มอง 100 ปีกฎหมายสัญชาติไทย
ผ่าน 100 ปีของ ‘ปกาเกอะญอเฒ่าโคอิ’ แห่งผืนป่าแก่งกระจาน
ดรุณี ไพศาลพาณิชย์กุล
นักศึกษาปริญญาเอก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นักกฎหมาย สถาบันวิจัยและพัฒนาเพื่อเฝ้าระวังสภาวะไร้รัฐ
ฉบับวันที่ 10 ตุลาคม 2554 ปรับปรุงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2554[1]
-1-
เรื่องเล่าของปกาเกอะญอเฒ่าแห่งผืนป่าแก่งกระจาน[2]
การสอบถามเรื่องราวของปู่คออี้ หรือนายโคอิ หรือนายจออี้ เป็นเรื่องที่ยาก ลำบาก(ใจ) ด้วยเพราะปู่คออี้มีอาการอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา สาเหตุหลักน่าจะเป็นเพราะวัยที่ยืนยาวมาถึงร้อยปี ประกอบกับล่าสุดเพิ่งเข้ารับการผ่าตัดต้อตา ยิ่งไปกว่านั้นทุกคนรู้ดีว่ายังมีความทุกข์ในใจที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าสังขารที่ถดถอย ด้วยคำบอกเล่าจากลูกชายถึงบ้านที่ถูกเผาและยุ้งข้าวที่ถูกรื้อทำลาย ข้าวเปลือกร่วม 400ถังถูกทำลายและสูญหาย โดยเจ้าหน้าที่(ไม่ทราบหน่วยงานแน่ชัด) ลูกหลานต้องแตกกระสานซ่านเซ็น นอแอะ-ลูกชายคนโตก็มาถูกจับ ถูกตั้งข้อหาว่ามีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง (แม้มันจะเป็นปืนแค่ปืนแก๊ปก็ตาม)[3]
นอแอะหรือหน่อแอะ-ลูกชายคนโตช่วยแปลและเสริมข้อมูลว่า พ่อเล่าให้ฟังว่าพ่อเกิดที่บ้านบางกลอยบน หรือคีลอในภาษากะเหรี่ยง และไม่เคยโยกย้ายไปอยู่ที่อื่น
ประกอบกับการพูดคุย เมื่อตรวจสอบกับเอกสารฉบับสำเนา-ทะเบียนสำรวจบัญชีบุคคลในบ้าน หรือท.ร.ชข.-พยานเอกสารชิ้นเดียวที่บอกถึงที่มาที่ไปของผู้เฒ่าปาเกอะญอ-มันเป็นเอกสารที่ถูกจัดทำขึ้นโดยกรมประชาสงเคราะห์ในปีพ.ศ.2531 ภายใต้โครงการสำรวจข้อมูลประชากรชาวเขาหรือโครงการสิงห์ภูเขา (เป็นการสำรวจชาวเขาตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2527) พบชื่อของผู้เฒ่าคออี้ ถูกเขียนว่านายโคอิ เป็นหัวหน้าครอบครัว บันทึกว่าเกิดเมื่อปีพ.ศ.2454 ที่จังหวัดเพชรบุรี ประเทศไทย พ่อชื่อ มิมิ แม่ชื่อพินอดี ทุกคนเป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง และนับถือผี
ข้อมูลฉบับนี้เป็นหนึ่งในทะเบียนท.ร.ชข.ของบ้านบางกลอย 4 ครอบครัวของผู้เฒ่าถูกนับเป็นครอบครัวที่สามจากยี่สิบครอบครัว เวลานั้นบ้านบางกลอย 4 ขึ้นกับพื้นที่กิ่งอำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
นายกระทง โชควิบูลย์ (นามสกุลเดิม-จีโบ้ง) ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย นายลอย จีโบ้ง ผู้ใหญ่บ้านโป่งลึก นายนิรันดร์ พงษ์เทพ ประธานองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี[4]-ทุกคนเกิดที่บ้านบางกลอยบนและรู้จักผู้เฒ่าคออี้เป็นอย่างดีตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะผู้ใหญ่กระทง สมัยเด็กๆ เคยอาศัยอยู่ที่บ้านญาติคือนายจอโจ่[5] ซึ่งตั้งบ้านอยู่ใกล้กับบ้านของผู้เฒ่าคออี้ (ห่างกันประมาณหนึ่งชั่วโมงเดินเท้า) ไม่เฉพาะสามคนนี้ คนอื่นๆ ในชุมชนบางกลอยบนต่างก็รู้จักและจดจำผู้เฒ่าคออี้ได้ดี ด้วยร่างกายที่สูงใหญ่ เป็นพรานที่มีชื่อเสียงและเป็นคนที่ชุมชนให้การนับถือ
ในทางกลับกัน ด้วยวัยที่ยืนยาวมาถึงร้อยปี จึงไม่เกินเลยที่จะกล่าวว่า ผู้เฒ่าโคอิต่างหากที่เป็นผู้รู้เห็นความเป็นไปของผืนป่าใจแผ่นดิน บางกลอยเป็นอย่างดี ทั้งยังรู้เห็นการเกิดและการเติบโตของผู้ใหญ่กระทง ผู้ใหญ่ลอย รวมถึงประธานอบต.นิรันดร์ และอีกหลายชีวิตในผืนป่าใจแผ่นดิน-บางกลอย
[1] เอกสารประกอบการพัฒนาวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หัวข้อ “แนวคิดทางกฎหมายในการพัฒนาและพิสูจน์สิทธิในสถานะบุคคล”
[2] ข้อมูลการสอบข้อเท็จจริงปู่โคอิ และนอแอะ โดยคณะทำงานของคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติ และผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและสอบปากคำผู้เสียหายจากการถูกเจ้าหน้าที่รัฐ(ไม่ทราบสังกัด)เผาทำลายบ้านและยุ้งฉางของกะเหรี่ยงแก่งกระจาน เมื่อวันที่ 3-4 กันยายน 2554
[4] เกิดที่บ้านบางกลอยบน ปี 2508 ปรากฎตามเอกสารสำเนาท.ร.ช.ข.แฟ้มบ้านโป่งลึก 2 ครอบครัวที่ 4
[5] เกิดที่บ้านบางกลอยบน ปี 2476 ปรากฎตามเอกสารสำเนาท.ร.ช.ข.แฟ้มบ้านบางกลอย 6 ครอบครัวที่ 2
ไม่มีความเห็น