เวลาที่หายไป


เทคโนโลยีช่วยลดเวลาในการทำงานให้เราก็จริงแต่เราก็ไม่ได้มีเวลามากขึ้น ในทางตรงกันข้ามเรากลับมีเวลาน้อยลง

ประโยคยอดฮิตติดปากของผู้คนสมัยนี้ที่ได้ยินไม่เว้นแต่ละวันคือ "ไม่มีเวลา" แทบทุกคนรอบตัวฉันไม่มีใครมีเวลาสักคน...

หลานสาวที่ยังเรียนอยู่ก็บอกว่ายุ่งมากแทบไม่มีเวลาอ่านหนังสือ ไม่ต้องพูดถึงเวลาที่จะช่วยทำงานบ้าน พี่ชายฉันซึ่งทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเองก็บอกแทบไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัวเลย พี่สะใภ้ซึ่งทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทก็ไม่มีเวลาแม้แต่จะหุงหาอาหารในแต่ละวัน หลานชายฉันบอกไม่มีเวลาแม้แต่จะแวะไปคุยกับยายซึ่งแก่มากแล้วและเฝ้ารอการมาเยี่ยมเยียนของหลานชายสุดโปรด

เพื่อนร่วมงานฉันแต่ละคนมาทำงานในวันจันทร์ด้วยท่าทีอิดโรยเพราะไม่มีเวลาพักผ่อนในวันหยุดเสาร์อาทิตย์

บางทีฉันเองก็ใช้ประโยคนี้เป็นข้ออ้าง เวลาที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับบุคคลที่ไม่มีเวลาเหล่านั้นด้วยเช่นกัน....

ชวนให้ฉันฉุกคิดว่าเวลามันเดินเร็วขึ้นหรือวิ่งเร็วขึ้นจนหายเข้ากลีบเมฆไปหรือไรเมื่อเทียบกับสมัยก่อนหน้านี้... เวลาที่เคยมีหายไปไหน ทำไมจึงหาเวลากันยากจริง..

ในยุคที่ความเจริญทางด้านเทคโนโลยีมาถึงขีดที่ยังไม่เคยมีมาก่อน มันไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและช่วยให้เรามีเวลามากขึ้นเลยหรือ?

เมื่อยังเด็กฉันคงมีเวลามากกว่าใครในตอนนี้ เพราะต้องทำงานบ้านทุกอย่างด้วยมือ ซักผ้า ล้างจาน กวาดบ้าน ตักน้ำจากบ่อน้ำมากรอง ก่อไฟทำกับข้าว ฯลฯ เวลาทำรายงานก็ค้นคว้าข้อมูลจากห้องสมุด ไม่มีคอมพิวเตอร์ กว่าจะรู้จักอินเตอร์เนตก็ตอนอยู่มหาวิทยาลัย ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่ได้มีโน้ตบุ้ค อีบุ้ค ฯลฯ ฉันเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่มีเวลาทำอะไร

หลายปีต่อมางานบ้านถูกอุปกรณ์อำนวยความสะดวกทั้งหลายแย่งกันทำหมด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้า หม้อหุงข้าว เครื่องดูดฝุ่น ฯ ชึ่งเวลาที่ใช้ในการทำงานบ้านก็ลดลง เรามีอินเตอร์เนตความเร็วสูงที่สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ด้วยเพียงสัมผัสที่ปลายนิ้ว ทุกที่ทุกเวลา แม้แต่เวลาส่วนตัวในห้องน้ำหากบังเอิญคิดอยากหาข้อมูลใดก็ทำได้ทันทีเพราะมีไอแพ็ด ไอโฟนอยู่ในมือ ไม่ต้องเสียเวลาอยู่กับความไม่รู้นานเกินรอ

เทคโนโลยีช่วยลดเวลาในการทำงานให้เราก็จริงแต่เราก็ไม่ได้มีเวลามากขึ้น ในทางตรงกันข้ามเรากลับมีเวลาน้อยลง

หากเวลายังคงเดินไปตามจังหวะเดิม เวลายังมีเท่าเดิม เราใช้เวลาในส่วนอื่นลดลง ก็แสดงว่าเราใช้เวลาในการทำกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่งมากขึ้น คงเป็นเพราะประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเหล่านี้หรือเปล่าที่ทำให้รู้สึกว่าเราน่าจะมีผลงานให้มากขึ้น เราจึงต้องทำงานให้มากเพื่อให้ได้ผลงานออกมาตามที่สังคมรอบข้างคาดหวังไว้ หรือจะเป็นเพราะเราใช้เวลาทีมีเหลือไม่เป็น เราจึงไม่มีเวลา?

หลานสาวฉันอยู่ในเฟสบุ้คแทบทุกครั้งที่ฉันย่างกรายเข้าไป หลานชายฉันท่องไปบนโลกของเกมส์อินเตอร์เน็ตอย่างเพลิดเพลิน พี่ชายพี่สะใภ้ฉันนั่งอยู่บนโซฟาเดียวกันต่างคนต่างคุยโทรศัพท์กับเพื่อนของตัว ภาพเหล่านี้เป็นเป็นภาพที่ชินตาในบ้าน จู่ๆ แต่ละคนต่างก็มีเรื่องคุยกับคนอื่นในโลกกว้างมากมายขึ้นมาในบัดดล จนไม่มีเวลาให้คนใกล้ตัว หรือมีเวลาทำสิ่งอื่นใดอีก

 

ฉันเป็นคนมีเวลามากมายค่ะ ก็เลยแวะเข้ามาฝากเนื้อฝากตัว หาเพื่อนคุยในสังคม Gotoknow ค่ะ ขอรับฉันไว้ด้วยคนนะคะ จะได้มีเพื่อนคุย เอาไว้บอกใครๆ ว่า ฉันก็ไม่มีเวลาค่ะ...มันเท่ห์ดี

คำสำคัญ (Tags): #เวลาที่หายไป
หมายเลขบันทึก: 468901เขียนเมื่อ 21 พฤศจิกายน 2011 12:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 22:18 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

แวะมาทักทาย

คนหัวอกเดียวกันค่ะ

อยู่กับต้นไม้และน้องหมาค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะค่ะ

                

 

จริงสินะ ชอบพูดกันจัง ไม่มีเวลา ไม่รู้ว่าเวลาหายไปอยู่ไหน

สวัสดีค่ะคุณ Bonnie

ขอบคุณค่ะที่เป็นคนแรกที่มาทักทายกัน อบอุ่นจัง...

ที่นี่มีน้องแมวกับหนังสือค่ะ สำหรับทุกๆ วันที่มีความสุข

ขอเป็นกำลังใจให้เช่นกันค่ะ...

สวัสดีค่ะคุณ โสภณ

ขอบคุณสำหรับกาแฟถ้วยแรกนะคะ

หวังว่าคงจะมีถ้วยต่อๆ ไปนะคะ...

สวัสดีค่ะคุณ Nopparat Pongsuk,

ขอบคุณที่มาทักทายกันค่ะ...

หวังว่าเราจะหาเวลาให้เจอนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ

เวลาเป็นของกลางๆ มีเท่าเดิม แต่การหลงทางในการจัดการบริหารตนเองต่างหากนะคะที่ทำให้เราหาเวลาไม่เจอ ยิ่งรู้สึกว่าต้องหา ยิ่งหายาก เอ...มันยังไงๆอยู่

ขอบคุณที่ไปมอบดอกไม้ค่ะ เป็นคนชอบดอกไม้มากๆ เอามาฝากดอกหนึ่งนะคะจากสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เพิ่งไปมาเมื่อช่วงลอยกระทงค่ะ

Large_bua5

แอบตามพี่นุช คุณนายดอกเตอร์ มาอย่างเงียบ ๆ ครับ ;)...

...........................................................................................................

นอกจากคำว่า "ไม่มีเวลา" แล้ว ยังมีคำว่า "ฆ่าเวลา" อีกต่างหากครับ ;)...

ฆ่ากันให้ตายไปข้างหนึ่ง ทั้ง ๆ ที่เวลาเป็นของใครของมัน ยิ่งฆ่า ยิ่งอายุขัยสั้นลง

"ความเร็ว" ดุจลัดมือ ทำให้มนุษย์ในยุคปัจจุบันเห็นคุณค่าของเวลาน้อยลงไปกว่าเดิม เพราะไปคิดว่า แป๊บเดียวก็เสร็จแล้ว

ทั้ง ๆ ที่อายุขัยก็เท่า ๆ กันนั่นแหละครับ ;)...

............................................................................................................

เขียนบันทึกนี้ได้ดีเลยครับ

ขอบคุณครับ ;)...

สวัสดีค่ะคุณพี่ คุณนายดอกเตอร์,

ขอบคุณค่ะสำหรับดอกไม้ค่ะ ชอบดอกไม้เหมือนกันค่ะ

พูดถึงดออกไม้ ชอบที่ท่าน ติช นัท ฮันท์ กล่าวถึงดอกไม้ ในหนังสือ Touching peace ตอน We are all flowers ว่า

" A flower does not have to do anything to be of service, it only has to be a flower. That is enough. A human being, if she is a true human being is enough to make the whole world rejoice"

"ดอกไม้ไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อเป็้นการให้บริการอะไรกับใคร เป็นแค่ดอกไม้ก็เพียงพอแล้ว มนุษย์เราหากเราเป็นมนุษย์ที่แท้จริง แค่นี้เราก็ทำให้โลกเป็นสุขแล้ว"

สวัสดีค่ะอาจารย์ Wasawat Deemarn, ขอบคุณที่กรุณามาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจค่ะ

เวลาเป็นทรัพยากรณ์ที่มีค่ามากที่สุดที่เราทุกคนมีค่ะ น่าเสียดายที่คนบางคนไม่เห็นค่าของมันในวันที่ยังหายใจดีอยู่อย่างตอนนี้...

หวังใจว่าเราต่างใช้เวลาให้มีประโยชน์ เช่น อ่านรีวิวหนังสือดีๆจากอาจารย์แล้วค่อยตัดสินใจว่าจะซื้อเล่มใดมาอ่านต่อดี เพื่อเป็นการบริหารเวลาและสุขภาพกระเป๋าตังส์ด้วยค่ะ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท