โมกซ้อน : ไม้ต้นแรกของบ้านริมคลองกับไอ้โรคจิต


การปลูกต้นไม้ของผม เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต บันทึกของต้นไม้ทุกๆต้นในบ้าน จึงเหมือนบันทึกชีวิตแต่ละช่วงของผม แต่บันทึกฉบับนี้มันช่างไม่น่าจดจำเอาซะเลย

โมกซ้อนเป็นต้นไม้ต้นแรกในชีวิตที่ผมซื้อมาปลูกในวันเกิดตอนอายุ 15 ปี และเป็นไม้ต้นแรกที่ผมปลูกลงดินในบ้านที่คุณป้าปลูกไว้อยู่กับทุกคนในครอบครัวของเรา พอถึงวันนี้ผมปลูกบ้านของตัวเอง ผมก็อยากปลูกต้นโมกซ้อนเป็นไม้ต้นแรกของบ้านของผมเอง ใจจริง ผมอยากขุดล้อมต้นโมกซ้อนกอใหญ่ยักษ์ที่บ้านในเมืองมาลงดินที่บ้านใหม่ริมคลองที่ผมปลูกใหม่ในที่ชานเมืองที่คุณป้ายกให้ เพราะว่าโมกซ้อนต้นนั้นที่ผมรัก มันถูกต้นปีบและจำปีโตขึ้นมาบังแสงแดด ทำให้ให้ดอกน้อยลงไปมาก แต่เพราะคุณป้าผมท่านก็เป็นคนรักต้นไม้มากๆเหมือนกัน ตอนขนต้นไม้ในกระถางบางส่วนไปลงดินที่บ้านริมคลอง คุณป้าก็ค้อนแล้วค้อนอีก ถ้าถึงขุดต้นไม้ใหญ่ๆออกไป สงสัยมีงอนกันแน่ๆ ผมเลยต้องเก็บต้นไม้แห่งความทรงจำเอาไว้ในบ้านของครอบครัว

ตอนเริ่มปลูกบ้านใหม่ๆ ผมสั่งโมกซ้อนต้นใหญ่จากพี่นาตลาดอินโดจีนการ์เด้นเอาไว้ กะว่าบ้านเสร็จเมื่อไรก็จะปลูกโมกซ้อนเป็นปฐมฤกษ์เลย รองจากกล้วยกับอ้อยที่ปลูกเสี่ยงทายเอาไว้ตอนทำพิธีลงเสาเอก แต่บ้านใช้เวลาสร้างนานเกือบเจ็ดเดือน และพี่นาก็ดันขนโมกซ้อนต้นใหญ่บึ้มมาจากปราจีนตั้งแต่เดือนแรกของการปลูกบ้าน ซึ่งตอนนั้นบ้านมีแต่วัสดุก่อสร้าง จึงเอาต้นไม้ไปปลูกไม่ได้จริงๆ ก็เลยต้องฝากต้นไม้ไว้ที่ร้านพี่นาไปก่อน ผมบอกพี่นาว่าจะฝากเอาไว้สักสามเดือน แต่เวลาก็ล่วงเลยไปนานถึงห้าเดือน ผมก็ไม่ไปเอาต้นไม้เสียที จนวันหนึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาว พี่นาก็โทรมาถามเรื่องต้นโมก ก็แค่ถามว่าบ้านพร้อมเอาโมกลงดินรึยัง แต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกเกรงใจขึ้นมา เพราะพี่นาก็หาโมกให้แบบต้นสวยมากๆเท่าที่เคยเห็นมา แถมขายให้ในราคาถูกแสนถูก ยังต้องมาลดน้ำคอยดูแลให้ตั้งนานขนาดนั้นอีก และบ้านตอนนั้นก็พร้อมจะปลูกต้นไม้ได้บางส่วนแล้ว ที่สำคัญอีกเพียงสามวันก็จะถึงวันเกิดของผม วันที่เมื่อหลายปีมาแล้วผมซื้อต้นไม้ต้นแรกมาปลูกที่บ้าน และผมอยากจะให้มันเป็นวันที่ผมจะเอาต้นไม้ที่ผมรักปลูกลงดินในบ้านหลังแรกของผมเอง เย็นวันนั้นผมเลยไปรับต้นไม้ที่ร้านพี่นาทันที

และตามประสาคนรักต้นไม้ พอเข้าไปตลาดต้นไม้ ก็เลยชมนั่นชมนี่ถ่ายภาพต้นไม้สวยๆ เข้าร้านนั้นออกร้านนี้เพลินไปหน่อยจนพระอาทิตย์จะตกดิน แถมเมฆฝนลอยมาจากไหนไม่รู้ มืดคลึ้มน่ากลัวฝนจะตกหนัก พอนึกขึ้นได้ก็รีบขับรถเอาต้นไม้ไปไว้ที่บ้านริมคลองทันที แต่กว่าจะถึงฟ้าก็มืดซะแล้ว และแถวนั้นก็มืดมากๆ ไฟก็ยังไม่ได้ติด ไฟเสาก็ไม่มี เพื่อนบ้านก็อยู่ห่างไปตั้งเกือบร้อยเมตร บรรยากาศน่ากลัวมากๆ ที่สำคัญฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก ลมก็แรงเหมือนพายุเข้า ฝนนั้นหนักขนาดเปิดที่ปัดน้ำฝนแรงสุดยังมองแทบไม่เห็นทาง

วันนั้นผมใส่ขุดข้าราชการที่มีเครื่องหมายหลายชิ้นที่ไม่ถูกกับน้ำ ร่มก็ไม่มี เสื้อฝนก็ไม่มี รองเท้าก็ถูกน้ำไม่ได้ พื้นก็มีน้ำเจิ่งนองไปหมด และการขนต้นไม้ใหญ่ลงมันก็ต้องใช้เวลาพอสมควรในขณะที่ฝนหนักขนาดลงจากรถไปไม่เกิน 30 วินาทีก็จะต้องเปียกโชกแน่นอน เสื้อผ้าก็ไม่อยากให้เปียก เพราะผ้าจะเหม็นอับหากไม่รีบซัก จะอยู่ในรถรอฝนซาก็ไม่ไหว บรรยากาศน่ากลัว(ผี)จริงๆ จะขนต้นไม้ไปไว้บ้านในเมืองก็ไม่ได้ ต้นมันใหญ่มากจะเอารถเข้าบ้านไม่ได้ ก็เลยตัดใจถอดเสื้อผ้ารองเท้าวิ่งออกจากรถไปจัดจากกับโมกต้นนี้ซะให้เรียบร้อย เพราะไงคงไม่มีใครผ่านมาเห็นหรอกครับ

พอขนต้นไม้ลงจากรถเสร็จ ก็รีบขึ้นรถขับออกมาเลย เพราะความมืดมันน่ากลัวจริงๆ และก็อยากให้แอร์เป่าให้ตัวแห้งสักนิดก่อนจะใส่เสื้อผ้า ผมขับรถเรื่อยๆจนเข้ามาในเมือง ฝนหนักเมื่อครู่ใหญ่ตอนนี้เป็นแค่ฝนปอยๆเท่านั้น ท้องก็ชักจะหิวเพราะได้เวลากินพอดี ปกติถ้าผมขับรถผ่านเส้นทางนี้ผมจะแวะซื้อโรตีใส่ไข่ร้าน ส.สมาน หน้า Dtac กลับบ้านแทบทุกวัน แต่เพราะฝนตกและร้านลุงสมานอยู่ขวามือทำให้ลำบากจะจอดรถลงไปซื้อ พอดีเห็นร้านโรตีอีกร้านที่ไม่เคยทานมาก่อนอยู่ทางซ้ายมือลูกค้าก็ไม่มี มือไวกว่าสมองครับจอดรถหน้าร้านเปิดกระจก "พี่ โลตีใส่ไข่ใส่กล้วยสับใส่กล่อง ครับ" บังขายโลตีมองเข้ามาในรถก็หัวเราะร่วนเลย สีหน้าขำๆ ถามกลับมา"จะเอาจริงๆรึเปล่าครับ" ผมหันมามองตัวเองเพิ่งนึกได้ว่ายังไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลย รีบคว้าเสื้อมาคลุมไว้ แล้วตอบบังไป "ไม่เอาละครับพี่" แล้วก็รีบปิดกระจกขับรถกลับบ้านแบบหน้าชาๆยังไงไม่รู้

ขับรถมาถึงหน้าบ้าน น้ำท่วมทั้งซอยกำลังจอดรถจะใส่เสื้อผ้า พี่ชายก็เดินมาเปิดประตูลั้วให้ ผมก็รีบใส่เสื้อผ้าเป็นพัลวัน ตัวเปียกๆใส่กางเกงขายาวคับๆเข้าไปก็ฝืดใส่ยากซะจริง พี่เห็นเราไม่ขับรถเข้าบ้านสักทีเลยเดินมาเคาะๆที่กระจกรถ ผมก็ไม่ยอมเปิด มันเลยเอาไฟฉายส่องเข้ามาในรถ แล้วก็ยิ้มๆเดินออกไป พอผมขับรถเข้าไปจอดในบ้านออกมาจากรถ พี่ชายมันก็แซว "โรคจิตรึไงแก้ผ้าขับรถนะ" !!!

พอวันเกิด ผมก็แวะมาปลูกต้นโมกซ้อนแต่เช้า จะได้จดจำเค้าไม่มีวันลืม (ก็ท่าว่าจะลืมยากสักหน่อยล่ะ) จริงๆผมว่าจะถ่ายภาพเป็นบันทึกเก็บเอาไว้แบบดีๆหน่อย เพื่อให้ต้นไม้ของผมมีเรื่องเล่าของเค้าเอง แต่ดูเหมือนมันจะผิดแผนไปสักหน่อยที่ฝนเจ้ากรรมดันตกลงมาแบบนี้ และกลายเป็นวันที่น่าอายไปเสียได้ แต่หลังปลูกต้นไม้ตอนเช้า กลับมาอีกครั้งตอนเย็นก็มีนกน้อยมาทำลังบนโมกซ้อนของผมซะแล้ว ส่งเสียจิ๊บๆกันน่ารักเชียว ใจก็หวังจะได้ชมลูกนกน่ารักในอีกไม่ช้านาน แต่แล้ว...อีกเพียงวันเดียวช่างก่อสร้างบ้านผมก็แกะรังนกทิ้งจากต้นไม้ บอกว่ารำคาญเสียงนก.... ผมจะพูดว่าอย่างไรดี ก็คงพูดไม่ออก อะไรๆมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เราคาดคิดง่ายๆหรอกครับ เป็นธรรมดาโลก

คำสำคัญ (Tags): #diary#โมก#โมกซ้อน
หมายเลขบันทึก: 471695เขียนเมื่อ 19 ธันวาคม 2011 09:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 21:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

โดนฝนนี่เอง นึกว่าเจอโรคจิตจริงๆ 555

  • บันทึกของพี่อ่านสนุกเหมือนอ่านนิยายเล่มโปรดเลยค่ะ
  • ที่บอกหนูไว้ว่า
  • "เพลงจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง spirited away ลองค้นหาคำนี้ใน 4shared.com นะครับ น่าจะเจอเพลงนี้"
  • (ในบันทึกไม้ไผ่ป้องกันยุง)
  • ขอบคุณพี่นกขมิ้นมากนะคะ

อ่านไปลุ้นไป คิดว่าเจอโรคจิต บันทึกนี้เปิดเปลือยได้น่ารักสุดๆ ขอบคุณที่ได้ฮาค่ะ :)

โมกต้นใหญ่มากๆ ที่บ้านพักมีโมกเล็กๆ หน้าหนาวอย่างนี้จะได้กลิ่นหอม ชอบมากๆ

สวัสดีจ้ะคุณนกขมิ้น  คุณมะเดื่อชอบกลิ่นดอกโมก มันหอมโหยหวนดีจ้ะ อิอิ

ช่างสร้างบ้านคนนั้นน่าจะเอาสำลีมาอุดหู สงสารนกน้อยมัน เสียงนกสิออกจะน่ารัก เสียดายแทน อะไรมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดคิดง่ายๆ ชอบจังคำนี้ ทำให้คนเรามีการเตรียมใจให้พร้อมกับความผิดหวังที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาต วิธีการเล่าเรื่องในบันทึกคุณนกขมิ้นแต่ละบันทึก ราวกับนักเขียนเลยนะ เขียนได้น่าติดตาม แฝงไปด้วยแง่คิด ว่าแต่เราว่าเรารักต้นไม้มากๆแล้วนะ ดูจากบันทึกคุณแล้ว คุณนี่ชอบต้นไม้ยิ่งกว่าอีกเรียกได้ว่า ลิซึม เลยมั้งนี่ ก็เห็นบันทึกมีแต่ต้นไม้ ดอกไม้ แต่ก็ชอบอ่าน มีความสุข เพลิดเพลินดี แถมมีเสียงเพลงด้วย เขียนไปเรื่อยๆนะ จะคอยติดตามอ่าน

โอ๊ยยยยยย......ขำ

หัวเราะดังมากก็ไม่ได้ ...ดึกแล้ว

เดี๋ยวน้องจะหาว่าเราบ้า

เอา...บ้าก็บ้า (วะ)

มีคน ( ? ) มากกว่าอีกนะ

ÄÄÄ..หนาวไม้.."นกขมิ้น"..แถมไม่ได้กิน โรตีด้วย..สงสารนกน้อย..ตัวนี้..ซะจริงๆ..ถอดปีกถอดหาง...ปลูกต้นไม้...อิอิ...(ยายธีเจ้าค่ะ..ระวังจะเป็นหวัดนะเจ้าคะ..อ้ะๆๆ)

อยากมีต้นไม้ต้นแรกจัง  ต้องปลูกวันที่สำคัญของเราจะได้จำและเห็นพัฒนาการ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท