การเดินทางชีวิตของผมไม่มีทางจบสิ้นและสิ้นสุด
หนทางที่มีทั้งเรื่องดีและร้าย...ทำให้ผมเติบโต เรียนรู้ และยืนหยัดต่อไป
สาย ๆ ของวันนี้ ผมเดินทางออกล่าความฝันของตนเอง...ผมมีเป้าหมายชัดเจน
แต่กระบวนการ และผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น...เมื่อสิ้นสุดปลายทางฝันของวันนี้
ผมอาจจะคว้าน้ำเหลว หรือมีน้ำทิพย์ชโลมใจก็ได้...ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
เส้นทางที่ไม่คุ้นชิน...ผู้คนที่ไม่คุ้นเคย
แต่ทุกท่านนับกว่าสิบชีวิต...ที่ผมถามไถ่จุดหมายปลายทาง
กลับบอกเส้นทางด้วยมิตรภาพ รอยยิ้ม และน้ำใจ เสมือนผมเป็นเจ้าชายต่างเมือง
ผมผ่านวัดวาแบบพุทธ ผ่านโบสถ์ของชาวคริสต์ และผ่านมัสยิดของชาวอิสลาม
ทำให้ผมตระหนักดีว่า...เมืองพิษณุโลก เป็นดินแดนแห่งความหลากหลายของคำสั่งสอนที่ทรงคุณค่า และผู้คนต่างจิตใจงดงามยิ่งนัก
ถนนหลายสายแยกย้ายออกไปชวนให้ผมหลงทางยิ่งนัก
ทางรถไฟ...หลายสายดูเงียบเหงา เมื่อมองสุดลูกหูลูกตาตามรางรถไฟที่เหยียดยาว
ทำให้ผมหวั่นใจว่า...ผมจะเดินทางไปสู่เป้าหมาย ด้วยการเดินด้วยขาสองข้างของผมหรือไม่ ?
ถ้าผมเป็นดั่งเจ้าชาย...ผมก็คงออกเดินทางตามหา “เทวดา”
เมื่อผมเห็นป้าย...เหมือนมีกลีบกุหลาบสีแดงส่งกลิ่นหอมเย้ายวนว่า ผมมาถึงจุดหมายแล้ว
แม้ผมจะเตรียมตัว เตรียมใจ และเตรียมข้อมูล ที่มาพบกับเจ้าของพิพิธภัณฑ์
“ จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์” คำถามแรกที่ผมพูดกับท่าน ...เหมือนคำถามมีปีก และกระเจิงลอยหนีขึ้นบนท้องฟ้า
ผมคงจะประหม่า ตื้นเต้น และไม่มั่นใจ เมื่อผมต้องพบ และพูดคุยกับคนที่ผมรักและศรัทธาเสมอ ๆ
และเป็นอย่างนั้น ตลอดการสัมภาษณ์คำแรกจวบคำสุดท้ายของผมกับคุณตาทวี
คุณตาทวี... อวยพรให้ผม เมื่อผมขอลาท่านกลับ ผมขอกอดท่าน
ผมได้ยินแต่คำว่า “ให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก...และจงทุ่มเทกับมันตลอดชีวิต ...เพราะเราจะรู้สึกมีความสุขเสมอ ๆ ที่ได้ทำมัน”
ผมน้ำตาซึมออกมาเล็กน้อย...เป็นน้ำตาแห่งความอิ่มเอมใจกับชีวิตกับงานพิพิธภัณฑ์ของคุณตา
และตอกย้ำชีวิตของผมที่จะเติบโต เรียนรู้ และยืนหยัดต่อไป
ผมบอกกับคุณตาว่า...ผมต้องกลับมาที่อีกครั้ง พร้อมกับลูกชาย และภรรยา
ในใจคิดว่า...ผมอยากให้พวกเขามาอ่านความในใจของถ้อยคำที่คุณตาเขียนบนกระดาน
และผมหวังว่า แรงบันดาลใจของชีวิตที่ผมสะสมมาทั้งที่เกิดขึ้นไปแล้ว และยังไม่เกิดขึ้น...จะมีคุณค่าต่อชีวิตของผมและผู้อื่น
ถึงมันจะเป็นถ้อยคำความในใจเล็ก ๆ บนแผ่นกระดาษบาง ๆ ที่ผมจะเขียนให้…
ลูกชาย ภรรยา และท่านอื่น ๆ ว่า ผมได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก...และทุ่มเทกับมันตลอดชีวิต ...อย่างไร ?...
ชีวิตกับงานพิพิธภัณฑ์….“ จ่าสิบเอกทวี บูรณเขตต์”
เกือบชั่วชีวิตของผม ผู้คนรอบข้างมักมองเห็นการซื้อหาเก็บวัสดุสิ่งของ
เครื่องมือ เครื่องใช้ ไม้สอยต่าง ๆ ที่เขาพากันทิ้งขว้าง
แม้แต่เศษใบไม้ใบหญ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยด้วยสายตาที่มีคำถามและไม่เข้าใจ
เพราะมันเป็นเรื่องสวนทางของกับวิถีปกติของคนในสังคม
หนัก ๆ เข้าผมจึงถูกมองว่าเป็นคนเพี้ยนไม่เต็มเต็ง หรือบ้าหอบฟางไปก็มี
แม้กระทั่งคนใกล้ตัวอย่างภรรยาของผม
ก็ไม่เข้าใจ และร้องไห้อยู่บ่อย ๆ ขอให้เลิกกิจกรรมนี้
เมื่อเห็นว่า “แย่แล้ว” จึงให้คนไปตามคุณแม่ผมมาห้าม
ซึ่งผมก็รับปากว่าจะเลิกซื้อหา จึงทำให้ผมเสียใจกับการกระทำของตนเอง
จิตใจห่อเหี่ยวหมดกำลังใจที่จะทำต่อไป
ได้แต่นั่งทอดใจถ่วงเวลาจนดึกดื่นเพื่อหลีกหนีกับการเผชิญหน้าระหว่างคน ๒ คน
ที่มีแต่ความเสียใจ ทุกข์ใจอย่างที่สุด
ปะเหลาใจให้ภรรยาวางใจได้สัก ๓-๔ วันบ้าง ๗ วันบ้าง
ก็เริ่มแอบซื้อหาอีก แต่ก็ไม่พ้นสายตา “พวกสายลับ” ในบ้านที่คอยส่งข่าว
อาจกล่าวได้ว่าสังคมไทยและความนึกคิดของคนทั่วไป เมื่อสิบๆ ปีก่อนนั้น
สิ่งเหล่านี้ยังไม่ได้รับความสนใจ เก็บรวบรวมนัก
จนเมื่อมีการตื่นตัวอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยกันขึ้น จึงมีผู้เดินทางมาหาความรู้
และท่องเที่ยวกันมากขึ้น ภรรยาและลูก ๆ จึงเข้าใจผมมากขึ้น
แต่จะว่าไปภรรยาของผมก็ไม่ได้ขัดขวางจริงจังอะไร
เพราะถ้าไม่ใช่เขาอาจจะไม่มีผม และพิพิธภัณฑ์ในวันนี้
จากการเก็บรวบรวม จึงค่อย ๆ จัดแสดง
สร้างอาคารสถานที่ปรับปรุงมาเรื่อย ๆ จนเป็นรูปเป็นร่าง
ซึ่งยังคงต้องจัดทำ จัดแสดง อยู่ตลอดเวลา ไม่มีวันจบสิ้น
ในช่วงหลัง ๆ นี้ ผมไม่ค่อยได้เดินทางออกไปหาซื้อสิ่งของตามท้องถิ่นต่าง ๆ นัก
เพราะผมต้องหากินหนักขึ้น ช่วงภรรยาค้าขายหารายได้มาช่วย
ลูกทั้ง ๖ คน บ้างก็ใช้แรงกาย ความคิด บ้างก็แยกย้ายไปทำกิจการอื่น ๆ
หารายได้มาใช้จ่ายทั้งภายในครอบครัว และใช้ดำเนินงานให้พิพิธภัณฑ์ดำรงอยู่ได้นานวัน
กว่าจะถึงวันนี้ พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านแห่งนี้
จึงเป็นส่วนหนึ่งของการทุ่มเทจนตลอดชีวิต
อ่านเรื่องเล่านี้ด้วยความสุขมากค่ะ เข้าใจความรู้สึกของจ่าทวี เพราะพี่ใหญ่อยู่ในกลุ่มเดียวกัน และดีใจกับน้องทิมดาบ ที่เดินทางไกลไปพบกันอย่างมีความสุขเช่นนี้ค่ะ
เห็นด้วยกับพี่นงนาทค่ะ
มาดูพิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน
อ่านด้วยความสุขค่ะ เวลาได้พบฮีโร่ ที่เป็นแรงบันดาลใจ ทำให้ชีวิตมีชีวา
“ให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ตนเองรัก...และจงทุ่มเทกับมันตลอดชีวิต ...เพราะเราจะรู้สึกมีความสุขเสมอ ๆ ที่ได้ทำมัน”
ขอบคุณค่ะคุณหมออิสาน ...
เรียนท่าน อดิเรก เร่งมานะวงษ์
- ส่งความสุขปี 2555..มาให้น้องนะคะ
- ขอให้ สุขภาพกาย+สุขภาพใจ ===> ดีเยี่ยม...นะคะ
- P'Ple ทำ สคส.ไม่เก่ง....ขอส่งรูปนี้มาแทนนะคะ
ขอบคุณคะ