เกิดมาทำไมโดย นพ.อนันต์ ธนาประเสริฐกรณ์

เกิดมาทำไม

 โดย นพ.อนันต์  ธนาประเสริฐกรณ์

      ผมเคยถูกถามบ่อยๆว่า  คนเราเกิดมาทำไม คนที่ถามคงจะถามในฐานะที่ผมเป็นจิตแพทย์ จึงคิดว่าน่าจะรู้คำตอบบ้าง

      เมื่อลองย้อนกลับ  ไปมองกลุ่มคนที่ถามผมด้วยคำถามนี้ก็พบว่า แต่ละคนมีเหตุ  มีที่มาของคำถามแตกต่างกันไป

-     บางคนกำลังเผชิญความทุกข์ อย่างมาก ทั้งทางกาย และทางใจ ไม่รู้หนทางที่จะมีชีวิตอยู่ต่อให้มีความสุข จึงถามเพื่อหาความหวังบางประการ

-     บางคน พบกับความผิดหวังบางอย่างซึ่งเคยเป็นที่พึ่งของจิตใจและชีวิต เช่น หน้าที่การงาน ตำแหน่ง ผลประกอบการทางธุรกิจ ครอบครัว ความรัก การเรียน ฯลฯ เมื่อพลาดหวังก็ไม่รู้ว่าจะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร จึงถามเพื่อหาความคาดหวัง หรือเป้าหมายใหม่ๆ

-    บางคนตั้งคำถามนี้ในขณะที่ยังปกติดีแต่เห็นความเป็นไปของเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมีความไม่แน่นอน ไม่สามารถให้ความสุขที่แท้จริงได้ ยึดเหนี่ยวไม่ได้ จึงเริ่มสงสัย  บวกกับกังวลว่าอะไรๆที่มีอยู่ เป็นอยู่ สักวันก็ต้องเปลี่ยนไป น่าจะมีความสุขบางอย่างที่ยั่งยืน และมีคุณค่ามากกว่าที่เป็นอยู่

          แต่มีคนบางกลุ่มที่ผมไม่เคยได้ยินคำถามทำนองนี้ ได้แก่

        กลุ่มที่กำลังมีความสุข สมหวังอย่างที่ตั้งใจไว้ เช่น เวลาอยู่ในงานแต่งงาน ถ้าไปถามอะไรแบบนี้ เดี๋ยวจะถูกไล่ออกจากงานได้

           อีกกกลุ่มคือ คนที่กำลังวุ่นวาย อยู่กับปัญหาที่ตัวเองสร้างไว้อย่างมากมาย ยังคงวนเวียนกับปัญหาเหล่านั้น เช่น คนที่ทำผิดกฎหมายรุนแรง คนที่คดโกงชาวบ้าน แล้วยังคิดว่าทำตามกติกา คนที่หลงในอบายมุข ฯลฯ

          คนทั้งสองกลุ่ม นี้ยังมีชีวิตที่อยู่ในห้วงแห่งความสุข

         สุขหนึ่งนั้น เป็นที่ยอมรับ

         ส่วนอีกสุขหนึ่งนั้น อยู่บนฐานของความเห็นแก่ตัวอย่างรุนแรง

         ผมเองเคยถาม อาจารย์ฝรั่งที่ได้เมตตาถ่ายทอดความรู้ในการทำจิตบำบัดแก่คนไทยว่า “ ในเมื่อการมีจิตใจที่สงบสุข และดีงามเป็นสิ่งที่ดี เพราะอะไรพระเจ้าจึงไม่สร้างให้ทุกคนดีพร้อม เพราะอะไรจังยังให้คนเรามีทุกข์ทั้งทางกายและทางใจ "

        อาจารย์ฝรั่งมองผมด้วยสายตาที่เมตตาและตอบว่า   คุณรู้ได้อย่างไรว่าพระเจ้าไม่ได้ให้ความสงบสุขและดีงามไว้ เพียงแต่มนุษย์ คงจะเลือกสิ่งอื่นแทน หมายถึงวิถีชีวิต ความสุขทางโลกในแบบอื่น เราทุกคนมาอยู่ ณ จุดนี้ เพราะเราเลือกที่จะมา   เราเลือกโดยไม่รู้ว่า กำลังเลือกอยู่ ขณะนี้เราก็กำลังเลือกที่จะไปอยู่ ณ อีกจุดหนึ่งในอนาคตอันใกล้ เราคงจะต้องเรียนรู้ ในสิ่งที่เราเลือก จนกว่าจะตระหนัก และเห็นสิ่งที่พระเจ้าให้ไว้ในใจเรา

    ชีวิต คือการเลือก และเรียนรู้ในสิ่ง ที่ตัวเองเลือก จะโดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

    คำตอบของอาจารย์ ฝรั่งทำให้ผม พอจะเข้าใจเมื่อถูกถามเรื่องเกิดมาทำไม จริงๆแล้วกลุ่มคนที่ถามคำถามนี้ เนื่องจากความทุกข์ที่เกิดขึ้น ความจริงแล้วคงอยากจะถามว่า “ ทำไมชีวิตเขาจึงเป็นแบบนี้ ”  ( เพราะถ้า สมใจอยากก็คงจะไม่ถาม )

       คนที่ถามส่วนหนึ่งก็ยังคงฉงนสงสัยในข้อผิดพลาด ความไม่สมหวังของตนเอง และลึกๆแล้วก็ยังคงมีความหวังว่า “ ทำอย่างไร จึงจะ เป็นอย่างที่หวังไว้   หรือ “ ทำอย่างไรจึงจะกลับมา มีสภาพที่มีความสุขเช่นเดิม ” ซึ่งยังคงติดอยู่กับ ความสุข ความทุกข์ ความสมหวัง ความผิดหวัง วนเวียนไปมา ความที่ยังเลือกที่จะอยู่ในวังวนนี้   ไม่ใช่เพื่อที่จะหลุดจากวังวนนี้ แต่เลือกที่จะสมหวัง ( แล้วรอการผิดหวังในอนาคตข้างหน้า

       ส่วนกลุ่มที่สมหวัง แล้วรอการผิดหวังในอนาคตข้างหน้า ) ส่วนกลุ่มที่สมหวังและยังไม่ถามคำถามนี้ ในอนาคตอาจจะไกลแสนไกล  ก็คงต้องเริ่มตั้งคำถามทำนองนี้บ้าง

        ส่วนกลุ่มที่ถามเพื่อต้องการหาสิ่งที่มีคุณค่า  มากกว่าการมีชีวิต ขึ้นๆลงๆ ถามเนื่องจากเห็นความไม่คงทนของสิ่งที่ตนเองกำลังอิงอยู่ด้วย ถ้าเริ่มรู้ว่าชีวิตคือ การเลือก ก็อาจจะเริ่มเปลี่ยนมาถามตัวเองว่า “ เราควรเลือกอะไรให้กับชีวิตดี เพื่อนำไปสู่ คำตอบนั้น " 

       เมื่อได้เลือกแล้ว คำตอบของคำถามที่ว่าเกิดมาทำไม ก็น่าจะเผยตัวออกมาเอง

 

ขอบคุณ บทความ โดย นพ. อนันต์  ธนประเสริฐกรณ์ จากหนังสือ ชีวจิต

 

 

[โสภณ เปียสนิท]

ดาวใดใสกระจ่างสว่างฟ้า

ดาวนั้นคือดวงตาแห่งสวรรค์

ดาวใดเด่นนานกาลนิรันดร์

ดาวนั้นเจิดจรัสด้วยศรัทธา

 

 

[อยู่ให้เป็น]

เขาอาจจะถามหมอก็ได้นะครับ ว่าเกิดมาทำไม เป็นจิตแพทย์แต่ไม่ให้คำปรึกษา จ่ายยาอย่างเดียว

[เสียแรงเกิด ขุดมาเกิด]

ไปปรึกษาแต่ไม่ให้คำปรึกษา บอกให้ไปสำรวจตัวเองก่อน ผมจะเก็บแรงไว้ขุดคนอื่น