เฝ้าระวังจุลินทรีย์ดื้อยา
มนุษย์สร้างยาปฏิชีวนะขึ้นมาสู้กับโรคติดเชื้อ เชื้อโรคเขาก็สู้กลับ ด้วยการพัฒนาความสามารถในการ ดื้อยาขึ้น สู้กันอย่างนี้เป็นวัฏจักร ยิ่งมนุษย์มียาดี และชะล่าใจใช้อย่างฟุ่มเฟือย เชื้อโรคก็ยิ่งสู้หนักขึ้น เชื้อโรค ดื้อยายิ่งก่อปัญหามากขึ้น องค์การอนามัยโลกจึงจัดให้มีระบบเฝ้าระวัง และมีคณะผู้เชี่ยวชาญคอยประชุมหารือ ทำความเข้าใจภาพใหญ่ เรียกว่า AGISAR
ใช้ในคนไม่พอ ยังเอายาปฏิชีวนะไปใช้กับปศุสัตว์ให้โตเร็ว เชื้อจุลินทรีย์ดื้อยาจึงเกิดรุนแรงขึ้น จุลินทรีย์ดื้อยา และโรคภัยไข้เจ็บเชื่อมโยงเข้ากับความโลภของมนุษย์จนได้
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องความปลอดภัยของมนุษย์ และมนุษยชาติ ที่เรียกว่า health safety
เรากลัวกันเรื่องอาวุธชีวภาพ แต่จริงๆ แล้วพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบางอย่างของมนุษย์เองนั่นแหละ ที่สร้าง “อาวุธชีวภาพ” ทำลายล้างตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ไปเชื่อมโยงกับโรคกลุ่มที่ติดจากอาหาร ที่เรามักคิดกันว่าเกิดกับสังคมที่ระบบสุขอนามัยไม่ดี หรือขาดความสะอาด แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็เกิดเหตุโรคท้องร่วงรุนแรงจากเชื้อ อีโคไล ในยุโรป ประเทศที่ ถือกันว่าระมัดระวังความสะอาดเป็นเยี่ยม เรื่อง อีโคไลนี้ไม่เกี่ยวกับการดื้อยา แต่เป็นตัวอย่างของโรคที่ติด จากอาหาร
เชื่อมโยงกับโรคของสัตว์ที่อาจติดสู่คน หลากหลายโรค ที่บางโรคไม่ใช่เชื้อดื้อยา แต่ไม่มียารักษา เช่นโรคพิษสุนัขบ้า
เวลานี้ระบบเฝ้าระวังเกี่ยวกับสุขภาพของคนเป็นระบบใหญ่ ที่ซับซ้อนและเป็นเครือข่ายเชื่อมโยง ถึงกันหมดทั้งโลก มีนักระบาดวิทยาเป็นกลไกสำคัญ และในประเทศไทยเรามีชื่อเสียงมาก ว่ามี “นักระบาดวิทยาเท้าเปล่า” ซึ่งหมายถึงชาวบ้านธรรมดาที่ทำหน้าที่ อสม. เป็นกำลังสำคัญของระบบ ตอนเราต่อสู้ป้องกันการระบาดของไข้หวัดนก H5N1 ได้สำเร็จ เป็นที่ยกย่องกันมากในโลก ว่าประเทศไทยมีนักระบาดวิทยา และระบบเฝ้าระวังในชุมชนที่เข้มแข็ง
วิจารณ์ พานิช
๖ พ.ย.๕๔
ในฐานะสัตวแพทย์ที่ดูแลสัตว์บริโภคต้องยอมรับจริงค่ะ
ว่าการใช้ยาในการเลี้ยงสัตว์ซึ่งมักจะให้ในระดับการป้องกันต่ำๆ
ในปัจจุบัน..เราได้เริ่มมีการวิจัยที่ใช้สารอินทรีย์
และระบบต่างๆ เข้ามาช่วยลดการใช้ยาปฏิชีวนะ
เพราะก็เล็งเห็นว่าในโลกการค้าเสรีที่ไม่มีกำแพงภาษีมาชะลอการนำเข้า
จะกลายเป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัยต่างๆ เหล่านี้แทน
อาจจะกำหนดให้ฟาร์มที่เลี้ยงสัตว์ส่งออกห้ามมีการใช้ยา
ซึ่งก็อาจจะทำให้การดูแลสุขภาพสัตว์ยุ่งยากขึ้นไปอีก
ถ้าหากเราสามารถใช้สมุนไพรได้ในการดูแลสุขภาพสัตว์
โดยมีงานวิจัยรองรับก็น่าจะส่งผลดีในอนาคต
และอาจจะก่อให้เกิดอุตสาหกรรมผลิตยาสัตว์จากสมุนไพรไทยบ้างก็ได้
ลองเสนอความคิดเห็นดูค่ะ ^^