ขณะที่เดินทางมายังค่ายแห่งนี้วันแรก สายฝนที่โปรยปรายลงมาทักทายเป็นระยะๆ ท้องฟ้าทางด้านกรุงเทพมหานครมองดูมืดครึ้ม ขณะที่ฉันและลูกชายได้เพ่งสายตามไปตามระยะทางเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย วังรีรีสอร์ท จังหวัดนครนายก เมื่อเข้าเขตที่จะถึงรีสร์อทอีกสิบกว่ากิโลเมตรสองข้างเป็นป่าไม้รกครึ้ม มองไปเบื้องหน้าเป็นทิวเขาแนวยาว มองเห็นต้นไม้เขียวขจีตลอดแนว ยอดเขามีหมอกปกคลุมถ้วนหน้า มองเห็นบ้านเรือนสองฝั่งถนนบ้าง บางแห่งเป็นรีสอ์ทสวยงาม วันที่สองของการเข้าค่ายอากาศยามเช้าดีมาก แต่ไม่มีเค้าของเมฆหมอกเลย สองวันสองฤดู วันที่สามฤดูที่สามเข้ามาทักทายแต่เช้าตรู่ ลมหนาวพัดผ่านเข้ามาทำให้รู้สึกได้ ไม่น่าเชื่อว่าสามวันที่เข้าค่าย เป็นสามวันที่สามฤดูเข้ามาทักทาย
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเข้าค่าย คงเป็นธรรมดา รู้สึกคิดถึงยามต้องจากกันทั้งศิษย์และครู และทุกคนส่วนใหญ่ตื่นเต้น เพราะต้องจัดการแสดงกลุ่มละ ๑ ชุด กลุ่มของฉันตกลงกันว่าจะร้องเพลงภาษาอังกฤษก็แล้วกัน เอาแบบง่าย โดยมีเวลาให้กลุ่มละ ๕ นาที วัยผู้ใหญ่อย่างพวกเราไม่ค่อยเท่าไร อยากเห็นการแสดงของเด็กๆว่าจะเต็มที่กันขนาดไหน เดี๋ยวตอนเย็นติดตามดูกันค่ะ
นี่กลุ่มของฉันเองค่ะ...Teacher ยืนถือโน๊ตเพลงให้ (ฮา)
การพูดภาษาอังกฤษ ครูฝรั่งบอกพวกเราว่าไม่ต้องกลัว มันก็เหมือนกับคนต่างชาติที่พูดภาษาไทย จะเห็นว่าเราคนไทยพยายามที่จะเข้าใจสิ่งที่เค้าพูดออกมา เช่นเดียวกันเค้าก็พยายามแล้วเข้าใจสิ่งที่เราพูดออกสื่อออกมา ทำให้บรรยากาศรู้สึกผ่อนคลาย พวกเรารู้สึกสนิทกันและผูกพันกันมากขึ้น รู้สึกใจหายเหมือนกันที่ต้องจากกันแล้ว หลังเสร็จบทเรียนในวันนี้ ตอนแรกฉันคิดว่าจะกลับตอนห้าโมงเย็นในวันนี้ หลังช่วง Free Time เพราะพรุ่งนี้ต้องไปทำงาน คิดอีกทีบ้านเราก็ใกล้แค่นี้เองกลับตอนเช้ามืดก็ได้ เพราะโปรแกรมวันนี้ก็เลิกสี่ทุ่ม เลยบอกกับลูกว่าต้องตั้งนาฬิกาปลุกต้องตื่นกันแต่เช้า และเดินทางในเวลาตีห้า
เวลาแห่งการแสดงมาถึง ส่วนใหญ่ก็จะออกมาในรูปแบบเพลงภาษาอังกฤษประกอบลีลา โดยครูประจำกลุ่มก็จะออกมายืนถือบทเพลงให้ดูกัน เมื่อกลุ่มหนึ่งเห็นว่าอีกกลุ่มทำได้ก็ทำแบบอย่างกัน เป็นอันว่าเกือบทุกกลุ่มจะต้องมีครูประจำกลุ่มออกมาถือบทเพลงให้ดู (ฮา) บางกลุ่มก็แสดงละคร ก็เป็นที่สนุกสนานกัน ถึงตอนสุดท้ายครูอังฝรั่งทุกคนก็มีบทเพลงมอบให้กับพวกเรา
แบบว่าแสดงเสร็จแล้ว...สบายใจคร๊าบ
แม้วันนี้จะเป็นวันสุดท้าย แต่การเรียนการสอนของพวกเราก็ยังดำเนินไปอย่างปกติ ก็เลยนำ Idioms with the Word As and Meanings. มาฝากกันค่ะ จะเห็นว่า เค้ามักเปรียบเทียบหลายอย่างกับสัตว์ อย่างเช่น
as busy as a bee : Maxine is always working. Either at home or at the office. She’s as busy as a bee.
as fit as a fiddle : Bart trains two hours every day. At sixty- eight, he’s as fit as a fiddle.
as good gold : Baby-sitting for my little nephew Elrod was no trouble at all. In fact, he was as good as gold.
as happy as a lark : When Marcus got engaged to be married, he was as happy as a lark.
as hard as nails : The teacher is as hard as nails. He’s strict and accepts no excuses from students who do not do their work.
as hungry as bear : Every time I exercise, I’m as hungry as bear afterward, and I eat a big snack.
as plain as day : Every week they spend more than they earn. It’s as plain as day that they need to spend less and go on a budget.
as regular as clockwork : Dylan catches the same bus at the same time every day. He’s as regular as clockwork.
as sick as a dog : After I ate that bad shrimp, I was as sick as a dog.
as stubborn as a mule : Maisie is as stubborn as a mule. She doesn’t like broccoli and she won’t eat it even if you pay her.
as weak as a kitten : After she was ill in bed for three weeks, Penny was as weak as a kitten.
October 20, 2011