เยี่ยมน้องๆที่สงขลา 1-2 กุมภาพันธ์ 2555


     ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว หลังเหตุการณ์น้ำท่วมสงบลง พูนพลังก็วุ่นอยู่กับการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนทุนอาชีวศึกษาและอุดมศึกษา ปีการศึกษา 2555 ปีนี้มีใบสมัครเข้ามาถึง 136 ราย หลังจากการคัดเลือกด้วยเอกสารและสอบสัมภาษณ์ไปเมื่อวันที่ 28 มกราคม มีน้องๆผ่านการคัดเลือกจนถึงรอบนี้ทั้งหมด 8 คน เลขาฯมีโอกาสไปเยี่ยมน้องอารีนา(นา) ชาวใต้หนึ่งเดียวในปีนี้มาเมื่อช่วงต้นเดือนค่ะ

     ที่จริงแล้วนาเป็นคนอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เรียนจบ ม.6 ตั้งแต่ปี 53 สอบเข้ามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์และได้เข้าไปเรียน แต่ติดขัดด้วยแม่มีลูกหลายคน รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย นาจึงต้องหยุดเรียนแล้วออกมาอาศัยอยู่กับพี่สาวพลางทำงานหลายอย่างเพื่อเก็บเงินเรียนให้ได้ด้วยตนเอง

     ที่สงขลานาเช่าห้องพักอยู่กับพี่สาว เป็นห้องแถวไม้อยู่ในชุมชนเล็กๆที่มีอาชีพค้าขาย ส่วนมากเป็นอาหารและขนม มีเพื่อนบ้านใจดีให้ข้าวของจำเป็น บางคนก็มาแลกเปลี่ยนวิธีทำขนม วิธีทำอาหารกัน  หนึ่งในงานที่นาทำอยู่ คือการแพ็คขนมเป็นถุงย่อยแล้วนำไปฝากขายตามร้านต่างๆ นาเล่าว่าบางครั้งก็มีเพื่อนบ้านแถวนี้มาเยี่ยมเยียน ช่วยแพ็คของไปคุยกันไป นอกจากนี้ยังมีการตั้งกลุ่มช่วยเหลือเกื้อกูล บอกเล่าความรู้สึก ช่วยตักเตือนซึ่งกันและกัน ทำให้นาและพี่สาวก้าวผ่านช่วงเวลายากลำบากมาได้  

   

     ช่วงนี้นากำลังเตรียมสอบ GAT/PAT รอบสุดท้ายในเดือนมีนาคม เพื่อนำคะแนนไปสมัครเรียนสาขาสาธารณสุขศาสตร์ หรือ ศึกษาศาสตร์ชีววิทยา ที่นามีความสนใจ วันที่เลขาฯไปเยี่ยม นาไปพิมพ์ใบสมัครสอบที่ร้านเน็ต เลขาฯเพิ่งเคยเห็นร้านเน็ตที่ไม่มีเกมส์เป็นครั้งแรก ประทับใจมากจนถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก

     วันธรรมดาตั้งแต่สี่โมงเย็นถึงหกโมงเย็น และวันเสาร์อาทิตย์เกือบเต็มวัน นาไปทำหน้าที่เป็นคุณครูสอนภาษาอาหรับให้เด็กๆ ที่มัสยิดใกล้บ้าน เด็กๆจะได้รับการปลูกฝังนิสัยและวิธีการทำละหมาดด้วย

     

ในเวลาเรียนภาษาอาหรับก็มีการสนุกสนานเจี๊ยวจ๊าวตามประสาเด็ก บางครั้งคุณครูหนึ่งคนต้องรับมือเด็กพร้อมกันถึงสิบคน แต่ละคนก็เรียนระดับแตกต่างกัน นาเล่าให้ฟังว่าหากเป็นวันเสาร์จะมีเด็กมามากกว่านี้หลายเท่า

     หลังสอนเสร็จและทานข้าวแล้ว เลขาฯได้ไปพบกับนักเรียนทุนรุ่นพี่ที่กำลังเรียน ม.ทักษิณและเคยไปเยี่ยมมาเมื่อสองปีก่อน บางคนเพิ่งสอบเสร็จเมื่อใกล้สองทุ่ม บางคนเพิ่งเสร็จจากกิจกรรมนอกสถานที่ ทุกคนต่างก็ตั้งใจเรียนและทำกิจกรรมอย่างเต็มที่ ได้ยินแล้วก็ชื่นใจค่ะ

 

     คุยไปคุยมา กว่าจะได้กลับมาบ้านและเริ่มทำสาคู ขนมที่นากับพี่สาวทำขายเป็นหลัก ก็ราวๆสามทุ่ม วันนี้เริ่มดึกกว่าทุกวัน

     ไส้สาคูผัดเตรียมไว้ครั้งละมากๆเพื่อประหยัดเวลา แป้งก็มีการแช่ไว้ล่วงหน้าแล้ว

     นาเริ่มปั้นสาคู โปรดสังเกตว่าใส่ถุงมือด้วยนะคะ วิธีปั้นก็ไม่ยากค่ะ หยิบสาคูที่แช่น้ำแล้ว กดแผ่ให้บาง ใส่ใส้ตรงกลางแล้วห่อให้มิด ออกมาเป็นแบบนี้

     หลังจากนั้นก็นำไปต้ม

     นำมาผึ่งให้หายร้อน แล้วจัดลงถาดพร้อมผักและพริก โรยกระเทียมเจียวแล้วปิดด้วยพลาสติกถนอมอาหาร

     เลขาฯก็ช่วยปั้นสาคูด้วยเหมือนกัน แม้จะเป็นงานไม่หนักแต่การนั่งก้มนานๆก็ทำให้เมื่อยหลังไม่เบา กว่าจะเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนจนพร้อมไปส่งตามร้านก็เกือบตีหนึ่งแน่ะค่ะ ต้องขอโทษน้องๆที่ช่วงค่ำมัวคุยเพลินจนเริ่มทำงานช้า นาบอกว่าปกติจะเสร็จประมาณห้าทุ่มถึงเที่ยงคืน

     วันรุ่งขึ้นพี่สาวของนานำขนมไปส่งที่ตลาดตั้งแต่ยังไม่หกโมง บางส่วนก็ฝากขายที่ร้านใกล้ๆ

     สาคูวันนี้ส่ง 45 ถาด ราคาส่งถาดละ 8 บาท (7 ลูก) หน้าร้านขาย 10 บาท หักค่าใช้จ่ายต่างๆแล้วคนทำมีกำไรประมาณถาดละ 2 บาทค่ะ

     ยังมีเวลาอีกหนึ่งวัน เลขาฯ กับนาจึงไปเยี่ยมนักเรียนทุนรุ่นพี่ที่กำลังจะจบเป็นคุณครูในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่ตอนนี้กำลังฝึกงานอยู่ในโรงเรียนศาสนบำรุง อำเภอจะนะ ห่างจากตัวเมืองสงขลาประมาณ 30 กิโลเมตร

    น้องดียานา(เดีย)ที่กำลังศึกษาศาสตร์เอกชีววิทยาปีสุดท้ายมาฝึกสอนที่นี่ และได้รับการชักชวนให้เข้าทำงานเรียบร้อยแล้ว  วันนี้ที่โรงเรียนศาสนบำรุงมีงานวิชาการพอดี เลขาฯกับน้องนาเลยได้ชมกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การประกวดร้องเพลงศาสนา ประกวดอ่านคัมภีร์ และบูทวิชาการด้านต่างๆ

     เดียมีหน้าที่รับผิดชอบบูทวิทยาศาสตร์ มีการจัดแสดงเนื้อหาน่าสนใจ เช่น เรื่องของดาวเคราะห์ (ดาราศาสตร์) และดีเอ็นเอ (ชีววิทยา) มีการทดลองสกัดดีเอ็นเอของหัวหอมใหญ่ด้วย

ผลงานศิลปะฝีมือเด็กๆ แสดงองค์ประกอบภายในเซลล์

     คุุณครูเดียตรวจงานของลูกศิษย์ที่ทำการบันทึกความรู้ที่ได้จากบูทต่างๆ มีการซักถามรายละเอียดด้วย เป็นคุณครูเต็มตัวแล้วค่ะ 

     หลังชมงาน รุ่นพี่กับว่าที่รุ่นน้องก็นั่งคุยกันอย่างออกรส ทั้งสองคนมีประสบการณ์ความลำบากคล้ายๆกัน ในช่วงเป็นนักเรียนทำน้ำหวานไปขายที่โรงเรียนเหมือนกัน แม่ไม่สนับสนุนให้เรียนเหมือนกัน เรื่องราวของเดียคงทำให้นามีกำลังใจที่จะสู้ต่อไป เลขาฯเองก็แอบหวังว่าพูนพลังคงมีโอกาสช่วยเป็นกำลังให้นาได้อีกแรงหนึ่ง

-----

     การไปเยี่ยมน้องๆครั้งนี้เลขาฯใช้บริการรถไฟไทยทั้งไปและกลับ ขากลับเจอแจ็คพอตตู้ที่เลขาฯนั่ง(และนอน)แอร์เสีย มีแต่พัดลม ใช้วิธีเปิดประตูตู้นอนเพื่อช่วยระบายอากาศ มีผู้โดยสารนั่งใกล้ๆกันบอกว่ากรณีนี้ให้คนตรวจตั๋วเซ็นหลังตั๋วแล้วไปเรียกค่าแอร์คืนได้ที่สถานีรถไฟ ในตอนเช้าเจ้าหน้าที่ก็มาดำเนินการให้ผู้โดยสารในตู้ครบทุกคน

     มีเรื่องแปลกๆเล็กน้อยเมื่อนำตั๋วไปขอค่าแอร์คืนที่สถานีชุมทางบางซื่อ เจ้าหน้าที่รับตั๋วที่มีลายเซ็นด้านหลังไปดู แล้วทำการออกตั๋วให้ใหม่ มีรายละเอียดขบวนรถ วันเดินทาง และอื่นๆเหมือนตั๋วเดิม แต่ที่ราคาเขียนว่า -170 บาท แล้วยื่นตั๋วใหม่มาให้ ส่วนตั๋วเดิมเก็บไป

     เลขาฯ รีบแย้งว่าจะนำตั๋วไปเบิกค่าเดินทางจากที่ทำงาน ขอตั๋วใบเดิมด้วย เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเอาเงินคืน เอาตั๋วเดิมไปเบิกเลย

     เลขาฯ ออกจะงงๆ เพราะการเบิกทุกอย่างที่มูลนิธิก็เบิกตามค่าใช้จ่ายจริงมาตลอด ในครั้งนี้ได้นอนรถไฟที่ไม่มีแอร์ อย่างน้อยที่สุดการรถไฟก็ต้องคืนค่าแอร์ (ได้ยินมาว่าประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายเขาคืนจะเงินทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ) ส่วนมูลนิธิก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง คือค่ารถไฟที่ไม่มีค่าแอร์ ไป หากเอาตั๋วเดิมไปเบิกก็แสดงว่าการรถไฟปัดภาระค่าแอร์ที่ไม่ได้ให้บริการให้มูลนิธิเป็นผู้จ่ายแทน ซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง

     หลังจากยืนเถียงกับเจ้าหน้าที่พักหนึ่ง ก็พบกันครึ่งทางตรงที่เจ้าหน้าที่ไปถ่ายเอกสารตั๋วใบเดิมมาให้ แล้วเก็บตัวจริงไป 

     ที่จริงแล้วเรื่องนี้ไม่ควรต้องให้ถกเถียงกันเลย เพียงแค่การรถไฟปรับปรุงโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้พิมพ์หมายเหตุไว้ที่ตั๋วใหม่ว่าตั๋วเดิมราคากี่บาท เพียงเท่านี้ทุกฝ่ายก็จะมีหลักฐานที่ต้องการ ไม่ใช่เก็บหลักฐานไว้ที่การรถไฟโดยไม่สนใจให้หลักฐานแก่ผู้โดยสารอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

หมายเลขบันทึก: 478779เขียนเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2012 11:41 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 15:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท