สภามหาวิทยาลัยมหิดล ทดลองหาวิธีการสร้างคุณค่าเพิ่ม (value-add) ให้แก่มหาวิทยาลัย และแก่สังคมไทย โดยการหาความสำเร็จตามปณิธานและพันธกิจของมหาวิทยาลัยมาชื่นชม และหาลู่ทางสนับสนุนส่งเสริมเชิงนโยบายและเชิงระบบ
และเพื่อปลุกใจ ปลุกสำนึก ปลุก synergy ระหว่างคณะ/หน่วยงาน ให้เกิดการรวมพลังทำสิ่งที่ทำยากแต่มีคุณค่าสูงต่อบ้านเมือง
เวลานี้มี 5 มาตรการ
1. การไปเยี่ยมคณะ/หน่วยงาน เดือนละ 2 ครั้ง ในวันอังคารสัปดาห์ที่ 2 และ 4 ของเดือน เป็นการทำงานแบบไม่เป็นทางการ
2. การจัดให้มี lunch talk สั้นๆ 2 เรื่อง ในวันประชุมสภามหาวิทยาลัย (พุธสัปดาห์ที่ 3) เป็นการทำงานแบบไม่เป็นทางการ และเชิญผู้มีผลงานความสำเร็จที่น่าชื่นชมหลากหลายด้าน (ไม่ใช่เฉพาะด้านวิจัย) มานำเสนอ
3. การจัดให้วาระประชุมสภามหาวิทยาลัยทุกครั้งมีวาระเชิงนโยบาย เชิงระบบ ที่มีการนำเสนอภาพรวมของมหาวิทยาลัยมหิดล เปรียบเทียบกับภาพรวมของประเทศ เปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยเด่นๆ ในต่างประเทศ และเปรียบเทียบกับ "คู่แข่ง" ของมหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อให้สภามหาวิทยาลัยกำหนดนโยบาย
4. การลดภาระงานที่เป็นงานประจำ งานเชิงกฎระเบียบของสภามหาวิทยาลัยลงไป เพื่อให้มีเวลาพิจารณาเรื่องเชิงรุก เชิงสร้างสรรค์มากขึ้น
5. มีการตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญๆ เชิงนโยบาย เชิงระบบ แล้วนำเสนอสภามหาวิทยาลัย และมีคณะทำงานช่วยกลั่นกรองงานประจำ หรืองานเชิงกฏระเบียบที่ต้องระมัดระวัง รอบคอบและใช้เวลา
เราเชื่อว่า มหาวิทยาลัยมหิดลมีทรัพยากรบุคคล มีสินทรัพย์ทางปัญญาซ่อนอยู่ เป็นศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้งานเพื่อประโยชน์ของบ้านเมืองอย่างเต็มที่ การปลดปล่อยศักยภาพแฝงนี้ สามารถทำได้ผ่านกิจกรรมหลัก 2 ด้าน คือ ด้านการบริหารจัดการ (management) กับด้านการกำกับดูแล (governance)
สภามหาวิทยาลัยทำหน้าที่นี้ จากมุมของการกำกับดูแล เรากำลังหาวิธีกำกับดูแลแบบเสริมพลัง (empowerment governance)
วิจารณ์ พานิช
22 ส.ค. 49
ไม่มีความเห็น