ความสามัคคีหนทางสู่การพัฒนาชุมชน
ความสามัคคีหนทางสู่การพัฒนาชุมชน
ปัจจุบันความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีนั้น สามารถเปลี่ยนสิ่งต่างๆที่มีในโลกของเรานั้นให้มีความสะดวกมากขึ้น ทั้งในด้านสภาพความเป็นอยู่ที่มีความสะดวกขึ้น มีเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆที่ทันสมัย การคมนาคมที่ไปมาหาสู่กันได้โดยใช้เวลาน้อยกว่าในอดีตและไปได้ทั่วโลก การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็วและสะดวก ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งสิ้น จึงทำให้เกิดการแข่งขันกันเกิดขึ้นในหลายๆด้านในโลกของเรา เช่น ด้านเศรษฐกิจ การเมือง เป็นต้น รัฐบาลในแต่ละประเทศจึงต้องหาวิธีที่จะทำให้ประเทศของตนนั้นก้าวตามทันกระแสโลกทั้งหลายจึงทำให้เกิดการพัฒนาขึ้น
เช่นเดียวกับชุมชนบ้านคลองทราย หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา จ.สงขลา ชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนที่มีความพร้อมที่จะได้รับการพัฒนาอย่างเต็มที่ เพราะ ชาวบ้านมีความตื่นตัวมาก แต่ยังขาดการได้รับความช่วยเหลือในหลายๆด้านจากทางภาครัฐ เช่น งบประมาณ เป็นต้น โดยศักยภาพของชุมชนแห่งนี้ คือ การที่ชุมชนแห่งนี้มีการจัดโครงการและกิจกรรมต่างๆขึ้นเอง โดยมีข้อจำกัด คือ ในเรื่องของงบประมาณสนับสนุน ชุมชนบ้านคลองทราย หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา จ.สงขลา เดิมสภาพภูมิทัศน์เป็นที่นาเกือบทั้งหมด จนได้มีการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานภายในละแวกนี้ เหตุที่ชุมชนบ้านคลองทรายเป็นหมู่ที่ 2 เนื่องจากมีการรวมตัวกันจนเป็นชุมชนเป็นชุมชนอันดับ 2 ภายใน ต.ทุ่งหมอ และในพื้นที่บ้านคลองทรายในอดีตเป็นพื้นที่ที่คลองไหลผ่านและมีหาดทรายอยู่เป็นบริเวณกว้างและทรายในบริเวณนี้มีความขาว ความละเอียด กว่าทรายในพื้นชุมชนอื่นๆรอบข้าง เพราะเหตุนี้จึงเรียกว่า ชุมชนบ้านคลองทราย โดยในอดีตชุมชนบ้านคลองทรายเป็นชุมชนการเกษตร มีการทำนาข้าวเป็นส่วนมากและรองลงมาคือทำสวนยาง ปัจจุบันที่นาได้เปลี่ยนเป็นที่อยู่ที่อาศัยของชาวบ้านและสวนยางพาราเกือบทั้งหมดในอดีตชุมชนบ้านคลองทรายมีระบบการปกครองโดยมีกำนันหรือที่คนในอดีตเรียกว่า “ท่านขุน” ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นผู้ใหญ่บ้าน โดยมีผู้ใหญ่บ้านมาแล้ว 4 คน ซึ่งในอดีตการปกครองยังไม่มีความเป็นสากลเหมือนกับในปัจจุบันจึงไม่มีความยุ่งยากเหมือนในปัจจุบัน ในอดีตผู้ใหญ่บ้านคือที่พึ่ง ทั้งสำหรับคนในหมู่บ้านและคนต่างถิ่น ขาดเหลือสิ่งใดก็ไปหาที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน ปัจจุบันก็ยังคงเหลือกลิ่นอายในอดีตอยู่จากการลงพื้นที่ศึกษาชุมชนบ้านคลองทราย หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งหมอ อ.สะเดา จ.สงขลา พบว่าชุมชนแห่งนี้เป็นชุมชนเกษตรกรรม ชาวบ้านทำสวนยางพารากันมาก ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจของคนในชุมชนนั้นค่อนข้างดี จึงทำให้ชุมชนแห่งนี้ไม่ค่อยเกิดปัญหามากนัก ปัญหาส่วนใหญ่นั้นส่วนมากจะมากจากคนจากภายนอก คือ ปัญหายาเสพติดและด้วยเหตุนี้ปัญหานี้อาจส่งผลให้คนในชุมชนโดยเฉพาะเยาวชนนั้นเข้าไปพัวพันธ์ได้ จึงบวกกับชุมชนแห่งนี้ยังไม่มีความต้องการอื่นๆ เพราะเศรษฐกิจของคนในชุมชนดีแล้วปัญหายาเสพติดคุมคามกลุ่มผู้ใหญ่คงยากแต่กลุ่มเยาวชนนั้นเป็นวัยที่เสี่ยงมาก เพราะหากเยาวชนในชุมชนเข้าไปเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ ปัญหาต่างๆก็จะตามมาอีกมาก ทั้งการลักขโมย ปัญหาครอบครัว รวมไปถึงปัญหาอาชญากรรมต่างๆ จึงเป็นการตัดไฟเสียแต่ต้นลม เพื่อลดปัญหาต่างๆที่จะตามมา
หากกว่าถึงการพัฒนาชุมชน หลายคนก็คงเข้าใจว่าคือการนำความเจริญด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นถนนหนทาง,ไฟฟ้า,ประปา ไปจนถึงอินเตอร์เน็ตเข้ามาชุมชน จะทำให้ชุมชนเจริญขึ้น การพัฒนาดังกล่าวเป็นการพัฒนาด้านวัตถุ แต่การพัฒนาชุมชนที่ยั่งยืนนั้นต้องพัฒนาที่ตัวบุคคลในชุมชนเอง เมื่อบุคคลมีจิตสำนึกเป็นนักพัฒนาแล้วนั้น ชุมชนก็จะถูกพัฒนาขึ้นโดยคนในชุมชนเอง เยาวชนในชุมชนถือว่าเป็นเด็กรุ่นใหม่ที่ควรปลูกฝังแนวความคิดในการเป็นนักพัฒนาให้กับพวกเขา เพราะเด็กรุ่นใหม่มักมีการเรียนรู้อะไรใหม่ๆอยู่เสมอและจะสามารถนำมาต่อยอดความคิดที่เป็นการพัฒนาชุมชนของพวกเขาเองได้ และกว่าที่เยาวชนเหล่านี้จะโตเป็นผู้ใหญ่และสร้างนักพัฒนารุ่นเยาว์ ชุมชนก็คงจะมีการพัฒนาในด้านต่างๆไปมากแล้ว
ความเห็น (6)
บทความนี้เป็นบทความที่ดีและสื่อให้เห็นถึงความสามัคคีในการพัฒนาชุมชนให้ประสบความสำเร็จ โดยการมีส่วนร่วมของชาวบ้านในการพัฒนาชุมชน
การมีความสามัคคีในการร่วมกันดำเนินงานพัฒนาไม่ว่าจะดำเนินงานพัฒนาในเรื่องใดถ้าหากมีความสามัคคีการพัฒนานั้นก็จะประสบความสำเร็จ
เป็นบทความที่ดีครับ...ความสามัคคีนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งไม่ว่าจะในเรื่องอะไรก็ตามถ้าคนในชุมชนมีความสามัคคีกันก็สามารถทำให้งานพัฒนานั้นขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จได้ครับ
การสร้างจิตสำนึกของคนในชุมชน ช่วยให้ชุมชนมีศักยภาพที่ดีได้ และเด็กควรได้รับเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อเกิดการเรียนรู้ที่ทันสมัย
หากมีความสามัคคีกันแล้ว ไม่ว่าปัญหาใด ๆ ก็สามารถผ่านไปได้เสมอ
ความสามัคคี นี้แหละจจะเป็นบ่อเกิดที่สำคัญ ให้คน ในชุมชน ได้มีความมือกัน ต่อไปในอนาคต