น้ำท่วม ๒๕๕๔(๒)


น้ำท่วมเป็นเรื่องดีสำหรับคนในสมัยก่อน แต่กลายเป็นภัยพิบัติสำหรับคนในปัจจุบัน

ราชธานีเก่า  อู่ข้าวอู่น้ำ  เลิศล้ำกานต์กวี  คนดีศรีอยุธยา

คำขวัญประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บ่งบอกถึงความเป็นพระนครศรีอยุธยาที่เข้าใจง่าย ชัดเจนโดยไม่ต้องแปล ผมไม่ได้เกิดที่พระนครศรีอยุธยา แต่มาทำงานและอาศัยอยู่ที่พระนครศรีอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๑๘  ได้เห็นน้ำท่วมครั้งแรกในชีวิตก็คือ พ.ศ.๒๕๑๘ รู้สึกประทับใจมาก ในสนามฟุตบอลมีพืชน้ำขึ้นเต็มไปหมดสวยงามกว่าการจัดตู้ปลาที่เคยเห็นหลายเท่า และเป็นตู้ปลาขนาดใหญ่เท่าสนามฟุตบอล มีปลาหลากชนิดว่ายไปมา ยิ่งดูยิ่งเพลิน

พระนครศรีอยุธยาเป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาตั้งแต่อดีต อุดมสมบูรณ์ด้วยข้าวปลาอาหาร จึงตั้งบ้านแปลงเมืองขึ้น ณ ที่แห่งนี้  ชาวกรุงศรีอยุธยาดำรงอยู่ได้ด้วยข้าวและน้ำที่อุดมสมบูรณ์มาโดยตลอด แม้น้ำจะท่วมสูงก็ไม่เคยมีใครเดือดร้อนกลับอยู่สุขสบายกว่ายามแล้ง  กาลเวลาผ่านพ้นจนถึง พ.ศ. ๒๕๕๔ น้ำก็ยังคงท่วมอยุธยาอย่างสม่ำเสมอเกือบทุกปี มากบ้างน้อยบ้างตามกำลังศรัทธา แต่ชาวพระนครศรีอยุธยาเริ่มเดือดร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จากที่เคยปลูกข้าวขึ้นน้ำซึ่งต้องใช้เวลา ๗ - ๘ เดือน ก็หันมาปลูกข้าวอายุสั้นเพื่อเพิ่มผลผลิตมวลรวมให้แก่ประเทศไทย ปีไหนน้ำน้อยชลประทานจัดการน้ำได้ดีก็ได้ผลผลิตสูง ปีไหนน้ำมากชลประทานไม่สามารถจัดการน้ำได้ก็ขาดทุน ต้องเป็นหนี้สิน น้ำท่วมที่เคยใช้ได้ทั้งดื่มทั้งอาบก็ใช้ไม่ได้เพราะไม่ต้องการเป็นโรคท้องร่วงและเป็นแผลพุพอง

น้ำท่วมครั้งนี้ได้พบว่าพระนครศรีอยุธยา ยังคงเป็นจังหวัดที่เพิ่มผลผลิตมวลรวมให้แก่ประเทศจำนวนมากและเป็นดีทรอยแห่งเอเซียอีกด้วย น่าเสียดายที่นิคมอุตสาหกรรมไม่โตตามน้ำเหมือนข้าวสมัยก่อน แต่เป็นข้าวไม่ขึ้นน้ำเหมือนข้าวสมัยปัจจุบัน นิคมอุตสาหกรรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายทั้ง ๕ แห่ง ฉุดให้เศรษฐกิจไทยไม่เจริญเติบโตเท่าที่ควรจะเป็น น่าเห็นใจเจ้าของนิคมอุตสาหกรรมและเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรมที่เสียหายกันเป็นพันล้านหมื่นล้าน ถ้านิคมฯไม่ได้ตั้งอยู่ในอู่ข้าวอู่น้ำ ก็คงไม่ได้รับความเสียหาย น่าสงสารคนงานที่ต้องหยุดงานไม่มีรายได้กันเป็นแสนคน แม้เขาจะไม่ได้เป็นชาวอยุธยา แต่ก็คงฝากความหวังไว้กับอยุธยา คนไม่มีรายได้เป็นแสนคนรวมกันอยู่ที่อยุธยาคิดว่าจะเป็นเช่นไร

ที่อยุธยามีคนต่างถิ่นอย่างผม มากกว่าคนอยุธยาเสียอีก คนท้องถิ่นอยุธยาจริงๆ เป็นคนมีน้ำใจ รักความสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เมื่อก่อน(ก่อนพ.ศ.๒๕๓๐)อยุธยาเป็นเมืองสงบ ไปไหนมาไหนปลอดภัย เราแปลกหน้าเข้าไปเขารู้กันทั้งหมู่บ้าน และให้ความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ด้วยความห่วงใย ถามหาใครเขาก็รู้จักกันทั้งหมู่บ้าน ตอนเย็นคนก็กลับบ้านกันหมดไม่มีสถานบันเทิง ไม่มีร้านอาหาร ไม่มีปาหิน ไม่มีฯลฯ(ที่ไม่ดีและคนไม่ต้องการ) ปัจจุบันสังคมเปลี่ยนแปลงไปมาก มีความสะดวกสบายมากขึ้นแต่ก็มีสิ่งที่ไม่ต้องการมากขึ้นเช่นกัน(ย่อหน้านี้เกี่ยวกับน้ำท่วมตรงไหน)

หมายเลขบันทึก: 468408เขียนเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2011 11:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 22:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ขอเป็นกำลังใจแก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทุกคน....เป็นห่วงค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท