ตำนานผีล้านนาตอน "ผีเจ้าท่า"
แม้ว่าจะเป็นคืนเดือนแรมหนึ่งค่ำผู้คนล้านนาเรียกกันว่าแฮมค่ำ ซึ่งเป็นเดือนสี่เหนือหรือเดือนยี่ภาคกลางแต่ดวงจันทร์ช่างงามแท้ผืนฟ้ากว้างไกล มีปอยเมฆเล็กๆลอยห่างหนีแสงจันทร์ไกลโพ้นริมขอบฟ้า
ยามย่ำเข้ากลางคืนข้างแรมหนึ่งค่ำพระจันทร์ลูกโตลอยดวงโผล่ขอบฟ้าทางหนวันออก สีเหลืองนวลอมส้มเปล่งแสงไล่ดาวให้หดหายหลบเข้าผืนฟ้า อ้ายจั๋นพรานปลาลุ่มน้ำปิงเห็นว่าบรรยากาศอย่างนี้มันเป็นคืนที่ฝูงปลาจะพากันออกมาเล่นแสงเดือน
อยู่บ้านก็อยู่เปล่าจึงแบกแหคู่ใจพร้อมกับมีเหล้าใส่ขวดเล็กๆใส่ย่ามเดินดุ่มไปริมฝั่งปิงดั่งเคยพระจันทร์ดวงงามยิ่งสูงยิ่งงามดูแปลกตาผิวน้ำปิงกระเพื่อมคลื่นระยิบๆเงาจันทร์สะท้อนตามระลอกคลื่นดูจันทร์เป็นหลายดวง
มองผิวน้ำเป็นฟองคลื่นพุ่งไปมาแม่นแล้ว มันคือฝูงปลาว่ายใต้ผิวน้ำเล่นแสงจันทร์ยามคืนแรม แต่หมาเจ้ากรรมจากที่ไหนไม่รู้มันวิ่งเล่นตามผืนเกาะทรายแล้วลงว่ายน้ำเล่นย่างจงใจ
อ้ายจั๋นจึงส่งเสียงไล่ มันกลับเห่า..กรรโชกวิ่งเข้ามาใกล้อ้ายจั๋นชักมีดออกจากฝักเงื้อง่าจะขว้าง เจ้าหมามันช่างแสนรู้กลับถอยหลังไปไกล เมื่ออ้ายจั๋นนั่งลงเตรียมห้างแหใส่ข้อศอกเตรียมจะทอด หมาเจ้ากรรมมันกลับเข้ามาเห่า ดั่งจะเข้ามากัดเสียให้ได้
ท่ามกลางแสงเดือนทอจรัสแสง ระะหว่างคนทอดแหกับหมาผู้จองเวรชาติใดไม่ทราบมันรบกวนกันอยู่อย่างนั้นนานพอควร
อ้ายจั๋นนึกได้ว่าเหล้าในขวดเล็กยังอยู่เต็มจึงวางแหแล้วหยิบเอาขวดเหล้าออกมารินลงที่ท่าน้ำบอกว่า " เ้อ้า....นี่เหล้าอยากกินก็มากิน แบ่งกันกิน แล้วอย่ารบกวนเน่้อ....."
ว่าแล้วรินเหล้าลงแผ่นดิน และยกขึ้นดื่มแก้กระหาย เท่่านั้นเอง ไอ้หมาเจ้ากรรมมันยุดเห่าแล้ววิ่งขึ้นบนฝั่งหายลับไปกับความมืดใต้เงาต้นไทรใหญ่ริมฝั่งน้ำ
ฝ่ายอ้ายจั๋นจึงมีโอกาสทอดแหเอาปลามาเกือบครึ่งกระสอบถุงปุ๋ย แบกปลากลับบ้านทั้งๆที่ใจยังแคลงคนิงว่าไอ้หมามันเป็นหมาผีมาจากไหน ทั้งๆที่คืนนี้เป็นคืนที่งดงามเดือนก็เป็นใจเหตุไฉนหมาผีมันจึงมาหลอกหลอน และไอ้ผีนั่นมาจากไหน....
รุ่งขึ้นยามสายหลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ อ้ายจั๋นเล่าเรื่องให้พรานปลาแม่น้ำปิงในระแวกบ้านเดียวกัน คนหนึ่งบอกว่าทีท่าน้ำนั้นเมื่อสามสี่ปีก่อนมีคนเมาเหล้าแล้วไปทอดแห เมื่อยกแหจะทอด ด้วยความเมาแรงไม่มีทอด ผืนแหกระหวัดเอาตัวเขาพลัดตกลงน้ำ ผู้คนที่เห็นลงช่วยไม่ทันจึงจมน้ำตายใกล้ๆท่า ตั้งแต่นั้นมาผู้คนมักจะเห็นเงาตะคุ่มทอดแหยามกลางคืนเสมอ
อ้ายจั๋นได้ยินเรื่องเล่าเขาจึงเข้าใจว่า...อ้อเมื่อคืนที่ผ่านมาคงเป็นผีไอ้คนตายตกน้ำเป็นแน่แท้...ที่จำแลงเป็นหมามาขอกินเหล้า
หลังจากนั้นหากอ้ายจั๋นจะไปทอดแหเมื่อใด เขาจะพกเหล้าใส่ขวดเล็กไปเทให้ผีดื่มก่อนทอดแหทุกครั้ง และก้อได้ปลามาสมใจอยาก....
ความเห็น
สวัสดีเจ้าพ่อครูหนานฯ
คืนนี้พระจันทร์ก็เต็มดวงนะเจ้า ... ชอบเวลาพระจันทร์เต็มดวง สวยงาม อยากจะแปลงร่างเลยเน้อเจ้า :)
เวลาเดินทางไปผ่อนพักต่างจังหวัดกับ พ่อแม่ ยิ่งตอนเข้าป่ากัน แม่มักจะเอาอาหารไปเซ่นไหว้ ก่อนเริ่มรับประทานพร้อมหน้า
ขอบคุณบันทึกนี้ ฝันดีเจ้า
สวัสดีครับคุณ POO
แสงเดือนเป็นดั่งยาทิพย์เรียกกันว่า..จันทร์บำบัด..
ทำให้จิตผ่องใส..สงบเยือกเย็น..เบาสบายคลายเครียด...เพียงแต่อย่าเผลอจิตให้ซ่านเกินไป..นึกรู้ นึกได้นี่ก็ให้คุณภาพชีวิตแจ่มใสแล้วครับ...
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน..พรหมมา
สวัสดีเจ้าพ่อหนาน
อ่านไป ขนลุกไป
นึกถึงตัวอย่างการใส่เจ้าที่ของคนเฒ่าเวลาไปกินข้าวนอกบ้าน ตามเรือกสวน ไร่นา จะใส่เจ้าที่ก่อนกิน ไม่รู้เหมือนกันก่อนะเจ้า
ขอบคุณเจ้า
สวัสดีปีใหม่ครับคุณปริม... การใส่ข้าวผีเจ้าที่เป็นการให้ความเคารพแก่เจ้าที่หรือสิ่งแวดล้อมทำให้เกิดความเกรงกลัวมิทำสิ่งใดที่ทำลายสิ่งแวดล้อม.. การใส่ผีเจ้าที่เป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งของคนบ้านเรา เป็นการขอบคุณเจ้าที่ที่ได้ให้ความสะดวกในการทำมาหากิน เกิดกำลังใจเกิดความเชื่อมั่นในการทำงาน แม้จะเป็นที่เรีอกสวนไร่นาของเราเองก็ตามผู้เป็นเจ้าของก็ยังต้องเคารพเจ้าที่เซ่นไหว้ บอกสิ่งที่จะทำที่สุดก็เกิดความสุขใจในการประกอบอาชีพ..มีความสุขตามวิถีของตนเอง.... ขอบคุณที่เข้ามาแว่อ่าน...ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน......พรหมมา
สวัสดีค่ะพ่อครูหนาน
ตูลได้อ่านเรื่องผะหญาล้านนา จากหนังสือสูข+สรรค์ ฉบับที่ 2 ปีที่ 1 เดือนพฤศจิกายน 2554 จึงตามมาอ่านต่อในบล็อกคะ
จะติดตามอ่านต่อไปค่ะ
สวัสดีเจ้าคุณรตยา...
ยินดีเจ้าที่เขามาแว่อ่านและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เจ้า....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา
สวัสดีเจ้าลุงหนานพรหมมา เนื้อหาสาระที่ลุงหนานนำมาเผยแพร่มีสาระมากเจ้า
หนูกำลังเรียนคติชนวิทยากับวรรณกรรมล้านนาอยู่ สามารถนำไปประกอบความรู้ได้อย่างดีเลยเจ้า
แต่อยากขอคำแนะนำเกี่ยวกับคติชน ไม่ทราบว่าลุงหนานพอจะช่วยได้ก่อ แล้วจะติดต่อลุงหนานได้ตางไหนเจ้า
สวัสดีเจ้าหลานใบหลิว...
ยินดีเจ้าจะช่วยเหลือเต็มที่..ติดต่อหรือไปหาที่ บ้านป่ารวก ม.6 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม
จ.เชียงใหม่ -50180- หรือหากไปด้วยตนเองที่หัวสะพานข้ามน้ำปิงด้านตะวันตก หน้าศาลากลางเชียงใหม่ หรืออยู่เหนือบ้านเอื้ออาทรบ้านท่อ อ.เมือง..จะลอดสะพานขึ้นไปราว 300 เมตร สังเกตป้าย แหล่งเรียนรู้ผะหญาล้านนา-สวนชาปิ้งหินไฟ...
หากจะไปโทร.หาลุงก่อนครับ- 0895536521-
สวัสดีเจ้าหลานใบหลิว......
กว่าลุงจะปิ๊กมาอ่านก็เลยเวลามาเมินนาน....
ยินดีนักๆเจ้า....
ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.... พรหมมา