อยู่ๆ ครม. ที่ทำเรื่องยุ่งยากอยู่ตลอดตั้งแต่เข้ามา (ถึงวันนี้ก็ ๕ เดือนกว่าแล้ว) ก็โพล่งเรื่องขึ้นมาอีกเรื่องให้พลเมืองต้องระเคืองใจอีก
วันที่ ๖ ธ.ค. รมต.ศึกษาฯ พูดออกมาว่า มติ ครม. เห็นชอบนโยบายยุบรวมมหา'ลัย หนึ่งในนั้นคือ ม.สงขลานครินทร์ วข.สุราษฎร์ธานี น.ศ. ก็เดือนร้อนใจไม่เป็นอันเรียน ส่งเสียงออกมาทุกทางที่เด็กจะทำได้ ข้างฝ่ายผู้ใหญ่ก็สุขุมหน่อยแต่ก็ระคายเคีองเช่นกัน และก็แสดงออกเช่นกัน
พ้นไปสองวัน รัฐบาลนี้ก็ทำหน้าเซ่อแบบที่เคยทำ (คืนคำ) วันที่ ๘ ธ.ค. รองเลขาฯ กกอ. ก็ออกข่าว สกอ.ไม่มีนโยบายยุบรวม
ประเด็นที่อยากคุยวันนี้คือ ทำไม จึงได้มีข้อเสนอจาก จ.สฎ. ให้ยุบรวม ม.อ. วข. สฎ. เข้ากับมหา'ลัยราชภัฎสุราษฎร์ ทำไม ผู้ว่าฯจ.สฎ. สมัยนั้นจึงรู้สึกว่า จ.สฎ.ไม่มีมหาวิทยาลัย ควรยุบรวมทั้งสองสถาบันตั้งขึ้นเป็น มหา'ลัย
คำตอบมีมากมาย อาจรวมถึงประเด็นการเมือง และผลประโยชน์ทับซ้อน (ตามอย่างที่ผู้นำเคยทำเป็นตัวอย่าง) ในที่นี้จะไม่กล่าวถึง แต่จะขอพิจารณาในเชิงวิชาการ
ตามเอกสารราชการรัฐบาลถือว่าวิทยาเขตนับเป็นสถาบันอุดมศึกษาด้วย (นับรวมทุกประเภททุกสังกัด ขณะนี้ประเทศไทยมีทั้งหมด ๓๐๓ แห่ง) ดังนั้น วข.สฎ. ก็เป็นมหา'ลัยด้วย ราชภัฏ สฎ. ก็เป็นมหา'ลัยด้วย และยังมีอีกไม่น้อยกว่า ๖-๗ แห่งที่นับเป็นสถาบันอุดมศึกษา ใน จ.สฎ.
นั่นแสดงว่า ในความรู้สึกของประชาชน รวมทั้งผู้บริหารส่วนราชการ มหาวิทยาลัย ไม่ใช่เพียงการมีชื่อว่า มหาวิทยาลัย หรือวิทยาลัย แต่ต้องมีอย่างอื่นที่สำคัญกว่า ต่อคำถาม มหาวิทยาลัยคืออะไร? คำตอบที่พอจะเห็นกันได้ง่าย คือ
เมื่อคิดให้ลึก ทุกคำตอบข้างต้นเกี่ยวข้องกับสิ้งหนึ่งที่สำคัญแต่มองไม่เห็น แต่ทุกคนรู้สึกได้ สิ่งนี้มหา'ลัยที่ไม่มี ที่ชื่อว่าเป็น มหาวิทยาลัย ก็ไม่ใช่
มหา'ลัย ที่เรายอมรับว่าเป็นมหาวิทยาลัย เขาจะมีคณาจารย์ที่มีความรู้ คณาจารย์จะสร้างหลักสูตรขององค์ความรู้ คณาจารย์จะสอนความรู้ คณาจารย์จะวิจัยหาความรู้ คณาจารย์จะเผยแพร่ความรู้และช่วยแก้ปัญหาแก่สังคมด้วยความรู้ นักศึกษาจะเล่าเรียนความรู้ เมื่อสอบวัดผลว่ามีความรู้ ก็จะได้รับประสาทปริญญาเป็นบัณฑิตในสาขาความรู้นั้น นี่คือกิจของมหาวิทยาลัย ที่จะทำกันในสถานที่ตั้งหนึ่ง อาคารหรือที่ตั้งจึงเป็นเพียงส่วนประกอบ
ความรู้ที่มีคุณค่าเป็นสัจจริง กิจการเกี่ยวแก่ความรู้ที่มีคุณภาพทำโดยสัจซื่อ นั่นแหละคือความรู้และกิจกรรมที่ทำให้เรายอมรับว่า ที่นี่เป็น มหาวิทยาลัย
มหา'ลัย ไม่จำเป็นที่จะต้องใหญ่โตในเชิงปริมาณ ไม่ว่าจะตึกราม ป้ายชื่อป้ายโฆษณา จำนวน น.ศ.
แต่มหา'ลัย จะต้องยิ่งใหญ๋ในคุณภาพและความดีของความรู้ที่"ศึกษา-วิจัย-ถ่ายทอด"
ไม่มีความเห็น