ใจกับความคิด
ใจจะไม่สบายเมื่อมีอารมณ์เครียด ใจจะอึดอัดเมื่ออารมณ์รุ่มร้อน ใจจะสั่นไหวเมื่ออยู่ในอารมณ์น่าสะพรึงกลัว แทบทุกคนในโลกนี้ต่างไม่เคยคิดว่าใจอยู่กับตัวและไม่ค่อยเชื่อว่ามี "ใจ"
ใจกับคว่มคิดนันแตกต่างกัน ดังที่รู้กันว่าภาพที่เกิดในใจนั้นเกิดจาหการนึก เช่น นึกถึงเตียงนอน นึกถึงดอกกุหลาบสีชมพู นึกถึงตัวเองเดินเล่นอยู่ในสวน นึกถึงเสียงน้ำทะเลกระทบกับหาดทราย นึกถึงฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวนับหมื่นดวง นึกถึงพระจันทร์วันเพ็ญ ในขณะที่ความคิดถ้าเกิดขึ้นจะต้องใช้กำลัง เช่น คิดว่าลูกของคุณกำลังทำอะไรอยู่ ทำให้เกิดความเป็นห่วงตามภาพที่คิดไป การคิดเลข การคิดถึงการงาน การคิดนั้นเป็นเรื่องที่ต้องใช้กำลัง ใช้ความทรงจำ ความคิดเป็นเรื่องของการใช้สมองเป็นการทำงานของสมอง ในขณะที่การนึกเป็นเรื่องของหัวใจ ใช้ความเคยชิน การนึกจึงไม่ต้องใช้กำลัง การคิดมักทำให้เหนื่อย แต่การนึกเป็นไปได้เรื่อยๆไม่เหนื่อยแต่อย่างใด นอกเสียจากจะไปนึกถึงต้นเหตุแห่งความเสียใจเท่านั้น ฉะนั้นการนึกจึงมีผลต่ออารมณ์และใจ ถ้าอยากจะให้อารมณ์ดีก็นึกถึงสิ่งที่ตนเองเคารพบูชา หรือของสวยๆงามๆ เช่น ดอกกุหลาบแรกแย้มสีชมพูระเรื่อ ในตอนเช้ามีน้ำค้างจับอยู่เป็นละออง ทำให้เวลาน฿กถึงเกิดความสบาย จนรู้สึกประหนึ่งว่าได้กลิ่นหอมอ่อนๆของกุหลาบดอกนี้นอีกด้วย การทำสมาธิจึงเริ่มต้นที่การนึก ไม่มีเรื่องของการใช้ความคิดเข้ามาเกี่ยวข้อง
ดวงใจ ไม่ใช่ หัวใจ มิฉะนั้นผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจก็จะต้องเป็นคนจิตใจพิการไปด้วย ซึ่งไม่ใช่เลย เพระถึงแม้จะป่วยเป็นโรคหัวใจ คนบางคนนั้นก็ยีงเป็นคนจิตใจงดงามอยู่เสมอ ตรงกันข้ามคนที่จิตใจไม่ดี ใจร้าย ใจดำ ทำไมจึงยังมีการทำงานของหัวใจที่ปกติ หรือหัวใจแข็งแรงเสียด้วยซ้ำ หัวใจกับดวงใจจึงเป็นคนละเรื่องหัวใจเป็นอวัยวะของร่างกาย ทำหน้าที่สูบฉีดโลหิตไปหล่อเลี้ยงร่างกาย แต่ดวงใจก็คือ "ใจ" ตั้งอยู่กลางกายของเรา ใจที่บริสุทธิ์สามารถยืดเวลาการทำงานของหัวใจที่อ่อนแอออกไปได้ เพราะความบริสุทธิ์ของจิตใจทำให้เกิดกระแสความสบาย ไม่ทำให้หัวใจต้องทำงานหนักนั้นเอง
ไม่มีความเห็น