาบันฝ่ายผลิต เพื่อให้ได้สถาบันที่อยู่ในพื้นที่ และได้นักศึกษาในพื้นที่ เพื่อบรรจุครูที่อยู่ในพื้นที่นั้นจริงๆ จะได้ไม่มีปัญหาขอย้ายในภายหลัง 

"สำหรับข้อเสนอของ รมว.ศึกษาธิการ ที่ไม่ต้องการให้รัฐมนตรีมาเป็นประธานกรรมการบริหารโครงการครูพันธุ์ใหม่ เพื่อไม่ให้หยุดชะงักเมื่อเปลี่ยนรัฐบาลนั้น ตนเห็นด้วย และอยากให้เร่งจัดตั้งคณะกรรมการทุกชุดโดยเร็ว เพื่อจะได้สานต่อโครงการ เพราะขณะนี้การดำเนินโครงการปี 2554 ในส่วนของการคัดเลือกนักศึกษาชั้นปี 4 ได้ชื่อเด็ก สถาบันฝ่ายผลิต และมีงบประมาณแล้ว ซึ่งหากหยุดโครงการเด็กกว่า 1,000 คน คงไม่ยอม และหากยังไม่มีความชัดเจนอยู่อย่างนี้กระแสความนิยมเรียนครูก็จะลดลง และทำให้คนดีคนเก่งหันไปเลือกอาชีพอื่น" นายสุรวาท กล่าว

หมายเลขบันทึก: 483192เขียนเมื่อ 25 มีนาคม 2012 20:01 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 มีนาคม 2012 20:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท