การศึกษาภาษาสันสกฤตนั้น กว่าจะผ่านหลักไวยากรณ์พื้นฐาน ก็ต้องฝึกซ้อมอยู่หลายขั้นหลายหัวข้อ และเรื่องการกก็เป็นบันไดขั้นแรกๆ ที่จะกระโดดข้ามไม่ได้ ต้องก้าวไปทีละขั้น บางคนที่เริ่มเรียนภาษาสันสกฤต เจอเรื่องการกก็ท้อเสียแล้ว แต่ความจริงแล้ว การก มิได้มีอยู่เฉพาะในภาษาสันสกฤตเท่านั้นนะครับ ในภาษาบาลีก็มี ภาษาอื่นๆ ของอินเดีย และยุโรป ก็มี โดยเฉพาะโบราณอย่างภาษากรีก ละติน หรือแม้แต่ภาษาสมัยใหม่ อย่างรัสเซีย เยอรมัน ก็มีการก เช่นกัน
คำว่า “การก” อ่านแบบไทยๆ ว่า กา-โร็ก (อ่านแบบแขกๆ ก็ว่า คา-ระ-คะ) ส่วนในภาษาอังกฤษใช้ว่า case ออกเสียงว่า เคส ภาษาละตินว่า casus ออกเสียงว่า คาซุส ชอบแบบไหน ก็เรียกแบบนั้นแล...
อธิบายง่ายๆ ว่า การก คือการบอกหน้าที่ของคำนาม ในภาษาสันสกฤตใช้วิธีการเปลี่ยนเสียงท้ายของคำนั้นๆ (ภาษาอื่นอาจใช้การเปลี่ยนรูปคำ หรือเปลี่ยนเสียงอื่นๆ ในคำนั้นๆ ก็ได้) ขอให้ดูตัวอย่างจากประโยคต่อไปนี้
1) รามะ พาลํ ปศฺยติ. = พระรามเห็นเด็กชายคนหนึ่ง
อ่านแบบไทย รามะ พาลัม ปัส-ยะ-ติ
อ่านแบบแขก รามะหะ บาลัม ปัช-ยะ-ติ
2) พาละ รามํ ปศฺยติ. = เด็กชายคนหนึ่งเห็นพระราม
อ่านแบบไทย พาละ รามัม ปัส-ยะ-ติ
อ่านแบบแขก บาละหะ รามัม ปัช-ยะ-ติ
[ทั้งสองประโยคนี้ ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับคำศัพท์ตามนี้ จะเรียงอย่างไรก็ได้ เช่น "รามะ ปศฺยติ พาลํ", หรือ "พาลํ รามะ ปศฺยติ" เป็นต้น]
*พยัญชนะที่มีประวิสรรชนีย์ (สระ -ะ) ตามหลังแบบนี้ ให้ออกเสียงอะตามปกติ และมีเสียง หะ ตามมา
*มีเครื่องหมายกลมๆ เล็กๆ ข้างบน ให้ออกเสียงเป็น อัม
* พ ในภาษาสันสกฤต ออกเสียง บ
* ศ ในภาษาสันสกฤตนั้น จริงๆ แล้ว ออกเสียงเหมือน sh ในภาษาอังกฤษ คล้าย ช ในภาษาไทย คำนี้จะอ่านว่า ปัชยะติ ก็จะใกล้เคียงภาษาแขก
* อักษรที่มีจุดข้างใต้ หมายความว่า เป็นคำควบ หรือ ตัวสะกด*
ในประโยคแรก พระราม เป็นประธาน ในประโยคที่ 2 พระรามเป็นกรรมของประโยค คำว่า ราม จึงมีรูปร่างที่ต่างกัน ดังนั้นในตัวอย่างที่ยกมา มีการกให้ดู 2 แบบ คือ การกที่เป็นประธาน (รามะ) และการกที่เป็นกรรม (รามํ) แต่ความจริงแล้ว ในภาษาสันสกฤต มีการกทั้งหมด 8 แบบ ตามหน้าที่ของคำนาม
การใช้การกบอกหน้าที่คำนามนั้นต่างไปจากภาษาไทยที่เราคุ้นเคย ไม่ว่า พระรามเห็นเด็ก หรือเด็กเห็นพระราม คำว่า “พระราม” หรือคำว่า “เด็ก” ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แต่ในภาษาสันสกฤตนั้น คำศัพท์ส่วนมากจะลื่นไหลไม่อยู่นิ่งเลย คำคำเดียวจึงอาจมีรูปต่างๆ กันเป็นสิบแบบ (โดยมีการเติมท้าย หรือเติมหน้า หรือเปลี่ยนเสียงสระก็ได้)
เล่ามาแบบนี้อาจรู้สึกว่าไม่คุ้นเลย แต่ความจริงแล้ว เราคงคุ้นเคยมาบ้างแล้วกับภาษามีการก อย่างภาษาอังกฤษ ซึ่งมีรูปแบบของการกอยู่ให้เห็นในกรณีของสรรพนามจำนวนหนึ่ง ตัวอย่างเช่น
ประธาน |
I |
บอกความเป็นเจ้าของ |
mine |
กรรม |
me |
บอกตัวเอง |
myself |
การกในภาษาสันสกฤตนับว่ามีความสำคัญมาก หากไม่มีการบอกการกแล้ว จะสร้างประโยคไม่ได้เลย เพราะไม่สามารถระบุประธาน กรรม หรือฐานะอื่นๆของคำนามได้ ด้วยเหตุนี้ การเรียนภาษาสันสกฤตจึงต้องรู้เรื่องการผันการกเป็นอันดับต้นๆ
แต่เนื่องจากเรื่องการกนั้นค่อนข้างซับซ้อนและยุ่งยากสำหรับผู้เริ่มเรียน ในที่นี้จึงขอเล่าเพียงเท่านี้
ในตอนหน้าจะได้เล่าว่า การกในภาษาสันสกฤตมีด้วยกี่แบบ และแบบไหนบ้าง …
สวัสดีครับ อ.ทวัชชัย...
ขอบคุณมากที่ให้กำลังใจครับ...
คงสบายดีนะครับ....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน..พรหมมา