จากวิกฤติน้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ ถือว่าเป็นคำตอบได้ดีว่า โลกกำลังมีภาวะขาดความสมดุล ร้อนก็ร้อนมาก แล้งก็แล้งมาก ฝนก็ตกมากอีก ความมากที่ว่านี้ก็การเกินความพอดี จะโทษโลกว่าฟุ่มเฟือย ไม่พอเพียงก็คงไม่ถูกต้องมากนัก สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันมาจากการกระทำของมนุษย์ทั้งสิ้น
เมื่อเกิดน้ำท่วมคราใด ทุกครั้งดิฉันรำลึกถึงพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ พระผู้ซึ่งเป็นที่พึ่งพิงของปวงชนชาวไทย พระองค์ทรงห่วงใยประชาชนของพระองค์เสมอมา
หลายวันที่ผ่านมา คุณสมเกียรติ อ่อนวิมล ได้ post
พระเจ้าอยู่หัวทรงป้องกันน้ำท่วม 2538 ไว้ใน Facebook
ดิฉันดูฟังแล้ว ฟังอีก ผู้อ่านหลายๆท่านอาจเคยดูและฟังแล้ว พระมหากรุณาธิคุณ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงงาน ทุกวันเวลาและมีพระปรีชายิ่งต่อประเทศไทยเรา และต่อคนไทยทุกคน
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
มนุษย์ตัดไม้ทำลายป่า ทำให้ระบบนิเวศน์ขาดความสมดุล ป่าคือต้นเหตุของความชุ่มชื่น ความชุ่มชื่นเป็นสาเหตุทำให้ฝนตก เมื่อฝนตกลงมาป่าจะทำหน้าที่ชะลอการไหลของน้ำโดยธรรมชาติ จึงกล่าวได้ว่า การปลูกป่าคือภาระหน้าที่ของมนุษย์ทุกคน
ในประเทศไทยได้มีการรณรงค์ให้มีการปลูกป่าถวายในหลวง ก็ดูว่าอนาคตอันไกล้นี้ ป่าในประเทศไทยน่าจะดีขึ้น
ในส่วนของดิฉันเอง มีแนวคิดเรื่องการปลูกป่ามานานมาก โดยนิสัยเป็นคนชอบต้นไม้อยู่แล้ว จึงออกแบบสวนเกษตรทฤษฎีใหม่ ให้เป็นสวนป่าไปด้วย โดยน้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมาเป็นหลัก
สวนเกษตรทฤษฎีใหม่ของดิฉันจึงออกแบบให้บริเวณโดยรอบสวน ปลูกไม้ป่านานาชนิด ตั้งแต่ต้นสักทอง ตะแบก ฯลฯ เรียกได้ว่าในอนาคตถ้ามองจากภายนอก คิดว่านั้นคือผืนป่า แต่ภายในคือสวนไม้ผลนานาชนิดเช่นกัน มาถึงวันนี้จำแทบไม่ได้ว่า ในสวนมีไม้ผลชนิดใดบ้าง
การปลูกป่าของดิฉันเป็นการปลูกป่าเพื่อสนองแนวพระราชดำรัสของในหลวง ซึ่งชัดเจนว่า แนวทางของพระองค์นั้นจะยังประโยชน์ให้กับส่วนรวมแน่นอน ลองคิดเล่นๆหากประเทศไทยอีก 5-10 ปีข้างหน้า ไม้ป่าที่ปลูกกันวันนี้เติบโตมา เราจะเห็นพื้นป่าอันอุดมสมบูรณ์ปรกคลุมไปทั่ว ความร่มเย็นร่มรื่นจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย วิกฤติต่างก็จะลดไปด้วย
พันธุ์ไม้ป่าที่ปลูกรอบสวน