ตะลุยไต้หวัน ตอนที่ 2 Taipei Triple Tiger Backpacker CKS Memorial Hall พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกู้กง และ Chillin Night Market


บันทึกนี้จะพาไปตะลุยไต้หวันกันต่อค่ะ เริ่มจากวันเสาร์ตอนเที่ยงๆ เราได้ย้ายโรงแรมไปพักที่โรงแรมที่เราจองไว้ผ่านทาง Hostel World

บรรยากาศตอนลากกระเป๋ากลับมายังสถานี MRT City Hall Station ทิ้ง Taipei 101 ไว้เบื้องหลัง กระเป๋าใครกระเป๋ามัน ลากกันเองทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ อากาศกำลังดีค่ะไม่ร้อนไม่หนาว และไม่มีแดด

รอรถไฟฟ้าที่สถานี City Hall Station

บรรยากาศภายในรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน Bannan line

ถึงแล้วออกจากสถานี Ximen เจอย่านนี้เลย เป็นสยามสแควร์ของไต้หวันค่ะ

โรงแรมที่เราจองไว้ชื่อว่า Taipei Triple Tiger Backpacker อยู่แถวๆ ย่าน Ximen โรงแรมก็หาไม่ยากเลยค่ะ เดินออกจากสถานี MRT Ximen เพียง 5 นาทีก็ถึงโรงแรมแล้ว  ประตูทางเข้าเป็นแบบนี้ค่ะ สังเกตุได้ว่าที่ไต้หวัน ประตูบ้านจะเป็นแบบนี้กันเยอะมาก

เราต้องกดออดสีแดงด้านข้าง  เค้าก็จะเปิดล็อคประตูให้  พวกเราเดินเข้าไปด้านในเจอลิฟต์ กดไปที่ชั้น 3 ก็จะเป็น office พนักงานของเค้าชื่อลูซี่ เป็นชาวฟิลิปปินส์ ที่นี่เราต้องจ่ายเงินค่าโรงแรมเลย เค้ารับแต่เงินสดนะคะ ค่าโรงแรมทั้งหมด 3 คืน ก็ 4860 NTD บวกกับค่ามัดจำที่จ่ายไปแล้วทางบัตรเครดิตอีก 21 USD ค่ะ อ้อลืมเล่าไปนิดนึง อัตราแลกเงินที่เราแลกไปจาก super rich ก็ 1 บาท ต่อ 1.04 NTD ค่ะ

ลูซี่พาเราไปห้องพักที่ชั้น5 เป็นห้อง Family room พักได้ 4 คน มีห้องน้ำในตัว แต่เราพักแค่ 3 ก็เลยสบาย สบาย  ในห้องมีตู้เย็น ทีวี เครื่องทำน้้ำอุ่น ไดร์เป่าผม และแก้วน้ำให้ 4 ใบ  นอกห้องมีไมโครเวฟ  น้ำเย็น และน้ำอุ่น บริการด้วย กุญแจห้องจะมีรหัสใช้สแกนสำหรับเปิดล็อคประตูด้านหน้าได้ด้วย

หลังจากพักผ่อนกันพอประมาณแล้ว ก็เดินทางไปเที่ยว CKS Memorial Hall เดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT สายสีแดงลงที่สถานี Chiang Kai Shek Memorial Hall ออกทาง Exit 5 เดินเที่ยว ถ่ายรูป Guard changing และซื้อของที่ระลึก  ที่นี่เราได้ของที่ระลึกเป็นอนุสรณ์สถานขนาดจำลอง ราคา 8800 NTD และธงชาติไต้หวันราคา 35 NTD ค่ะ  แต่ตอนนี้ต้องกลับที่พักเพื่อเอาของที่ระลึกไปเก็บซะก่อน เพราะน้ำหนักเยอะเหลือเกิน จะหอบไปเที่ยวด้วยก็กระไรอยู่  ก่อนเข้าห้องก็ซื้อขนมปังหน้าปากซอยไปกินซะหน่อยเพราะกลิ่นขนมหอมมากมาก ราคาลูกละ 35 NTD ข้างในเป็นใส้หมูใส่เครื่องเทศและผัก อร่อยมากเลยค่ะ

ประตูทางเข้าอันเสนอลังการ

ไม่คิดว่าจะกว้างได้ขนาดนี้เลยค่ะ

ขึ้นบันไดอนุสรณ์สถาน พร้อมกับนับไปด้วย เค้าบอกว่ามี 89 ขั้น เท่ากับอายุของท่านเจียง

อีกรูปถ่ายจากบันไดจะเห็นว่าพื้นที่กว้างขวางมาก

ด้านในมีรูปปั้นท่านเจียงนั่งอยู่  และมีทหารเปลี่ยนเวรยามทุกชั่วโมง เทียบกับ Guard changing ที่พระราชวังบั๊คกิ้งแฮมแล้ว คนละเรื่องเลยค่ะ แต่ก็เป็นพิธีการของเค้า  มีคนรอดูเยอะมากเลย

ด้านในมีของจัดแสดงมากมาย แบบนี้

แบบนี้

และมีหุ่นขี้ผึ้งจำลอง ห้องทำงานของท่านเจียง อีกด้วย

จากนั้นก็เดินทางต่อไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติกู้กง  ซึ่งเดินทางโดย MRT สายสีแดงลงที่สถานี Shilin ออก Exit 1 เดินตรงมาเรื่อยๆ เพื่อขึ้นรถบัสที่หน้าร้านวัตสัน  เจอรถบัสจอดอยู่เป็นสาย R30 พอดีเลย ก็เลยวิ่งขึ้นไปกันแต่ยังไม่ต้องแตะ Eazy card เพราะคนขับโบกมือให้ไปนั่งก่อน

รถจะไปจอดป้ายในพิพิธภัณฑ์เลย พอดีว่าเราอ่านใน pantip เค้าว่าวันเสาร์หลัง 6 โมงครึ่งจะได้เข้าฟรี ตอนไปถึงก็เกือบๆ 6 โมงครึ่งแล้ว ที่ information ก็เลยบอกให้เรารออีกซักแป๊ป จะได้เข้าฟรี ก็เลยรอค่ะ (ค่าเข้าชมปกติคนละ 160 NTD)โดยการไปเดินเล่นในร้านขายของที่ระลึกก่อน  พอได้เวลาก็ไปเดินเที่ยวกันเลย  ของที่นี่ก็มีตั้งแต่เก่าถึงใหม่ค่ะ และที่พลาดไม่ได้ก็คือ Hightlight ผักกาดหยก และหมูสามชั้น ชิ้นเล็กนิดเดียวเองค่ะ แต่ทำได้เหมือนมากมาก  ที่นี่เค้าห้ามถ่ายรูปก็เลยไม่มีภาพมาฝาก  เดินดูของในพิพิธภัณฑ์จนถึงสองทุ่ม ก็เดินออกมากันเพื่อมารอรถเมล์ที่ป้ายเดิม

พอรถเมล์มาถึง คนก็ขึ้นมาเยอะมากมากจนเต็มไปหมด  รถก็ออกวิ่งไปเรื่อยๆ จนจอดป้ายแห่งหนึ่งแล้วคนขับก็ตะโกนบอกว่า “ชี่หลิน” ก็เลยลงกันและก็ไม่ลืมแตะ Easy card ด้วย ลงมาได้ก็เดินข้ามถนนกลับมายังหน้าร้านวัตสันเหมือนเดิมและเดินต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า Shilin เพื่อไปต่อยังตลาดกลางคืน Shilin Night Market

สถานีเดียวก็ถึงแล้ว จากสถานี Shilin ให้ลงที่สถานี Jiantan ออก Exit 1 จะเห็นตลาดเลย ข้ามถนนแล้วให้เดินมาทางซ้าย ตรงไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับ Food center ซึ่งต้องลงบันไดเลื่อนไปอีกทีจะเจอกับร้านอาหารเยอะมากๆ เลือกกินได้ตามใจชอบเลยค่ะ ราคาก็ไม่แพง

หลังกินอาหารเล้วก็เดินเล่นอีกซักแป๊ปนึง คือตลาดกลางคืนที่นี่ให้อารมณ์เหมือนงานวัดน่ะ มีเล่นเกมส์ปาเป้า ยิงลูกโป่ง ฯลฯ ตักปลาทอง ตกกุ้ง ฯลฯ  คนก็มาเดินเยอะมาก

ตอนแรกสงสัยว่าตกไปทำไมหว่า ตกทีละตัว ทีละตัว มองไปด้านหลังคนขาย เจอกับเตาปิ้งไร้ควัน อ้อ ตกได้แล้วเสียบไม้ ปิ้งให้เลยค่ะ กุ้งปิ้งนั่นเอง

อันนี้ตกได้แล้วคงไม่ไปปิ้งนะคะ

สังเกตว่าเที่ยวอยู่ทั้งวันเราไม่ค่อยเจอฝรั่งซักเท่าไหร่เลย ส่วนใหญ่จะเป็นคนไต้หวันเที่ยวกันเอง หรือคนเมืองอื่นที่เข้ามาเที่ยวใน Taipei ค่ะ  เรื่องภาษาไม่ต้องพูดถึง ภาษาใบ้เป็นหลัก แบบว่าเอาเงินไปเอาของมา อะไรทำนองนี้แหละ ภาษาจีนที่พูดมากที่สุดก็ “เชี่ย เชี่ย” ที่แปลว่าขอบคุณค่ะ อ้อ อีกอันก็คือ “จ้าย เจี้ยน” แปลว่า บ๊าย บาย (ลูกสอนให้ เพราะที่โรงเรียนมีเรียนภาษาจีนด้วย)

ตบท้ายด้วยภาพนี้ค่ะ  พวกเรากลับที่พักด้วยความอ่อนระโหย เพราะตะลอนกันทั้งวัน ทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ แบบเดินไม่มีการออมแรง ผู้ใหญ่เดิน เด็กก็เดิน  วันนี้นอนหลับเป็นตายเลยหล่ะ แบบไม่ต้องพึ่ง ativan 1.0 mg ที่เตรียมไปเลย

คำสำคัญ (Tags): #taipei
หมายเลขบันทึก: 483114เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2012 22:04 น. ()แก้ไขเมื่อ 7 มิถุนายน 2012 17:23 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

หนีไปเที่ยวงานวัดเมืองจีนนี่นา....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท