เรื่องดีๆ(ไอเดีย)จากโกดัก [EN]


.
Yahoo Finance ตีพิมพ์บทความจาก Reuters เรื่อง 'As Kokak struggles, Eastman chemical thrives' = โกดักดิ้นรนให้รอด, อีสท์แมน เคมิคอลไปโลด (chemical สะกดด้วยตัว 'L' ออกเสียงจริงๆ คล้ายตัว "ว" สะกด คือ "เคมิข่อว", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
  • [ struggle ] > [ s - ตรั๊ก - เกิ่ว; 's' พยางค์แรกออกเสียง "อะ" คล้าย "ซะ" - เป็นเสียงลมรั่ว สั้น เบา ] > http://www.thefreedictionary.com/struggle > verb =
  • [ thrive ] > [ ทร่าย - v; 'v' ออกเสียงคล้าย "หวึ" เสียงต่ำกว่า 'f' ] > http://www.thefreedictionary.com/thrive > verb = เจริญเติบโตดี ก้าวไปด้วยดี ไปโลด; คำนี้มาจากภาษา Norse (สแกนดิเนเวีย / ยุโรปเหนือ) = sieze = จับ
ภาษาอังกฤษ - คลิกที่ลิ้งค์เพื่อฟังเสียงเจ้าของภาษา; แถบแต้มสี = ให้ย้ำเสียงหนัก (accent) ซึ่งส่วนใหญ่คำนานเน้นพยางค์หน้า, กริยาเน้นพยางค์หลัง, พยัญชนะท้ายคำออกเสียง "-ะ" สั้นและเบา
.
จอร์จ อีสท์แมนเป็นผู้ประดิษฐ์ฟีล์มถ่ายภาพ และเป็นผู้ก่อตั้ง (founder) ของบริษัทอีสท์แมน โกดัก และอีกบริษัทหนึ่ง ซึ่งแยกออกไปพัฒนาสารเคมี คือ อีสท์แมน เคมิข่อว โดยครั้งแรกตั้งเป็นบริษัทสินเชื่อ (trust)-ธนาคารออมทรัพย์ในช่วงปี late 1880s = 1885-1889 = 2428-2432 หรือ 126 ปีที่ผ่านมา [ wiki ]
.
ธุรกิจของอีสท์แมนมีลักษณะพิเศษ คือ ทำกำไรด้วย วิจัยด้วย (ทำให้ค้นพบฟีล์มถ่ายภาพ และกลายเป็นบริษัทฟีล์ม-กล้องถ่ายภาพ), และทำอะไรดีๆ ให้กับสังคมด้วย เช่น ให้เงินอุดหนุนการศึกษาทั้งเมือง ให้สวัสดิการที่ดีกับลูกจ้าง ฯลฯ ทำให้เป็นที่รักของคนทั้งเมือง
.
ธรรมชาติของโลกอย่างหนึ่ง คือ อะไรที่มีขาขึ้น และเมื่อขึ้นสู่จุดสุดยอดแล้ว คือ จะตามมาด้วยขาลงเสมอ, อาจารย์นิด้าท่านหนึ่งสอนว่า ผู้เชี่ยวชาญของสหรัฐฯ แนะเคล็ดลับในการอยู่รอดทางเศรษฐกิจ-การเงินไว้ดี คือ
.
ถ้าทำได้... ให้เข้าไปทำธุรกิจหรือเศรษฐกิจที่อยู่ในขาขึ้นตั้งแต่แรก ให้อยู่ในขาขึ้น รักษาขาขึ้นไว้ และให้มองทางเลือก หรือก๊อก 2 ไว้ก่อนถึงจุดสุดยอดของเรื่องนั้นๆ และเตรียมเผ่นออกจากจุดสุดยอดให้ได้ถ้าจำเป็น
.
อีกทางหนึ่ง คือ เลี้ยงขาขึ้นไว้ ให้ใกล้ๆ จุดสุดยอด ทว่า... อย่าให้ถึงจุดสุดยอดเร็วเกิน เพราะจะเพิ่มเสี่ยงต่อขาลง หรือความเสื่อมเสมอ
.
ช่วงนี้ต้องทำใจไว้ว่า ใกล้ขาลงแล้ว ใกล้จุดเสื่อมเข้าไปทุกทีแล้ว เวลาตกต่ำจะได้ไม่เจ็บมาก
.
ธุรกิจฟีล์มของโกดักแกร่งขึ้นเรื่อยๆ มีการผลิตฟีล์ม-กล้อง-ผลิตภัณฑ์ถ่ายภาพออกมามากมาย เข้าถึงจุดสุดยอด และเมื่อมีคู่แข่งที่แกร่งขึ้นเรื่อยๆ เช่น ฟีล์มฟูจิ ฯลฯ ธุรกิจก็เริ่มเข้าสู่ขาลง
.
และเมื่อธุรกิจฟีล์มเริ่มเปลี่ยนไป มีการพัฒนากล้องถ่ายภาพดิจิตอลแบบไม่ใช้ฟีล์ม ซึ่งโกดักตามไม่ทัน ยังหันไปเล่นฟีล์มแบบเดิมๆ ธุรกิจก็เริ่มขาดทุน
.
ปี 1994/2547 อีสท์แมนโกดักแยกขายธุรกิจเคมีออกไป (อีสท์แมน เคมิข่อว) เพื่อนำเงินมาช่วยจ่ายหนี้
.
ทุกวันนี้อีสท์แมน เคมิข่อลโตวันโตคืน ราคาในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 71% เป็น $5.5billion = $5,500bn = 172,084 ล้านบาท, ขณะที่บริษัทแม่ คือ โกดักราคาตก 99% หลือ $185million = 5,788 ล้านบาท
.
จากการสัมภาษณ์ผู้บริหาร คนที่เกษียณงานแล้ว และนักวิเคราะห์พบว่า 2 บริษัทนี้มีพ่อคนเดียวกัน (อีสท์แมน โกดัก) ทว่า... การบริหารกลับต่างกันแบบคนละเรื่องเดียวกัน คือ
.
(1). โกดัก > บริหารแบบรัฐวิสาหกิจใจดี บริหารแบบจากบนลงล่าง (top down), ให้สวัสดิการพนักงานแบบสุดๆ และติดยึดกับแนวคิดแบบเดิมๆ เช่น แม้ขาดทุนก็ไม่ลดสวัสดิการแบบอิ่มหมีพีมัน ปล่อยให้บริษัทตกต่ำจนเกือบเจ๊ง ฯลฯ
.
(2). อีสท์แมน เคมิข่อล (ฝ่ายเคมี) > บริหารแบบรัฐวิสาหกิจแปรรูป เข้าตลาดหลักทรัพย์ รับฟังข้อคิดเห็นจากพนักงาน (bottom up), ไม่ให้สวัสดิการพนักงานมากเกินจริง และเตือนทุกคนในบริษัทให้พร้อม เพื่อการก้าวกระโดดจากตลาดหรือธุรกิจเดิม ไปสู่ตลาดหรือธุรกิจใหม่ตลอดเวลา
.
ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่า โกดักท่าจะรอดยาก และคงจะต้องขอล้มละลาย ซึ่งกฎหมายในประเทศที่พัฒนาแล้วจะยอมให้ปรับโครงสร้าง เช่น ลดสวัสดิการ-ลดค่าตอบแทนผู้บริหาร-พนักงาน ขายสิทธิบัตรบางส่วนออกไป ฯลฯ
.
ถึงแม้จะขอล้มละลาย... โกดักซึ่งอาการหนักมาตั้งแต่กันยายน 2554 น่าจะไม่รอดจนถึงปี 2012/2555
.
ศ.วิลลี ชีฮ์ จากฮาร์วาร์ด บิซเนส สกูล ผู้บริหารธุรกิจถ่ายภาพดิจิตอลโกดักในช่วงปี 1997-2005/2540-2548 กล่าวว่า 'I am absolutely convinced of that.' = "ผม(ถูกทำให้)เชื่อมั่นอย่างนั้นอย่างเต็มที่" = "ผมฟันธงเต็มร้อย (เจ๊งแน่)"
.
ท่านจอร์จ อีสท์แมน เป็นคนบ้านนอกเมืองนิวยอร์ค เรียนไม่จบมัธยมฯ (ทำไมคนเก่งๆ เช่น ท่านบิลล์ เกตส์-เจ้าของไมโครซอฟท์ วินโดวส์, ท่านสตีฟ จอบส์-เจ้าของแอปเปิ้ล ฯลฯ ชอบเรียนไม่จบก็ไม่ทราบ)
.
ท่านจดสิทธิบัตรฟีล์มถ่ายภาพแบบเป็นม้วนตอนอายุ 30 ปี และทำโกดักให้ดังไปทั่วโลก, ปี 1919/2462 ท่านบริจาคหุ้นโกดัก 1/3 คิดเป็นเงินประมาณ $10million = 300 ล้านดอลลาร์ฯ ในช่วงนั้นให้พนักงานทุกคนเป็นของขวัญ
.
ธรรมเนียมการให้หุ้นกับพนักงานของท่านยังพบในบริษัทอีกหลายแห่ง ทว่า... ให้นิดหน่อย พอเป็นขวัญ-กำลังใจ
 .
ท่านก่อตั้งบริษัทเคมี (อีสท์แมน เคมิข่อว) ในปี 1920/2463 เพื่อผลิต-นำส่งกรดอะซีทิค และสารเคมีอื่นๆ ซึ่งแยกไปบริหารอีกสไตล์หนึ่ง และโตมาจนปัจจุบัน
.
อีสท์แมน เคมิข่อว แตกธุรกิจออกไปสู่ตลาดทางเลือกที่โตเร็ว เช่น การผลิตไส้กรองบุหรี่ สารเคมีที่ใช้ผลิตพลาสติกชนิดไม่แตกง่าย โดยไม่ต้องใช้สาร BPA (bisphenol A) โดยเฉพาะขวดนมชนิดราคาแพง พลาสติกหนา-ใสที่ใช้ทำขวดน้ำดื่มนักกีฬา ฯลฯ
.
คนยุคใหม่ใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้สารที่ใช้แทน BPA (เป็นสารที่อาจเพิ่มเสี่ยงต่อการกลายพันธุ์ มะเร็ง) ขายดีมาก
โกดักผลิตกล้องดิจิตอลได้ก่อนบริษัทอื่นๆ ในปี 1975/2518 โดยครั้งแรกถ่ายเป็นภาพขาวดำ และมีขนาดเท่าเครื่องปิ้งขนมปัง
.
จุดอ่อนของการประดิษฐ์ครั้งนั้น คือ ผู้บริหารไม่สนับสนุนให้หาทุนต่อยอดได้ และหยุดพัฒนาต่อ... เมื่อบริษัทอื่นทำกล้องดิจิตอลได้ และเริ่มวางจำหน่าย... โกดักก็ตามไม่ทันแล้ว
.
ตรงนี้บอกเราว่า นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์หลายอย่างมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน... ใครลุ้น-ลงทุนได้ก่อน จะเป็นฝ่ายได้เปรียบค่แข่งมาก
.
ตอนที่บ๊อบ เชนบรูค ผู้บริหารโกดักเกษียณในปี 2003/2546, หุ้นโกดักตกลงเหลือ $40 = 1,200 บาท ทว่า... ทุกวันนี้เหลือไม่ถึง $1 = 31 บาท
.
ตอนนี้โกดักมีโอกาสจ่ายหนี้ไม่ทัน (default) 92% ภายใน 5 ปีข้างหน้า = มีโอกาสล้มละลายสูง
.
คนที่เครียดกับโกดักมากหน่อยคงจะเป็นคนเมืองโรเชสเทอร์ ซึ่งครั้งหนึ่งโกดักเคยจ้างงานกว่า 60,000 คน, ตอนนี้ลดลงเป็น 7,000 คน และต่อไปอาจจะไม่มีการจ้างงานอีก = 0 คน
.
ปี 2009/2552 บริษัทโกดักขอให้พนักงานทุกคนลดค่าจ้างลง 5% นาน 1 ปี เพื่อชะลอการเลิกจ้าง
.
พนักงานโกดักส่วนใหญ่อยู่นอกเมืองโรเชสเตอร์ โดยมี 18,800 คนทั่วโลก ลดลงจาก 86,000 คนในปี 1998/2541
.
ผู้บริหารโกดักมีชื่อเสียงในเรื่องการใช้ชีวิตแบบหรูหรา ทว่า... ผู้บริหารอีสท์แมน เคมิข่อวมีชื่อเสียงในเรื่องประหยัด
.
ปี 2007/2550 โกดักมีส่วนแบ่งตลาดกล้องดิจิตอล 9.6% เป็นอันดับ 4 ในสหรัฐฯ, ปี 2010/2553 โกดักมีส่วนแบ่งตลาดกล้องดิจิตอล(ลดลง) 7% เป็นอันดับ 7 รองจากแคนนอน โซนี นิคอน ฯลฯ
.
ทุนในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของโกดักลดลงเหลือ 10% ในปีที่ผ่านมา ขณะที่อีสท์แมน เคมิข่อวเพิ่มเป็น 23%
.
ขอกลับไปที่ท่านจอร์จ อีสท์แมน ผู้ก่อตั้งบริษัทโกดัก, ท่านป่วยเป็นโรคช่องกระดูกสันหลังตีบแคบ (spinal stenosis) หนักจนเดินไม่ได้ ใช้ปืนฆ่าตัวตายในปี 1932/2475
.
ปัจจุบันการรักษาโรคช่องกระดูกสันหลีงตีบแคบดีขึ้นมาก โดยเฉพาะการทำกายภาพบำบัด-เวชศาสตร์ฟื้นฟู เช่น การดึงหลังด้วยเครื่องดึงอัตโนมัติ ฯลฯ คนไข้ส่วนใหญ่ปวดน้อยลง ชาน้อยลง แข็งแรงมากขึ้น กลับไปเดินได้
.
คุณอาผู้เขียนก็เป็นโรคนี้ที่ระดับคอ ทำให้แขนไม่มีแรง ทำกายภาพบำบัดเมื่อ 10+ ปีก่อน, ตอนนี้อายุกว่า 70 ปียังเล่นเทนนิสได้ ขับ BMW ได้ (ผู้เขียนก็ใช้ BM แต่เป็น BMX)
.
ถ้ารักษาทุกวิธีแล้วไม่ทุเลา... การผ่าตัดก็เป็นทางเลือกหนึ่ง และต่อไปอาจมีทางเลือกอื่นๆ เช่น ฝังเข็ม ฯลฯ เพื่อปรับสมดุล
.
ถ้ารัฐบาลส่งเสริม เพิ่มการผลิตฝังเข็มในไทย 3 เท่า โดยอาจให้ ม.ราม, ม.ราชมงคล, ม.ราชภัฎ ผลิตพยาบาล-ฝังเข็ม ร่วมกับ รพ.ทั่วไทย... ต่อไปไทยอาจก้าวไปเป็นฮับทางด้านการฝังเข็มของอาเซียนได้ในอนาคต
.
ไม่ว่าชีวิตเราจะขึ้นหรือลง, การ "ทำใจ" อยู่กับมันให้ได้เป็นเรื่องสำคัญ... ชีวิตคนเราไม่จำเป็นต้องดีหนึ่ง หรือประสบความสำเร็จดีเลิศไปเสียทุกเรื่อง (first best), เป็นอะไรที่ดีรองลงไป หรือเป็นดีสอง (second best) ก็มีความสุขตามอัตภาพได้
.
วงการคอมพิวเตอร์มีหลักการหนึ่ง คือ ซื้ออะไรที่เป็น "ดีสอง (second best)" จะมีความคุ้มทุน (คุ้มค่า) สูงกว่าดีหนึ่งเสมอ เช่น คนส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องใช้คอมฯ สเปคดีที่สุดในโลก, เลือกดีรองลงมาหน่อยจะประหยัดกว่ากันมาก
.
ชีวิตก็เช่นกัน, ไม่จำเป็นจะต้องเป็นดาวเป็นเดือน (ดีเลิศ) เสมอไป, ทำใจให้ได้ในความเป็นเรา... แล้วชีวิตจะเบาไปแยะเลย
.
ถึงตรงนี้... ขอให้ท่านผู้อ่านมีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
.

> [ Twitter ]

  • นพ.วัลลภ พรเรืองวงศ์ รพ.ห้างฉัตร ลำปาง. 25 ธค.54. ยินดีให้ท่านนำบทความทั้งหมดไปใช้ได้ > CC: BY-NC-ND.
หมายเลขบันทึก: 472335เขียนเมื่อ 25 ธันวาคม 2011 08:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 09:55 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท