วันลอยกระทง


การลอยกระทงเป็นการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น

          วันนี้ผู้เขียนเข้าสอนในชั้น ป.5  มีนักเรียนชวนสนทนา ก่อนเรียน (ไม่ต้องคิดเทคนิคการนำเข้าสู่บทเรียน  นักเรียนคิดให้เสร็จสรรพ)

      มนิสา : วันพรุ่งนี้แล้วเป็นวันลอยกระทง เขาลอยเพื่ออะไรค่ะคุณครู

      ครู    :  การลอยกระทงเป็นการอนุรักษ์ประเพณีของคนไทย  ในชุมชนของเราก็มีการยึดถือประพณีนี้ต่อๆกันมา  (ยังพูดไม่จบ.....)

      คคนะ  : คุณครูครับบ้านผมแม่จะทำกระทงขายด้วย  แม่ว่าเขานิยมทำกระทงกับใบตองและขนมปัง  ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ครับ

      ครู   ; การทำกระทงด้วยขนมปัง  กาบพลับพลึง  เปลือกมะพร้าว และวัสดุธรรมชาติ  เพราะเป็นวัสดุที่ย่อยสลายได้ง่ายและไม่เป็นพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมจ๊ะ

     ปริวรรต  ; เราทำกระทงกันด้วยดีไหมครับ  แล้วไปลอยที่คลองหลังโรงเรียนนะครับ

   ครู :   ถ้างั้นวันนี้เรามาเรียนความเป็นมาของประเพณีลอยกระทงกันก่อน  แล้วนักเรียนจัดกลุ่ม  พรุ่งนี้  เราจะทำกระทงไปลอยที่คลองหลังโรงเรียนด้วยกันค่ะ

   นักเรียน  ครับ/ค่ะ

  ครู  :  ความเป็นมาของประเพณี  (เข้าเรื่องเลยค่ะ)

        สมัยสุโขทัย โดยในรัชสมัยพ่อขุนรามคำแหง เรียกประเพณีลอยกระทงนี้ว่า "พิธีจองเปรียญ" หรือ "การลอยพระประทีป" และมีหลักฐานจากศิลาจารึกหลักที่ 1 กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟว่าเป็นงานรื่นเริงที่ใหญ่ที่สุดของกรุงสุโขทัย ทำให้เชื่อกันว่างานดังกล่าวน่าจะเป็นงานลอยกระทงอย่างแน่นอน

          ในสมัยก่อนนั้นพิธีลอยกระทงจะเป็นการลอยโคม โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงสันนิษฐานว่า พิธีลอยกระทงเป็นพิธีของพราหมณ์ จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า 3 องค์ คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ต่อมาได้นำพระพุทธศาสนาเข้าไปเกี่ยวข้อง จึงให้มีการชักโคม เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และลอยโคมเพื่อบูชารอยพระบาทของพระพุทธเจ้า

          ก่อนที่นางนพมาศ หรือ ท้าวศรีจุฬาลักษณ์ สนมเอกของพระร่วงจะคิดค้นประดิษฐ์กระทงดอกบัวขึ้นเป็นคนแรกแทนการลอยโคม ดังปรากฎในหนังสือนางนพมาศที่ว่า

          "ครั้นวันเพ็ญเดือน 12 ข้าน้อยได้กระทำโคมลอย คิดตกแต่งให้งามประหลาดกว่าโคมสนมกำนัลทั้งปวงจึงเลือกผกาเกษรสีต่าง ๆ มาประดับเป็นรูปกระมุทกลีบบานรับแสงจันทร์ใหญ่ประมาณเท่ากงระแทะ ล้วนแต่พรรณดอกไม้ซ้อนสีสลับให้ป็นลวดลาย..."

          เมื่อสมเด็จพระร่วงเจ้าได้เสด็จฯ ทางชลมารค ทอดพระเนตรกระทงของนางนพมาศก็ทรงพอพระราชหฤทัย จึงโปรดให้ถือเป็นเยี่ยงอย่าง และให้จัดประเพณีลอยกระทงขึ้นเป็นประจำทุกปี โดยให้ใช้กระทงดอกบัวแทนโคมลอย ดังพระราชดำรัสที่ว่า "ตั้งแต่นี้สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศถึงกาลกำหนดนักขัตตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอยเป็นรูปดอกบัว อุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมมทานทีตราบเท่ากัลปาวสาน" พิธีลอยกระทงจึงเปลี่ยนรูปแบบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

          ประเพณีลอยกระทงสืบต่อกันเรื่อยมา จนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น สมัยรัชกาลที่ 1 ถึง รัชกาลที่ 3 พระบรมวงศานุวงศ์ตลอดจนขุนนางนิยมประดิษฐ์กระทงใหญ่เพื่อประกวดประชันกัน ซึ่งต้องใช้แรงคนและเงินจำนวนมาก พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 4 ทรงเห็นว่าเป็นการสิ้นเปลือง จึงโปรดให้ยกเลิกการประดิษฐ์กระทงใหญ่แข่งขัน และโปรดให้พระบรมวงศานุวงศ์ทำเรือลอยประทีปถวายองค์ละลำแทนกระทงใหญ่ และเรียกชื่อว่า "เรือลอยประทีป" ต่อมาในรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 ได้ทรงฟื้นฟูพระราชพิธีนี้ขึ้นมาอีกครั้ง ปัจจุบันการลอยพระประทีปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงกระทำเป็นการส่วนพระองค์ตามพระราชอัธยาศัย

     เหตุผลและความเชื่อของการลอยกระทง

          สาเหตุที่มีประเพณีลอยกระทงขึ้นนั้น เกิดจากความเชื่อหลาย ๆ ประการของแต่ละท้องที่ ได้แก่ 

          1.เพื่อแสดงความสำนึกถึงบุญคุณของแม่น้ำที่ให้เราได้อาศัยน้ำกิน น้ำใช้ ตลอดจนเป็นการขอขมาต่อพระแม่คงคา ที่ได้ทิ้งสิ่งปฏิกูลต่าง ๆ ลงไปในน้ำ อันเป็นสาเหตุให้แหล่งน้ำไม่สะอาด

          2.เพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที เมื่อคราวที่พระพุทธเจ้าเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ และได้ทรงประทับรอยพระบาทไว้บนหาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่าแม่น้ำเนรพุทท

          3.เพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์ เพราะการลอยกระทงเปรียบเหมือนการลอยความทุกข์ ความโศกเศร้า โรคภัยไข้เจ็บ และสิ่งไม่ดีต่าง ๆ ให้ลอยตามแม่น้ำไปกับกระทง คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์

          4.เพื่อเป็นการบูชาพระอุปคุต ที่ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล โดยมีตำนานเล่าว่าพระอุปคุตเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถปราบพญามารได้ 

          5.เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมของไทยไว้มิให้สูญหายไปตามกาลเวลา และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ

          6.เพื่อความบันเทิงเริงใจ เนื่องจากการลอยกระทงเป็นการนัดพบปะสังสรรค์กันในหมู่ผู้ไปร่วมงาน

          7.เพื่อส่งเสริมงานฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ เพราะเมื่อมีเทศกาลลอยกระทง มักจะมีการประกวดกระทงแข่งกัน ทำให้ผู้เข้าร่วมได้เกิดความคิดแปลกใหม่ และยังรักษาภูมิปัญหาพื้นบ้านไว้อีกด้วย

ชนิตา ถาม คุณครูขาก่อนเราจะลอยเราต้องทำอย่างไรก่อนค่ะ

           ก่อนทำการลอยก็จะอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนาขอให้ประสบความสำเร็จ หรือเสี่ยงทายในสิ่งต่าง ๆ จากนั้นจึงปล่อยกระทงให้ลอยไปตามสายน้ำ และในกระทงมักนิยม ตัดปลายผม  เล็บมือ และใส่เหรียญบาท  เหรียญ 5 บาท  หรือ เหรียญ 10 บาทลงไปด้วย เพราะเชื่อกันว่าเป็นการบูชาพระแม่คงคา

ภาพตัวอย่างผลงานจากการเรียนของนักเรียน (เพียงบางส่วน)

       

เวลา 19.00-22.30 น.  ผู้เขียนได้พานักเรียนไปร่วมแสดงที่งานวันลอยกระทงที่องค์การบริหารส่วนตำบลจัดที่วัดวังไทร อำเภอลานสกา  จังหวัดนครศรีธรรมราช

(เป็นการวัดผล-ประเมินผลการเรียนตามสภาพจริง)

เพลงประจำเทศกาลลอยกระทง

          วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง 
          เราทั้งหลายชายหญิง 
          สนุกกันจริง วันลอยกระทง 
          ลอย ลอยกระทง ลอย ลอยกระทง 
          ลอยกระทงกันแล้ว 
          ขอเชิญน้องแก้วออกมารำวง 
          รำวงวันลอยกระทง รำวงวันลอยกระทง 
          บุญจะส่งให้เราสุขใจ บุญจะส่งให้เราสุขใจ

หมายเลขบันทึก: 467833เขียนเมื่อ 10 พฤศจิกายน 2011 18:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 13:57 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

ขอบคุณมากสำหรับภาพและเรื่องเล่าที่น่าสนใจแห่งเทศกาลลอยกระทงค่ะ เสียดายที่ยามน้ำท่วมกรุงปีนี้ บรรยากาศเงียบเหงามากๆค่ะ

สวัสดีค่ะพี่ใหญ่

  • ที่กรุงเทพฯน้ำท่วม   แต่ที่บ้านเราน้ำไม่เต็มตลิ่ง 
  • การลอยกระทงปีนี้  จึงไม่ค่อยมีน้ำพากระทงเราลอยไปไกลๆเหมือนทุกปี
  • ขอบคุณพี่ใหญ่ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณครู

ชอบมากค่ะ นึกถึงสมัยเด็ก ใช้ต้นโสนค่ะ

  สวัสดีค่ะ

  • คิดตอนเด็กๆแล้วสนุกค่ะ  การได้ไปเที่ยวงานลอยกระทงที่เขาจัดที่วัดใกล้บ้านมีหนังฉายกลางแปลง   รำวงเวียนครก ฯลฯ  เวลาเที่ยงคืนก็ไปที่ท่าน้ำลอยกระทงพร้อมๆกัน 
  • สนุกสนานมากๆค่ะ
  • เห็นนภาพเด็กๆๆลอยกระทง
  • น้ำใสแจ๋วเลยครับ
  • ชอบมากๆๆ

   น้ำใสไหลเย็น  แต่ไม่เห็นตัวปลาแล้วค่ะ  คนจับไปหมดแล้ว

          ลอยกระทงปีนี้มีน้ำน้อยมาก  เพราะน้องน้ำมัวไปหลงเมืองกรุงฯอยู่ค่ะ

          แต่เด็กๆก็สนุกตามประสา  /ขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่พี่สอนมาถึงนี่เพราะว่าคิดถึงบ้านโกฯ และมาหาเรื่องราวดีๆแบบนี้แหละค่ะ สุดยอดคุณครูมืออาชีพนะคะบูรณาการตั้งมากมาย เด็กๆสนุกสนานนะคะ แล้วจะแว้บมาอีกค่ะ บายๆ

  ขอบคุณน้องตูมที่แว๊บมาให้กำลังใจค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท