การดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ ๓ เมื่อแม่ต้องล้มหมอนนอนเสื่อ(ความพ่ายแพ้ที่ไม่แพ้)


การดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่ ๓ “ การเดินทางของแม่กับชีวิตที่จำยอม”

23 ต.ค.54 เวลา 01.00 น. “ การเดินทางของแม่กับชีวิตที่จำยอม”

          คืนนี้ช่างเป็นคืนที่มีความรู้สึก “โหดร้าย” กับแม่ ... ลูกทุกคนได้แต่หวัง .และหวัง .. ความรู้สึก ความจำแม่ “อ่อนแอ” ลงทุกที ออกจากโรงพยาลปรางค์กู่ แม่ยังเพ้อ ลืมเสียม ลืมห่อข้าวต้มมาฝากหมอที่โรงพยาบาลปรางค์กู่
          ความรู้สึกลูกๆ ไม่ต่างกันนัก ไม่มีรอยยิ้มให้แก่กัน ได้แต่ปลอบประโลมกันและกัน ... เพื่อยอมรับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น  ผู้เขียนเอง...ต้องเข้มแข็ง ... ทั้งจิตใจ ร่างกาย ...บอกพี่น้องให้ “ยอมรับ” ... “สังขาร” .. และวัน... เวลา ... ที่อาจดูเป็นนานกับคำคืนนี้ ...
          สุดท้ายเราต้องปรึกษากับคุณหมอโรงพยาบาลปรางค์กู่ เพื่อส่งต่อแม่มารักษาที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์ จังหวัดอุบลราชธานี พี่สาวซึ่งรู้จักหมอที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิ์(เพราะการส่งต่อตามกระบวนการต้องเข้าโรงพยาบาลศรีสะเกษก่อน รพ.ศรีสะเกษจึงจะส่งต่อไปอุบลได้) ได้ประสานโรงพยาบาลเพื่อรับการรักษา(เพิ่งเข้าใจว่าสิทธิพิเศษมีจริงๆ) ในเวลาเกือบเที่ยงคืน
          ด้วยข้อคิดของคุณหมอโรงพยาบาลปรางค์กู่ ว่าควรจะเดินทางตอนเช้า และได้ทำเอกสารส่งตัวให้ตอนตีห้า ด้วยรถยนต์ตัวเองเนื่องจากเป็นการข้ามขั้นตอนการรักษาและเป็นความต้องการของญาติผู้ป่วยจึงไม่มีรถรับส่งให้ ถึงโรงพยาบาลอุบลหกโมงเช้า หมอรับเป็นคนไข้ใน

 

          24 ต.ค.54  

          ให้พี่น้องดูแลแม่อยู่กับแม่ ผู้เขียนเอง ... ได้ใช้เวลาที่ความรู้สึก “โหดร้าย” “หวาดหวั่น” กับการที่ต้องอาจสูญเสีย เพราะแม้แต่จะย้ายห้องย้ายเตียงในโรงพยาบาล “แม่” ก็ต้องถามหาว่าผู้เขียนอยู่ไหน ต้องรอผู้เขียนก่อน จึงจะยอมไป ....

          วัน เวลา ที่หวาดหวั่น วัน เวลา ที่แสนเศร้า... และวันเวลาที่เหลือน้อยลงทุกที ... สิ่งสุดท้ายของผู้เขียนวันนี้ คือเข้าวัด .. ไหว้พระ ...ขอพร ... อธิฐานจิต ... ให้แม่ปลอดภัย ... หาย ... กลับบ้านไปทำบุญกฐิน ... ในปีนี้

          วัดป่าใหญ่ ...เจ้าใหญ่อินแปง ... ลูกชายคนนี้ได้ขอพรให้แม่หาย มีอายุยืนยาวต่อไป แม้จะเป็นเพียงความรู้สึกหนึ่ง...ในความ“หวังที่หวาดหวั่น”  “ในความหวังที่เป็นห่วง”

          การเสี่ยงทายยกช้างที่วัดป่าใหญ่ ... ครั้งนี้ ...

          ครั้งที่ 1 ถามว่า แม่จะหายหรือเปล่า  ยกช้างขึ้น

          ครั้งที่ 2 ถามว่า แม่จะหายไม่ ยกตัวไม่ขึ้น

          การยกตัวเสี่ยงทายเป็นไปตามแรงอธิฐานและสิ่งที่น่าสังเกตคือ สองครั้งที่แม่เจ็บหนัก ครั้งที่หนึ่งที่วัดขามแก่น จังหวัดขอนแก่น เสี่ยงทายเช่นกัน ขอพรให้แม่อายุเกิน 95 ปี ประมาณปี 2550 ก็ยกช้างขึ้นครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ยกไม่ขึ้น

          ครั้งนี้ก็เช่นกัน ทำให้ผู้เขียนมีกำลังใจและโทรศัพท์ไปถามพี่ที่ดูแลแม่ ... แม่พูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้เขียนได้ อาการที่หวาดหวั่นในค่ำคืน 23 ตุลาคม 2554 เบาบางลงไป ...การดูแลรักษา หมอตรวจสมอง ตรวจกระดูกสันหลังที่ปวด ความดัน เบาหวาน  และแม่ก็ดีขึ้น ... พูดคุย ...ความจำกลับมา คุยโทรศัพท์ได้ ..

          น้ำเสียงทางโทรศัพท์ของพี่ ... ของแม่ ...ดูมีความหวังและมีความสุข ... ขอเถอะ... หากแบ่งชีวิตที่เหลืออยู่ของลูกให้แม่ได้ ....ลูกชายคนนี้ ... อยากให้ชีวิตนี้กับแม่ ไปทั้งชีวิต ... ด้วยน้ำตาของลูกคนนี้ ... ยังเป็นของแม่คนเดียวเสมอ

          “สิ่งหนึ่งที่อยากจะฝากสำหรับทุกท่านที่เป็นลูก หรือเป็นผู้ดูแลผู้ป่วยโรคอะไรก็ตาม หรือแม้แต่ .. การดูแลรักษาผู้ป่วย..ของหมอ และโรงพยาบาลของแต่ละแห่งแตกต่างกันในด้าน “บุคลากร” เครื่องมือ...ในการวินิจฉัย... หากแม้มีโอกาสและทางเหลือที่เหลืออยู่ ...บางที่เราต้องเลือกและแสวงหา... ความหวัง ... จากหลายโรงพยาบาล ...เพราะปัจจัยความแตกต่างในบ้านเมืองเรา .....ยังก้าวไม่ทันกัน” ...

          29 ต.ค.54  เวลา 14.28 น.  

          วันนี้ ทอดกฐิน วัดบ้านกลางได้ยอดกฐิน 80,949.-บาท แต่มีการสมทบอื่น ๆ เช่น ต้นดอกไม้ อีก รวมประมาณ 150,000.-บาท

          พร้อมกับข่าวดีว่าแม่ หมอให้แม่ออกจากโรงพยาบาลอุบลฯ และจะนัดตรวจหลัง ตรวจความดัน

อีกประมารณ 7 วัน ก็ได้แต่หวังว่าแม่จะกลับมาปกติ แม้จะหลงลืมบ้างเป็นไปตามอายุที่มากขึ้น

           วันนี้อิ่มบุญไม่กรวดน้ำ ...ทำบุญทางโทรศัพท์กับลูกหลานคงจะดีขึ้น

          เหนื่อยไหม.. ความรู้สึกนี้มีทุกคน ขอเพียงแม่มีความสุขลูก ๆ ทุกคนพร้อมที่จะเหนื่อย พร้อมที่จะทำให้ “แม่” เหมือนที่แม่เคยพูมฟักลูก ๆ ทุกคนให้มีวันนี้...

          3 พ.ย. 54    

          แม่กลับจากโรงพยาบาลสรรพสิทธิฯ หลังทอดกฐิน ผู้เขียนไปรับแม่กลับบ้าน แม่ดูสดใส ... คลายกังวลลงมาก .. กินยาตามหมอสั่ง ... ดูแลเป็นพิเศษ ... แต่วันนี้ ...น้ำตาลแม่ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากเวลา 18.00 น. ที่ 68  เวลา 20.00 น. ลดลง 58  และเวลา 22.00 น. ลดลงเหลือ 56  ทั้งนี้ให้กิน้ำหวาน... ให้กินอาหารเพิ่มน้ำตาล ทำให้ต้องส่งเข้าโรงพยาบาลปรางค์กู่ ... ให้กูลโคสทางเส้นเลือด  แม่กลับมาดีขึ้น รู้สึกตัว...แต่ก็นอนไม่หลับ มีอาการเพ้อ ...ความจำสูญเสียเป็นบางครั้ง ..

          5 พ.ย. 54    

แม่ต้องเดินทางต่อ คราวนี้รถโรงพยาบาลปรางค์กู่จะไปส่งที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิฯ เพราะหมอนัดตรวจสแกนหลัง ... ตรวจฟัน

การดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ... เป็นเรื่องที่ยากและก็ประมาทไม่ได้ ตลอดเวลา ...ที่หมอบอกว่า...แม่หายเป็นปกติแล้ว .. ผู้เขียนก็พาแม่ไปตรวจบริเวณผ่าตัด.. และตรวจระดับมะเร็งในกระแสเลือดอยู่ตลอดทุกปี ... จึงฝากเป็นกำลังใจ...สำหรับผู้ป่วย ญาติผู้ป่วยทุกคนที่ ทนทุกข์... ทรมาน.. กับโรคนี้ อย่างได้ประมาท .. เพราะไม่รู้มันจะกลับมาอีก… “เมื่อไร” และ “ตรงไหน” ที่จะเกิดใหม่ ... เหมือนแม่ผู้เขียน ...ที่ปวดหลัง .. เพราะอายุมาก หรือมะเร็ง ...ลุกลามไปที่กระดูก ...

การเดินทางของแม่ ... ไม่รู้จะยาวน่านเท่าไหร่ .. และก็เวลาที่เหลืออยู่ของแม่ ... เพียงพอที่ลูก ๆ จะพาแม่เดินทางสู้... “อย่างมีความหวัง” ได้อีกสักครั้งหรือไม่ .. จึงมีเพียง ... คำปลอมประโลมกันระหว่างลูก ๆ ว่า ...แม่เราอายุมากแล้ว .... ทำให้ดีที่สุด ... และสู้ให้ถึงที่สุด ...

          ... ไม่มีใครอยากเสีย ... สิ่งที่ตัวเองรัก ไม่มีใครอยากเสียสิ่งที่ตนเองมี และไม่มีใครอยากเสียสิ่งที่เป็นของตนเอง แม้เพียงน้อยนิด...

          การเดินทางของแม่ ... จึงเป็นความหวังของลูกทุกคน ... แม้วัน เวลา จะเหลือน้อยลงทุกที ...

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 473406เขียนเมื่อ 4 มกราคม 2012 08:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 05:01 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท