นับถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า : Countdown for Advanced


ความผูกพันเป็นเรื่องปรกติสำหรับ"จริตมนุษย์" คนที่รู้จักบุญคุณ ย่อมได้รับความเจริญทุกกรณี

ความผูกพันของผมในฐานะ "มนุษย์เงินเดือน" กับ "องค์กร" มีมายาวนานกว่า ๑๙ ปี ตลอดชีวิตการทำงาน ไม่มีคำว่า "สาย" ไม่มีคำว่า "ล้มเลิก" ทุกอย่างต้อง "ชัดเจน" ตรงไปตรงมา ใช้ภาษาง่ายๆ แต่มีความเป็นวิชาการ มีการอ้างอิง ไม่ช่วงชิงผลงานคนอื่น หากจะนำมาใช้ต้องยกเครดิตให้เขาเสมอ พยายามใช้ชีวิตที่เรียบง่าย ไม่เรื่องมากจุกจิกเรื่องส่วนตัว แต่ละเอียดยิบกับเนื้องาน ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับองค์กรยืดหยุ่นได้ก็หยวนๆกันไป แต่ไม่ส่งเสริมสันดานที่เลวร้ายเล็กๆน้อยๆของคนรอบข้างอย่างเด็ดขาด และทบทวนตัวเองทุกวันหลังเสร็จสิ้นภารกิจประจำวัน

ผมมีตัวตนอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะผู้มีอุปการคุณ ที่ให้โอกาส ให้บทเรียน ให้องค์ความรู้ที่ดี ส่งเสริมขีดความสามารถเพื่อให้ผมนำศักยภาพที่มีอยู่ในตนเองออกมาใช้ให้มากที่สุด จากคนที่ไม่สมบูรณ์ด้านปัจจัยต่างๆที่จำเป็นสำหรับชีวิต ปัจจุบันผมมีที่มีบ้านสำหรับซุกหัวนอน มันไม่ได้ใหญ่โตหรอกครับ แต่ผมก็สามารถมีความสุขอยู่กับคนที่ผมรักได้อย่างดี ดูแลคนที่ผมต้องดูแล สร้างรากฐานทางความคิดที่เหมาะควรให้กับลูกสาวของผม มาถึงวันนี้ผมบอกได้ว่ามัน "เพียงพอ" ตามอัตภาพสำหรับปัจจัยในการดำรงชีวิตของผม......ขอบพระคุณผู้มีอุปการคุณทุกท่าน และแน่นอนที่สุดหากมีโอกาสผมไม่รอช้าที่จะตอบแทนบุญคุณท่านอย่างแน่นอนครับผม

วันศุกร์ ที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ เวลา ๑๗:๐๐ น. เป็นวันสุดท้ายของความเป็น "มนุษย์เงินเดือน" ของผมแล้ว ตอนนี้ผมนับถอยหลัง เพื่อต้องเดินก้าวต่อไปข้างหน้าซึ่งตอนนี้ผมมีสิ่งที่จะทำในสมองผมเต็มไปหมด ผมยังมีเวลาเหลือในช่วงวัยทำงานอีกประมาณ ๑๕ ปี และนี่คือ "ทุนทางเวลา" ก้อนสุดท้ายที่ผมจะลงทุน ทุ่มเท กำลังกาย กำลังใจให้อย่างมีคุณค่าในจิตวิญญาณของผมให้มากที่สุดเท่าที่สังขารจะไปถึงได้ ซึ่งมันไม่ได้เป็นเพียงสิ่งที่ผมทำเพื่อเลี้ยงชีพอย่างเดียว แต่มันจะต้องหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของผมด้วย จุดนี้เป็นประเด็นสำคัญ

กัลยาณมิตรผมหลายคนถามว่าแล้วผมจะไปทำอะไรละ? ผมบอกทุกท่านตรงนี้เลยครับว่า "ยังไม่รู้" แล้วแต่ "กรรม" บางคนอาจมองว่าผมไม่มีแผนอะไรกับชีวิตเลยหรือ? อย่าด่วนสรุปครับ เพราะท่านไม่ใช่ตัวผม ท่านไม่ทราบหรอกผมคิดอะไรอยู่! ใช่ไหมครับ? แต่ก็ขอบคุณกัลยาณมิตรหลายท่านครับที่เป็นห่วง พี่ชายท่านหนึ่งให้ข้อคิดผมว่า "เป็นถึงมหาบัณฑิต ไม่ต้องกลัวอดตายหรอก ดูพวกกรรมกรหาเช้ากินค่ำซิ เขายังหาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียเขาได้เลยเห็นไหม?" ผมได้สติดีมากๆครับและได้ข้อสรุปตรงนี้ว่า "หากเรายังไม่กล้า ความกลัวก็จะกลืนกินเราไปตลอดชีวิต" อีกทั้งทำให้ผมทราบว่าอาชีพ "มนุษย์เงินเดือน" นี่มันเหมือนเด็กที่ไม่โต หรือไอ้ที่โตก็โตแต่ตัวจริงๆ แบมือขอเงินพ่อแม่ใช้ไปเดือนๆ พ่อแม่ก็มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำมาหากิน หาเงินให้ลูกแต่ละคนใช้ทุกเดือนเพื่อเลี้ยงชีพ แต่ไม่มีโอกาสได้มาหล่อเลี้ยงจิตใจลูกๆ จึงต้องมอบความไว้วางใจให้ผู้เป็นพี่ดูแลน้องๆ แต่ไม่ว่าพี่หรือน้องต่างก็คือ "มนุษย์" ที่มี "สันดานดิบ" ติดตัวกันมาทุกคน ขนาดพี่น้องคลานตามกันมายังผิดใจกันด้วยเรื่องผลประโยชน์ นับประสาอะไรกับคนร้อยพ่อพันแม่ ที่มาต่างที่ ต่างจิตต่างใจ ซึ่งเป็นเรื่องของ "ปัจเจกบุคคล" โดยตรง ความเคยตัวที่แบมือขอเงินพ่อแม่ใช้ทุกๆเดือน จนลืมนึกไปว่า "ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน" เกิด ดับ เป็นวัฎจักร บางครั้งไม่อาจตั้งตัวได้ ตัวอย่างมีให้เห็นแล้ว ช่วงมหาวิกฤตอุทกภัย น้ำท่วมนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ เกิดอะไรขึ้นครับ? พ่อแม่เลี้ยงลูกไม่ไหว ลูกแบมือขอเงินเดือนไม่ได้แล้ว เพราะพ่อแม่ก็ไม่มีรายได้ พ่อแม่บางคนทิ้งลูกหนีไปยังไม่กลับมาเลยก็มี พ่อแม่บางคนตัดความเป็นลูก ลูกๆที่น่าสงสารก็นั่งรอ นอนรอ รับชะตากรรมกันไป บางคนความรู้ไม่เยอะเอาตัวรอด แต่ขณะที่คนอีกส่วนหนึ่ง "ความรู้ท่วมหัว......เอาตัวไม่รอด"

ผมคงไม่ Negative Thinking จนเกินไปนะครับ ผมทราบว่าคนที่เขาเป็นมนุษย์เงินเดือน "มืออาชีพ" จริงๆก็ยังมี เขาสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยความพึงพอใจในสิ่งที่เขาได้เป็น ซึ่งผมก็ยินดีและดีใจด้วยจริงๆครับ ขออวยพรให้ค้นพบความสุขที่แท้จริงในเร็ววันครับผม สำหรับตัวผมขณะนับถอยหลังอยู่ตอนนี้ มันมีความรู้สึกสงบ เงียบ เย็น เบา สบาย ทั้งที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะเป็นทุกข์ และได้คำตอบให้กับตัวเองตอนนี้แล้วว่า "ฉันไม่ควรมายืนอยู่ที่นี่จริงๆ ฉันควรจะไปอยู่ในที่ที่ฉันควรอยู่ เพราะฉันอาจไม่ดีพอกับบริบทนี้" ผมกำลังจะได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดในชีวิตให้กับจิตวิญญาณผมแล้ว นับถอยหลังเพื่อก้าวไปข้างหน้า : Countdown for Advanced ครับผม ^_^

"ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม กรรมใดที่ทำแก่ผู้ใดในบริบทนี้อันด้วยบทบาทหน้าที่การทำงานของข้าพเจ้าก็ดี ขอให้เจ้ากรรมนายเวร จงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า อย่าได้จองเวรจองกรรมกันต่อไปเลย แม้แต่กรรมที่ใครๆทำแก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้น ยกถวายพระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมกันต่อไป และด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติ และผู้มีอุปการคุณของข้าพเจ้าจงมีแต่ความสุข ความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบตามครรลองแห่งธรรม มารร้ายใดๆไม่สามารถเข้าครอบงำ ให้รอดพ้น หลุดพ้น จากสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเทอญ" 

หมายเลขบันทึก: 476028เขียนเมื่อ 24 มกราคม 2012 11:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 16:54 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

ขอบพระคุณดอกไม้ให้กำลังใจจาก ท่านอาจารย์นุ ครับผม ^^"

อาชีพอะไรก็ได้ ที่ทำแล้ว ทำให้ตัวเรามีความสุข ถึงแม้จะไม่ใหญ่ โต โก้ หรู แต่สามารถเลี้ยงตัวเราเองและครอบครัวได้ ก็น่าจะเป็นที่พอใจแล้วค่ะ พอเลี้ยงตัวให้อยู่ได้ อยู่กับคำว่า "พอเพียง" เท่านี้ก็น่าจะพอแล้วกับการที่เกิดมาเป็นมนุษย์ จะดิ้นรน ไขว่คว้าอะไรกันไปถึงไหนค่ะ จริงไหมค่ะ

ผู้เขียนยังคิดเลยว่า ที่เป็นตัวตนได้ทุกวันนี้ คงเป็นบุญกุศลเก่า + ปัจจุบัน ที่ทำมา จึงมาเป็นได้ในทุกวันนี้ "ภูมิใจ" ในคุณค่าของตัวเราเอง แม้ว่าจะเป็นหญิง ก็สามารถทำได้ด้วยผลงานตัวเราเอง และมีศักดิ์ศรีของตัวเราเอง สมกับทุกอย่างที่หลวงจะให้เป็นค่าตอบแทนรายเดือนให้กับเรา คุณค่าของความเป็นคนจะแตกต่างกันตรงนี้เองค่ะ (แต่ไม่ทราบว่าใครคิดกันบ้างหรือเปล่า?)... แต่ปัจจุบันก็ต้องหมั่นสร้างบุญ กุศล เพิ่มเติม เพื่อจะได้เป็นบุญ กุศล สะสมไปในภพหน้าด้วยไงค่ะ แค่คิด + กระทำ สิ่งดี ๆ ก็จะตามมาเองแหล่ะค่ะ จริงไหมค่ะ?

เป็นกำลังใจให้ค่ะ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ แล้วจะดีเองค่ะ...

ขอบพระคุณท่านอาจารย์บุษยมาศ ครับผม

สำหรับดอกไม้ให้กำลังใจ และความคิดเห็นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ผมเห็นสอดคล้องกับท่านอาจารย์นะครับ เราต้องดิ้นรนอย่างมีความสุข เท่านี้ผมก็พอใจแล้ว ได้มากได้น้อยตามผลความทุ่มเทของเราครับผม

ดีใจครับที่ได้รู้จักท่านอาจารย์ ซึ่งมีอุดมการณ์ใกล้เคียงกัน งานหนึ่งที่ผมต้องทำต่อแน่นอนคือ ศึกษาเรียนรู้ แลกเปลี่ยนใน gotoknow กับท่านอาจารย์และกัลยาณมิตรทุกๆท่าน ^^"

  • อยากจะบอกคุณธนากรณ์ว่า....
  • บนถนนชีวิตของคน ๆ หนึ่ง...
  • ความสำเร็จอันเป็นเป้าหมายสุดท้ายปลายทางนั้น...
  • คงไม่มีใครบอกได้ว่าอยู่ ณ จุด ๆ ใดของถนนชีวิต...
  • และ...ความสำเร็จของชีวิต ณ จุด ๆ นั้น มันต้องประกอบด้วยองค์ประกอบหรือปัจจัุยอะไรบ้าง...?
  • ความรู้  ทรัพย์ิสิน   หน้าที่  การงาน หรือ...?
  • ก็ไม่แน่หรอกจ้ะ  แต่ที่สำคัญที่สุด....แน่นอนที่สุด....ก็คือ...?
  • ความมานะ บากบั่น  มุ่งมั่น  ไม่ย่อท้อ....
  • เดินต่อไปจ้ะ....ขอเอาใจช่วย " พรุ่งนี้ยังเป็นของเรา"


สวัสดีปีใหม่ครับ คุณธนากรณ์ ครับ

 

 

สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๖

ขออวยพรให้มีความสุขความเจริญ สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง

ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน เบิกบานกายใจ และสมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท