ขี้โกงในประเทศไทยเมื่อไรจะหมด


สืบเนื่องจากข่าวใหญ่ในช่วงนำท่วม การโกง คอรัปชั่น การทุจริตในวงราชการ

ในช่วงประมาณเจ็ดปีก่อนผมเกษียณอายุราชการ ผมได้สัมผัสกับข้อมูลข่าวสาร ในวงสนทนาของคนที่เครียด เกลียดชังกับความขี้โกงในหน่วยงานต่าง ๆ ที่มาเล่าสู่กันฟัง    เมื่อได้ฟังข่าวโจรปล้นบ้านของข้าราชการประจำระดับสูงสุดในช่วงกลางเดือนธันวามคม 2554 ซึ่งเป็นช่วงน้ำท่วมใหญ่นี้ ทำให้อยากมาเขียนพูดคุยบอกเล่า แสดงความคิดเห็นในเรื่องการโกงในประเทศของเราบ้าง เพราะการโกงนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่ประเทศของเราติดอับดับขี้โกงโลกอยู่เหมือนกัน จำไม่ได้ว่าอันดับที่เท่าไร จำได้ว่าสิงคโปร์ประเทศที่เจริญก้าวหน้าระดับโลกติดอันดับโลกของความไม่ขี้โกง หรือ ซื่อสัตย์สุจริต


ที่รับฟังเรื่องของความขี้โกงมา จะจริงหรือไม่ คงต้องถามท่านที่มาอ่านข้อเขียนของผมว่าน่าจะจริง หรือไม่จริง 

โกงกันอย่างไร

 โกงที่ 1 ซื้อของเข้าสำนักงาน เพื่อค่าคอมมิชชั่น    แพงไม่ว่าขอเปอร์เซ็นต์ส่วนลดเป็นเงินส่วนลดสำหรับนายหรือไม่ก็ของตัวเอง (เจ้าหน้าที่โกงถ้านายใหญ่ ๆ โกง ก็จะเป็นไปในทำนองนี้

ในขณะผมอยู่ที่นี่ ผมจะให้เจ้าหน้าที่เขาซื้อจากร้านของคุณ คุณจัดการให้ผมสามสิบ       เปอร์เซ็นต์นะ”

 โกงที่ 2 ซื้อใบเสร็จรับเงินจากร้านค้า เพื่อนำมาทำเรื่องเบิกเงินได้   มีคนเคยพูดว่า “ทำหลักฐานให้ถูกต้อง ในความไม่ถูกต้องไม่ติดคุก แม้จะถูกต้องแต่หลักฐานไม่ถูกต้องติดคุกได้”

โกงที่ 3 กรณีจัดประชุมอบรม สัมมนา ผูกขาดโรงแรมเพื่อจัดประชุมอบรมสัมมนาแล้วขอค่าผูกขาดตามจำนวนที่กำหนด   ซึ่งได้รับกล่าวขานกันว่าอย่างน้อยสามสิบเปอร์เซ็นต์

โกงที่ 4 จัดประชุม อบรม แล้วให้ผู้เข้าอบรมลงเวลามาประชุมล่วงหน้าตลอดการอบรม

เพื่อเป็นหลักฐานไว้ขอเบิกเงินทั้งหมดตามยอดของผู้เข้าประชุม เช่น กำหนดการประชุม 3 วัน    กำหนดให้ผู้เข้าประชุมทำหลักฐานการลงเวลาเข้าประชุมอบรมไว้ตลอดทั้งสามวัน   เพื่อเป็นหลักฐานการเบิกจ่าย  ระหว่างกำหนดการฯ จำนวนที่ขาดไปต้องคืนให้ผู้จัดเพื่อเข้ากองกลาง หรือกระเป๋าตัวเอง ก็ว่ากันไป

(การให้ลงชื่อไว้ล่วหน้าเป็น “วัดตะนะทำใหม่” หรือ พฤติกรรมการโกงแผนใหม่  ที่ผมคิดว่าทำเป็นการทำลายคุณธรรมจริยธรรมอย่างใหญ่หลวง เพราะได้รับการปลูกแนวคิด  “ลงชื่อให้แล้ว ผมจะเข้าประชุมอบรม หรือไม่ก็ได้”  แบบแผนนี้กำลังทำกันอย่างกว้างขวาง และผมสลดหดหู่จนไม่รู้จะทำอย่างไร และพูดกับใคร เพราะทำกันทั้งในระดับชาติและท้องถิ่น

โกงที่ 5 ได้รับงบประมาณมาจัดประชุมอบรมจำนวนหนึ่ง ผู้มีอำนาจคิดว่าน้อยไป ขอนำยอดอื่นมาสมทบทำเบิก แต่ยอดที่สมทบนี้โรงแรมต้องคืนกลับใต้โต๊ะ วิธีการฟอกเงินที่แยบยลไมครับ

5 วิธีที่โกงระดับท้องถิ่น หรือโกงหมื่นโกงแสน  ที่สดับตรับฟังมา ไม่ใช่การโกงระดับร้อยล้ายพันล้าน เหมือนที่ป็นข่าวการโกงในระดับชาติดังที่กล่าวถึง


พฤติกรรมการโกงมาจากสาเหตุเหล่านี้หรือไม่  นี่เป็นความคิดเห็นของผมนะครับ 

  1. แบบอย่างการโกงของคนใกล้ชิด ที่ติดตัวมาแต่วัยเด็ก

  2. ความแร้นแค้นในชีวิตที่ผ่านมา ที่ต้องชดเชย

  3. การโกงเล็กโกงน้อย เช่น โกงการสอบ โกงการบ้าน โกงเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ จนได้ใจ

    มาตั้งแต่วัยเด็ก

  4. การปลูกฝังเรื่องความซื่อสัตย์จากพ่อแม่ผู้ปกครอง และโรงเรียน ไม่เข้มแข็งพอ

  5. ความฟุ้งเฟ้อของสังคม ที่ยังเข้าไม่ถึงแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง

  6. แบบอย่างของการโกงแล้วรวย ลอยนวลอยู่ในสังคมได้

  7. ระบบการตรวจสอบที่อ่อนแอ

  8. เจ้านายที่ไม่จ่ายเมื่อไปราชการในพื้นที่

    ขยายความข้อนี้สักนิด

เมื่อเจ้านายมาราชการในพื้นที่ ผู้นำในระดับพื้นที่ก็ต้องต้อนรับ จนเป็นข้ออ้างว่าต้องดูแลนาย ไม่มีงบส่วนใดที่จะเบิกได้ตามะเบียบ   ในการต้อนรับนายใหญ่ ๆ  การต้อนรับก็มักมีวัตถุประสงค์แอบแฝง รับนายไม่กี่คน ไปเลี้ยงรับกันเป็นร้อย ในอดีตใช้วิธีการลงขัน แต่ปัจจุบัน  ก็ต้องมีการซิกแซกเล่นแปลธาตุ เช่น จากค่าอาหารเครื่องดื่มไปเป็นใบเสร็จค่าวัสดุสิ้นเปลืองที่ไปหาซื้อมา การโกงจึ้งเริ่มเกิดขึ้น และส่งทอดมรดกการโกงกันสืบต่อไป

แล้วการโกงจะหมดไปอย่างไร

ก็ต้องแก้ไขกันที่ต้นเหตุจริง ๆ ที่ผมเสนอมาก็น่าจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง ที่ต้องแก้ไขกันในทุกระดับ โดยการนำของรัฐาบาล นักการเมือง ผู้บริหารระดับสูง และผู้มีจิตสำนึก (ไม่ว่าจะเป็นใคร ทำงานอะไร อยู่ที่ไหน )ในความเจริญรุ่งเรื่องของชาติด้วยการขจัดการโกงให้หมดไป (ถ้าเป็นไปไม่ได้เพราะสะสมทุนโกงมานาน ก็อาจขอเพียงลดลง ๆ ๆ จนหมดไปในอีก10-30 ปีข้างหน้าก็ยังดี)

อ่านแล้วช่วยกันเขียนมาสักนิดนะครับ การโกงที่กล่าวมาจริง หรือไม่จริง  รือ ยังมีวิธีการโกงวิธีอื่นๆ อีก เผื่อเป็นอีกทางหนึ่งที่จะสร้างจิตสำนึกในการร่วมกันขจัดการโกง

หมายเลขบันทึก: 469022เขียนเมื่อ 22 พฤศจิกายน 2011 13:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 15:27 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)

อยากให้ชาวเรา G2K

ตั้งกลุ่มต่อต้านการโกง

เพื่อทำกิจกรรมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

กันอย่างเหนียวแน่น 

ไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่อย่างไร 

อยากให้มีครับ


         ตอนนี้ผู้น้อยอย่างดิฉันกำลังเซ็งเป็ดกับผู้ใหญ่ในหน่วยงานที่ทำการ "ฉ้อราช(การ ปิด)บังหลวงให้เห็น แต่เราเป็นผู้น้อย อยู่ในช่วงเฉยไว้ คอยดูว่า ใครทำอะไรต้องได้สิ่งนั้น เดี๋ยวน้ำลดตอก็ผุดเอง อ่านเจอบล็อกของอาจารย์เลยช่วยบิ้วอารมณ์ให้คล้อยตามได้ง่ายค่ะ... คิดว่าผู้ปฏิบัติงานระดับล่างจะช่วยอะไรได้บ้างคะ

ผมคิดว่าโครงการ "โตไปไม่โกง" ที่กำลังดำเนินการอยู่นั้นสามารถนำเนื้อหาข้อเท็จจริงของท่านอาจารย์มาเป็นกรณีศึกษาเพื่อบูรณาการองค์ความรู้ และต่อยอดออกไปได้เป็นอย่างดีทีเดียวครับผม ชอบบันทึกของอาจารย์มากครับ อาจเป็นจุดเล็กๆที่หลายคนมองข้ามไป แต่มีอิทธิพลต่อการก้าวเดินอย่างมั่นคงต่อไปสำหรับประเทศชาติเราทีเดียวครับ ผมคิดว่าหากเรามองแค่รุ่นเราแล้วจบก็คงไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แต่ท่านอาจารย์นั้นมองไปถึง Next generation ทีเดียวซึ่งผมเองก็มองว่ามันสำคัญมากๆครับผม

ขอบพระคุณในองค์ความรู้ที่ดีงาม และการเปิดโอกาสในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ครับ

ÄÄÄ...ทำไม..โรค "ขี้โกง"...ระบาดหนัก..ในประเทศกลุ่ม อาเซียน..ตั้งแต่โตมาหมาเริ่มเลียบั้นท้ายถึง..ก็ได้ยินและมีประสพการณ์มาเื่รื่อยๆ...สงสัยหนักเข้าไปอีก คือ..ระบาดมากในสังคมพุทธอย่างบ้านเรา..รักษาก็ไม่ได้..เพราะ เป็นโรค..น้ำท่วมปาก..(พูดไม่ได้กลัว ตาย..อ้ะ)..โรคขี้โกง..ระบาดอยู่บนถนนหนทาง ข้างถนน สถานที่ราชการต่างๆ..ในวัด.กระทั่งในบ้าน.."ขี้โกงตัวเอง"..เป็นประจำ..เลยทำให้..น้ำท่วมปากตัวเองอ้ะ..อ่านข้างต้นมาทั้งแปดข้อ..คิดๆอยู่...ว่า..ตั้งแต่..รักษาตัวเองไม่ให้..ขี้โกงตัวเองได้....(ยกมือไหว้ตัวเองได้)..ก็จะสร้าง ภูมิคุ้มไม่เฉพาะตน..ยังอาจจะกันได้ทั้งประเทศ...โรค"มือถือสาก ปากถือศีล"..ติดต่อด้วย"โรคขี้โกง"ก็คงจะลดลงเป็นลำดับ..เป็นแน่เจ้าค่ะ...ยายธีแอบคิด...อ้ะ

สวัสดีค่ะท่าน ศน. มาอ่านแล้วก็ อดสงสารประเทศไทยนะคะ รู้นะว่าน้ำท่วมปากมานาน อิอิ ฝากภาพโคมลอยฝีมือนักเรียนที่ปล่อยวันยี่เป็งผ่านมาค่ะ

ขอบคุณทั้งสามท่านที่มาอุดหนุน

ผมคิดว่าคนรังเกียจคนขี้โกงในประเทศเรานี้มีมากมายให้ผมนั่งเทียนเอาน่าจะแปดสิบเปอร์เซ็นขึ้นไป

แค่ผมโพสต์ขึ้นเมือเช้ามีผู้สนใจแปดสิบกว่าคน ท่านครับเพื่อให้แน่ใจว่าแปดสิบเปอร์เซ็นขึ้น ขอท่าน

ที่เข้ามาอ่านได้พิมพ์พูดมาสักสองสามคำก็ได้ว่า "เกลียดคนโกง" หรือ อะไรก็ได้ที่บ่งบอกว่าไม่โกง

หรือจำใจต้องโกงบ้าง เพราะพวกมากลากไป และตั้งใจว่าจะไม่โกง ท่านโสภณเสนอให้ตั้งกลุ่ม

เราตั้งกันที่นี้ก่อนดีไหมครับ แล้วก็พูดคุยแลกเปลี่ยนกันไปเรื่อย ๆ แบบไม่กล่าวหาใครเป็นการเฉพาะ

ตามกติกาของโกทูโน ซึ่งก็น่าเป็นทางหนึ่งที่จะช่วยชาติในเรื่อง "โตไปไม่โกง"ที่ท่านธนากรณ์กล่าวถึง

การโกงกำเริบหนักส่วนหนึ่งก็คงเหมือนที่ท่านยายธีบอกว่า หลายคนอยู่ในอาการน้ำท่วมปาก ได้แต่ซุบซิบนินทา

ไม่กล้าลงชื่อขับไล่ เพราะไม่มีหลักฐานพอ กลัวถูกสวนกลับ 555 ผมก็เคยอยู่ในประเภทนั้นมาบ้างเหมือนกัน

โดยเฉพาะช่วงท้ายของราชการ ตอนหนุ่ม ๆ นี่ก็เคยมีประวัติเอาเรื่องพวกขี้โกงอยู่บ้าง ผมได้เสนอพรรคพวก

โรคน้ำท่วมปากอยู่บ้างว่า "มือถือ ๆ ๆ อัดเสียง ถ่ายภาพเก็บหลักฐานพวกขี้โกงไว้" ได้จังหวะ โอกาสดี ๆ

ที่สมควรช่วยกันเชือด ก็ลงมีดได้เลย 555 สมัยนี้อุปกรณ์ปราบโกงมีมากมาย แต่ยังไม่กล้าใช้ หรือ

ใช้กันไม่เป็นก็ไม่ทราบ

ท่านโสภณครับ ท่านยายลีครับ ท่านธนากรณ์ครับ ในขณะที่ใครทำอะไร พวกขี้โกงไม่ได้

ก็ปล่อยให้บาปกรรมเชือดคนพวกนี้ไปก่อน ซึ่งก็พอมีตัวอย่างให้เห็นในระดับใกล้ตัวเรา และระดับชาติ

อยู่บ้างแล้วว่าบาปกรรมมีจริง แต่ถ้ารอบาปกรรมเชือดให้หมดพันธ์ ก็อาจจะต้องรอไปอีก30ปี ที่จะเลิกโกงกัน

อย่างไรก็ดีก็มีความตระหนัก และปฏิบัติการในเรื่องนี้กันอยู่บ้างแล้ว เช่น โครงการโตไม่โกง ที่ท่านธนากรณ์บอกมา

การปราบโกงของ ปปช.ของชูวิทย์ สส.กทม ฯลฯ แต่คิดว่ายังไม่มากพอที่จะกำราบพวกขี้โกงได้

เครือข่ายปราบโกงจึงจำเป็น...... เป็นเครือข่ายกันในที่นี้ไปก่อนนะครับ สวัสดีครับ

เอ้า!! เผลอแผล็บเข้ามาแล้ว 555 ท่านอาจารย์รินดาครับ โคมลอยของเด็ก ๆ สวยมาก ถ้ามีโคมลอยอีกช่วยรณรงค์เรื่อง "ม.พ. โตไปไม่โกง" ข้าง ๆ โคมลอยด้วยนะครับ จะดีไหมครับท่านโสภณ ท่านยายธี และท่านธนากรณ์ (ม.พ.หรือ โรงเรียนแม่หอพระ จังหวัดเชียงใหม่)

สนับสนุนค่ะอาจารย์ เอาแบบ โ ค ต ร เกลียดคนโกง เลย แต่เชื่อว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำดีก็ได้ดี ทำชั่วก็ไปชั่ว ร้อยเท่าพันทวี ไม่เห็นผลวันนี้ก็วันหน้า ทุกข้อที่เขียนมา เห็นด้วยค่ะ แล้วที่สภาพเด็ก(อนาคตของชาติ) th next generation ของอาจารย์ ไม่ตั้งใจเรียน ชอบลอกการบ้าน ลอกข้อสอบ กันคึกโครม ก็เป็นการพัฒนานิสัยพื้นฐานเรื่องโกงอย่างยากจะแก้ไข คนพวกนี้พอโตขึ้นก็จะมองหาช่องทางโกงได้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีโอกาส เขียนแล้วเศร้า กำลังมีเรื่องถูกโกงอยู่ค่ะ หวังว่าเทวดาฟ้าดินแห่งแผ่นดินไทยที่รักนี้จะไม่เข้าข้างคนเลวพวกนี้ โดยเฉพาะพวกที่อยู่ในวงการการศึกษานะคะอาจารย์ เจอกันพรุ่งนี้ค่ะ

รูปเป็นเด็กๆ โรงเรียนพาร์ทเนอร์ ที่อินเดีย รร O P Jindal เป็น รร เอกชนมีชื่อเสียงมากในย่านอุตสาหกรรมที่เมือง Raigarh ถ่ายกับของที่เราส่งไปให้ในโปรเจค Culture in a Box ค่ะ Just remind you for the skype session on this Friday from15.00-16.00 at Conference room 100 years Building

ขอบคุณครับท่านอาจารย์สวาท

จำได้ไหมครับ เมื่อเดือนที่ผ่านมาใช่ไหมครับที่ครูอินเดียเขาเล่ามาให้เราอ่านใน Global Teacher Forum ใน facebook ของเราว่า ที่อินเดียมีการอดอาหารขอให้มีกฎหมายปราบโกงในประเทศเพราะประชาชนเขาทนไม่ได้ และทราบว่าได้รับการตอบรับไปแล้ว ด้วยอะไรก็ตามที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมจริงจัง ก็มักจะสำเร็จ แม้แต่การ แก้ปัญหาน้ำท่วมที่เรากำลังเห็น ๆ กันทางจอทีวีในขณะนี้ การปราบโกงก็คงต้องอาศัยประชาชนถึงจะปราบได้ ผมคิดว่าถ้าปล่อยให้รัฐทำไป ๆ

ต้องใช้เวลาสามสิบปี แต่ถ้ามีการรวมตัวตั้งกลุ่มตามที่ท่านโสภณแนะนำก็อาจจะเร็วขึ้น อย่างน้อยที่สุดก็มารวมตัว

แลกเปลี่ยนโนฮาวปราบโกงกันก็ยังดี ที่จะได้แนวคิดแนวทาง ได้พวกเพื่อช่วยกันปราบไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

สมมุติฐานของผมคนโกงมีน้อยมาก แต่พวกนี้มีอิทธิพล โดยเฉพาะผู้ที่มีตำแหน่งสูง มีอำนาจการบังบัญชา

ถ้าแต่ละหน่วยงานมีคนสักยี่สิบเปอร์เซ็น หรือไม่ถึงแต่ใจถึง ตั้งหน่วยปราบโกงภายในขึ้น แล้วรณรงค์ส่งเสริม

การเก็บหลักฐานด้วยสารพัดวิธีการ ผมคิดว่าน่าจะเป็นทางหนึ่งที่ทำให้คนเหล่านี้หัวหด เพราะมีคนเตรียมบี้ น่าจะมีคนเอาด้วยเพราะพอจะติดคุก พวกปลาซิวปลาสร้อยมักจะโดนก่อนเสมอ

การเรียนรู้ที่ดีวิธีหนึ่งก็คือ ดูจากตัวแบบ หรือสิ่งที่ได้เห็น เลยไม่รู้ว่าอนาคตของเยาวชนจะ"เรียนรู้การโกง

" ไปด้วยหรือเปล่าค่ะ

ต้องขออภัยท่านแม่น้ำ ผมเพิ่งเห็นเมื่อสักครูนี้จริง ๆ เลยไม่ได้กล่าวถึงท่านพร้อม ๆ กับสามท่านที่กล่าวถึง ตาของผมจึงมองรวม ๆ กับเนื้อหาของท่านอื่น จนไม่เห็นของท่าน ก็ขออภัย ครับ...การช่วยกันจัดการกับพวกขี้โกงน่าจะทำได้ทุกคน อย่างน้อยก็จับวงสนทนาถึงความชั่วร้ายของพวกขี้โกงก็น่าจะเป็นทางหนึ่งที่จะขยายผลความเกลียดชัง เมื่อคนพวกนี้เดินไปที่ไหนก็จะแวดล้อมไปด้วยความน่ารังเกียจ และจุดจบจะมาถึงเขาเอง อย่างไรก็ดีต้องมั่นใจจริงๆ ว่าเขาหรือเธอขี้โกงจริงๆ มิฉนั้นเราก็จะบาปกรรมไปด้วย

ใช่ครับ ครูหนู ถ้าเด็กๆ อยู่ใกล้ๆ พวกขี้โกง ก็จะซึมซับไปด้วย จึงจำเป็นต้องมีการปลูกฝัง อย่างเช่นโครงการ โตไปไม่โกง

หรือไม่ก็มีการเชือดโดย ปปช. และศาลสถิตย์ยุติธรรมให้เห็นบ่อย ๆ หรือชี้ขี้โกงใกล้ตัว ที่มะเร็งลงมือเชือดอย่างไม่ปราณีให้เห็นเป็นกรณีตัวอย่าง ที่พูดอย่างนี้ผมเคยเห็นเป็นกรณีตัวอย่างมาแล้วครับ

คลิ๊กดูรายการโกงจาก youtube กันนะครับ

ขี้โกงไทยในระดับสากล

http://www.youtube.com/watch?v=Fqe_GzVEHwI

รายงานพิเศษ ต่อต้านคอรัปชั่น

http://www.youtube.com/watch?v=G4EKB5BUyfE

วาระแห่งชาติการปรามขี้โกงที่กำลังกรน

http://www.youtube.com/watch?v=Rdnu9nYsgcU

เราก็มีเครือข่ายที่กำลังจัดการกับพวกขี้โกง

http://www.youtube.com/watch?v=Hs7cWWjsZ58

จีนเชือดลิงให้ไก่ดู

http://www.youtube.com/watch?v=gxwODl_AXlA

  • สวัสดีเจ๊า เกลียดคนโกง
  •  แต่คงจะหนีไม่พ้น
  • ยิ่งโต ....ยิ่งโกง

วันนี้ผมถามกูเกิ้ลว่า กระทรวงใดคอรัปชั่นมากที่สุด ก็ได้รับคำตอบจาก http://talk.mthai.com/topic/16094 แต่ยังเป็นคำตอบที่ยังสรุปไม่ได้ ผมคิดเอาเองว่าน่าจะมีกันทุกกระทรวง รวมทั้งกระทรวงศึกษาธิการ ผู้สร้างปัญญาให้กับประชาชนของประเทศ จึงคลิ๊กไปคลิ๊กมา ก็พบรายงานการวิจัย "คอรัปชั่นในวงการการศึกษาของไทย: กรณีศึกษาในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง" ที่ทำไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ.2516 ใน http://office.nu.ac.th/nu_journal/pdf/journal/11%282%2975-92.pdf

มีการรายงานว่ามีการคอรัปชั่นในวงการการศึกษาในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนล่างอยู่ในระดับน้อยและระดับปานกลาง (มากน้อยแค่ไหนถูกจับไปดำเนินคดีไปแล้วกี่คดี คิดเป็นเงินค่าเสียหายเท่าไร ไม่มีการระบุ เพราะเป็นการสำรวจจากความคิดเห็นของผู้คนจำวนวนหนึ่ง) พฤติกรรมคอรัปชั่นประกอบด้วยการทุจริตในการจัดซื้อจัดจ้าง ค่าพัสดุรายหัวนักเรียน การจัดซื้อนมในโครงการนมโรงเรียน และการจัดซื้ออาหารในโครงการอาหารกลางวัน

กรณีคอรัปชั่นหรือขี้โกงที่ถูกหยิบยกขึ้นมาฟังแล้วน่ากลัวกว่าที่โจรปล้นบ้านปลัดกระทรวงคมนาคมในช่วงน้ำท่วม เพราะเป็นการโกงทางปัญญา เป็นการโกงที่ส่งผลต่อการขี้โกงในระยะยาว และส่งผลต่อการโกงที่ไม่จบสิ้นเพราะความไม่เต็มคุณภาพของประชากรไทยที่ไปจากการจัดการศึกษาที่ไม่เต็มประสิทธิภาพในวัยเรียน

“โจร” แปลว่า ผู้ร้ายที่ลักขโมยหรือปล้นสะดมทรัพย์สิน ว่าไปแล้วโจรไม่น่ากลัวสักเท่าไรเพราะ เมื่อจับได้แล้ว โจรลักขโมย หรือปล้นสะดม ปรากฏกายให้เห็นได้ และสามารถจับเข้าคุกได้ ไม่เหมือนกับโจรที่ภายนอกเป็นผู้ดี มีการศึกษาสูง ตำแหน่งสูง ประดับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูง อยู่ในสังคมชั้นกลาง หรือชั้นสูง เรียกว่าอยู่ในคราบของคนดีที่ส่วนลึกในจิตใจชั่วร้ายกว่าโจรธรมดา สามารถลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมได้ จะจัดการกับผู้ดีเหล่านี้ได้ ต้องใช้ปัญญาร่วมกันลอกคราบให้มากยิ่ง ๆ ขึ้น ไม่ปล่อยให้โจรในคราบของผู้ดีที่อยู่ในวงราชการเหล่านี้ คอยปล้นประเทศอยู่เงียบ ๆ จนกลายมาเป็นประเทศขี้โกงที่ 78 จาก 178 ประเทศทั่วโลก

ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะไว้ 4 ข้อแรกน่าสนใจ เพราะเสนอให้ มีระบบ หรือวิธีการตรวจสอบการปฏิบัติราชการของหัวหน้าหน่วยงานในหน่วยราชการ ที่อยู่ในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และโรงเรียน หรือ สถสถาบันการศึกษกา ถ้าทำได้ก็น่าจะปราบขี้โกงได้บ้างอีกทางหนึ่ง จะปราบโจรผู้ดีเหล่านี้ได้คงต้องใช้ยุทธการปราบน้ำท่วม ที่หลายภาคส่วนช่วยกันปราบ โดยเฉพาะการปราบโดยประชาชน

สวัสดี ด้วยความเคารพจริง ๆ จากใจ เพราะได้เห็นข้อความจามท่านแล้วโดนใจจริงๆ มันเป็นสถานะการณ์น้ำท่วมปากจริง ๆ เรารู้เราเห็นว่า พวกทำอาหารกลางวันเล่นแร่แปลธาตุ แต่ ผู้บริหารกกลับ นิ่งเป็นเตย์มีใบ้ ปล่อยให้ โจร อย่างที่ท่านว่า โกงเงินอาหารกลางวันหน้า ด้าน ๆ เศร้าใจจริง ๆ

และขอเข้าร่วมกระบวนการปราบขี้โกง ด้วย ไอ้ที่บอกว่า เดี๋ยวเวรกรรมต้องตามมาทัน หน่ะ เห็นด้วย แต่เกรงว่ากว่าเวรกรรม จะตามทัน กลัวว่าประเทศไทย จะไม่เหลือแม้แต่ซากก่อน เป็นเรื่อง น่าวิตา และน่าห่วง จริง ๆ ขอบอก

ท่าน  Kru Poo ครับผมได้แนะวิธีการปราบขี้โกงไว้ในที่นี้ด้วย  ดูแล้วนะครับ ใน http://www.gotoknow.org/blogs/posts/470519  หากมีวิธีอื่น ๆ เล่ามาด้วยนะครับ

ผ่านไปนับปี การโกงทวีความรุนแรง จากการโกงธรรมดาที่ผมกล่าวมา  เป็นการโกงแบบกินเมือง และมีข่าวการโกงไม่เว้นแต่ละวัน จะช่วยกันหยุดโกงได้ ต่างก็ช่วยกันตระหนักว่าการโกง เป็นการโกงเงินทองของเรา ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม  ที่ต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา  หรือว่าหาทางขจัดพวกขี้โกง  โดยเฉพาะโกงแบบลึก ๆ โกงเชิงนโยบาย ที่โกงได้เป็นกระบวนการ ผลา่ญเงินของชาติและเงินของเรา ที่ชาวบ้านโดยทั่วไป ตามไม่ได้ไล่้ไม่ทัน   

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท