การดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ ระยะที่ 3 ผล MRI
11 ธ.ค.54 หลังจากแม่เข้าออก รพ.สรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี หลายครั้ง เพื่อวินิจฉัยว่าเป็นอะไรแน่ที่ปวดหลัง หมอที่ศูนย์มะเร็งอุบลฯ บอกข่าวดีว่าแม่ไม่ใช่อาการของมะเร็ง จากการตรวจผล X-Ray จากนั้นแม่ต้องทำ MRI (การตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า) ผลแม่เป็นวัณโรคกินกระดูก (เพิ่งเริ่มเป็น) หมอบอกว่า สามารถผ่าตัดได้ แล้วกินยาต่ออีก 3 เดือน ถ้ากินยาอย่างเดียวอย่างน้อยหกเดือนถึงหนึ่งปี (กินอย่างต่อเนื่องไม่ให้ขาดแม้แต่วันเดียว เพราะมีผลต่อการดื้อยาของเชื้อโรค)
แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ แม่อายุมาก น้ำหนักแม่เหลือแค่ 27 กิโลกรัม เท่ากับเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่งแต่ก็ปวดเมื่อยาแก้ปวดหมดฤทธิ์ หมอให้ยา แม่กลับมาอยู่บ้านกินยาตามที่หมอแนะนำ ซึ่งมีผลข้างเคียงเกือบ 20 อย่าง ทั้งที่ต้องพบหมอโดยตรง และไม่ต้องพบหมอ ลูก ๆ ก็ศึกษาหาข้อมูลจากคนเป็นวัณโรคกินกระดูก ว่าผลข้างเคียงของยารุนแรงแรงมาก บางคนอาจกินยาแล้วอ่อนเพลียและช็อคได้หากการดูแลไม่ดี แม่เป็นเบาหวาน ความดัน มะเร็ง แล้วความหวังจะเป็นอย่างไร แต่สุดท้ายลูกๆทุกคนก็ลงความเห็นว่าแม่ต้องกินยาตามที่หมอให้อย่างต่อเนื่อง
14 ธ.ค.54 ตั้งศาลให้เจ้ากรรมนายเวร ศาลพ่อใหญ่ทองดำ
วันนี้ ... สิ่งที่ลูก ๆ ทุกคนหวังว่ามี่จะผ่าน วัน เวลาที่วิกฤตที่สุดในชีวิตอีกครั้งหนึ่ง ... ความหวัง
ของลูก ๆ อาจจะน้อยลงทุกที ทุกครั้งที่ลูก ๆ มองตากันก็เข้าใจในความรู้สึกของกันและกันในการยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
แม่เข้าโรงพยาบาลปรางค์กู่ตอนเที่ยง เนื่องจากความดันสูง และเบาหวานลดเหลือ 46 ทั้งนี้ วันนี้ได้ตั้งศาลเพียงตาให้เจ้ากรรมนายเวรให้อยู่เป็นหลักแหล่งตามคำแนะนำของหลวงพ่อที่แม่นับถือ ลูก ๆ ตั้งใจว่าวันนี้ช่วงกลางคืนจะสวด อิติปิโส 85 จบ ให้แม่เพื่อเป็นการต่ออายุตามความเชื่อโบราณ โดยลูก ๆ และญาติได้เตรียมชุดขาวไว้ แต่ก็ ... ไม่ได้ทำจึงหวังว่า... ยังจะมีโอกาสทำให้แม่
ความดันแม่ไม่นิ่ง น้ำตาลลดลงแม่มีอาการเบลอ แต่พอจำความได้ รู้สึกตัว รู้ว่ายกมือกี่นิ้ว ... กลางคืนหมอให้ยาแก้ปวด แม่ไม่นอนทั้งคืน ...
แม่ คือ หวัง
แม่ คือ พลัง
แม่ คือ คุณงามความดี
แม่ คือ ผู้ปลูกฝังสิ่งดีงาม... ให้ลูก .... เสมอมา.....
15 ธ.ค.54 ครั้งแรกที่แม่ต้องต่อสายยาง...
ช่วงบ่ายแม่ทรุดหนักหลังจากหมอให้ยา ไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองใด ๆ หมอโรงพยาบาลปรางค์กู่ส่งต่อโรงพยาบาลศรีสะเกษ แม่ไม่รู้สึกตัวอะไร ... ต้องให้อาหารทางสายยาง และให้ออซิเจนตลอดเวลา ... เป็นครั้งแรกที่แม่ต้องให้อาหารทางสายยาง ทั้งที่ผ่านมาหนักหนาสาหัสมากในการผ่าตัด... วันนี้ ... เห็นแม่ทรมาน กับสิ่งที่เป็นอยู่ ทั้งที่รู้ว่าต้องทำใจ ... แต่น้ำตาก็ไหลจนได้ ... ทั้งที่ไม่เคยให้พี่น้องรู้ว่า ... ผู้เขียนอ่อนแอแค่ไหน...
แม่เป็นมะเร็ง แม่เป็นเบาหวาน แม่เป็นความดัน และแม่เป็นวัณโรคกินกระดูก ... กับวัย 84 ย่าง 85 ปี ความเจ็บปวด มันยากที่จะอดทน ... แม่ผ่านมาได้จากการเป็นมะเร็ง ... วิกฤตครั้งนี้ ... แม่จะสู้ได้หรือเปล่า... ลูก ๆ ทุกคน ได้แต่ปลอบใจกันว่า ... เราดูแลแม่มาดีที่สุดแล้ว ... ให้กำลังใจ ให้ความหวังแต่สิ่งหนึ่งที่เราหนีไม่พ้นคือ “ความตาย”
น้ำตาลูก ๆ จึงเป็นเพียงเครื่องปลอบประโลม.. กัน และด้วยถ้อยคำที่ให้กำลังใจกันและกัน เท่านั้นที่ลูกแม่ทำได้ตอนนี้
ข้อคิด ... สิ่งที่เรา...โหยหา... หวงแหน.. แก่งแย่ง... ชิงดี ชิงเด่น ... สุดท้าย ... เหลือได้ และเหลือไว้ ... เพียงคุณงามความดี...(ที่ฝากไว้)
ไม่มีความเห็น