ได้เล่าเรื่องการอบรมการใช้งานเข้าสู่ตอนที่ 3 แล้วนะค่ะ ดิฉันขอย้อนไปย่อหน้าสุดท้ายของตอนที่ 2 ที่เล่าไว้ว่า
............
จากกระบวนการฝึกการถ่ายทอดเรื่องเล่าด้วยการเขียน ก็ได้ตอบโจทย์กรอบแนวคิดในการอบรมได้ 2 กรอบแล้ว นั่นคือ
เรื่องเล่า : เกิดจากสิ่งที่เรา มองเห็น สังเกต หรือคิด
สื่อสารความคิด : นำเสนอด้วยการเขียนผ่านตัวหนังสือ หรือภาพ
ซึ่งต่อจากนี้ก็จะเป็นการเชื่อมโยงไปสู่การนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ นั่นคือจะเข้าสู่การใช้งาน share.psu.ac.th แล้วค่ะ
จากนั้น ดิฉันก็ผู้เข้าร่วมอบรมทุกท่านเข้าสู่กรอบแนวคิดที่ 3 คือ เมื่อเรามีเรื่องเล่าอยู่ในตัวแล้ว ก็ต้องเข้าสู่การทำ knowledge management ต่อเลยค่ะ โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือ
จัดเก็บ+แบ่งปัน+แลกเปลี่ยน : เราใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดเก็บ แบ่งปัน และแลกเปลี่ยน นั่นคือระบบ share.psu.ac.th นั่นเอง
การอบรมในช่วงนี้ ต้องเน้นย้ำถึงความสำคัญของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ นั่นคือ เราจะใช้ share.psu.ac.th ทำอะไร จัดเก็บ แบ่งปัน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้นั่นเอง ซึ่งก่อนจะเข้าสู่การลงมือใช้งานจริง ต้องมุ่งเน้นการทำความเข้าใจภาพรวมของระบบก่อนค่ะ คือ เข้าใจที่มาของระบบ โครงสร้างข้อมูล การจัดวางข้อมูล และเมนูสำหรับการจัดการส่วนต่างๆ
โดยในการอบรมทั้ง 2 ครั้ง มีทั้งผู้ที่เป็นสมาชิกและยังไม่สมัครเป็นสมาชิก ดังนั้นการอธิบายถึงที่มาของระบบ และข้อมูสำหรับทำความเข้าใจภาพรวมของระบบ ได้แก่ โครงสร้างข้อมูล การจัดวางข้อมูล และเมนูสำหรับการจัดการส่วนต่างๆ และเชื่อมโยงไปสู่ คุณลักษณะสำคัญที่ตอบโจทย์การจัดเก็บ แบ่งปัน และแลกเปลี่ยนเรียนรู้
อีกทั้งก็ไม่ลืมที่จะนำเสนอจุดเด่นของระบบ การเปรียบเทียบความสามารถของระบบเดิมและระบบใหม่ และที่จะลืมไม่ได้เลยคือ สำหรับผู้ใช้งานเก่านั้น เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงระบบใหม่ สิ่งสำคัญคือ ต้องคำนึงถึงความเคยชินระบบเดิม ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อการยอมรับระบบใหม่ ดังนั้นการให้ข้อมูลเกี่ยวกับความสามารถของระบบใหม่ที่ตอบสนองการใช้งาน มากกว่าจึงจำเป็นต้องสื่อสารบอกแก่ผู้ใช้งานค่ะ
นอกจากนี้แล้ว สำหรับดิฉันซึ่งอยู่ในฐานะผู้ดูแลชุมชนออนไลน์ เคยพบปัญหาในการใช้งาน จึงได้แนะนำเกี่ยวกับการใช้งานอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรมด้วยค่ะ
เมื่อแนะนำข้อมูลข้างต้นเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มเข้าสู่การอธิบายขั้นตอนการใช้งานในส่วนต่างๆ และผู้ร่วมอบรมก็จะได้ลองใช้งานจริง ด้วยการปฏิบัติจริงค่ะ
โดยได้มีการฝึกการใช้งานส่วนต่างๆ เช่น ระบบลงทะเบียนสำหรับสมาชิกใหม่ การจัดการบล็อก การเพิ่มบันทึก การจัดการไฟล์ การจัดการประวัติ การร่วมแสดงความคิดเห็น เป็นต้นค่ะ
เมื่อเข้าใจการใช้งานตามกรอบแนวคิดที่ 3 แล้ว ก็เข้าสู่ขั้นสุดท้าย นั่นคือ
กระจาย : เครื่องมือในการกระจายเรื่องเล่าของเราก็คือ สื่อ Social Media ต่าง เช่น twitter, facebook เป็นต้น
เนื่องจากระบบใหม่ สามารถเชื่อมโยงกับระบบ social media ต่างๆ ได้แก่ Twitter, Facebook, Google Plus ดังนั้น feature การทำงานที่จะทำให้เรื่องเล่าที่บันทึกไว้ในระบบสามารถเผยแพร่ต่อไปยังกลุ่มเพื่อนของเราใน social media อื่นๆ ทำได้ง่ายและสะดวก
การเรียนรู้วิธีการกระจายข้อมูลจากเว็บต้นทางจึงสำคัญเช่นกันค่ะ เพราะนี่คือช่องทางที่จะเปิดโอกาสให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้วยการอาศัยช่องทางของเว็บไซต์เหล่านี้ ในการเชื่อมโยงมาหาเรื่องเล่าของเรา และยังเป็นการประชาสัมพันธ์ไปในตัวด้วย ดังนั้นความสามารถนี้ ไม่รู้ไม่ได้เลยนะค่ะ
โดยกลุ่มผู้ร่วมอบรมบางท่าน มุ่งเน้นการเข้ามาอบรมเพื่อการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานด้วย ดังนั้นเพียงประยุกต์ใช้ความสามารถนี้ให้เป็นประโยชน์ ก็จะช่วยให้เกิดประสิทธิผลต่อการต่อยอดความรู้ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และการประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วค่ะ
จากเรื่องเล่าประสบการณ์การอบรมการใช้งานทั้ง 3 บันทึกรวมบันทึกนี้ ก็ทำให้ดิฉันได้เรียนรู้การออกแบบกระบวนการเรียนรู้ให้แก่ผู้เข้าร่วมอบรม ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่อีกครั้งที่ได้รับ ซึ่งรอบนี้ปรับกระบวนท่าการอบรมใหม่ที่แตกต่างไปจากเดิมค่ะ จึงทำให้ได้เรียนรู้มากยิ่งขึ้นเยอะเลยทีเดียวค่ะ
เช่น ต้องใช้สติกับการอบรมค่อนข้างมาก ต้องคิดตลอดเวลา ต้องปรับกระบวนการให้เหมาะสมกับสถานการณ์จริง เป็นต้น
และต้องบอกว่าสนุกกับการได้มีโอกาสให้ผลักดันให้บุคลากรในองค์กรใช้งานบล็อกเพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งการอบรมเพียงครั้งเดียวอาจจะช่วยจุดประกายได้ แต่หลังจากอบรมไปแล้ว คงต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนจากองค์กรที่จะส่งเสริมให้เกิดการใช้บล็อกต่อไปค่ะ
หากท่านใดมีประสบการณ์เกี่ยวกับอบรมการใช้งาน เข้ามาแลกเปลี่ยนกันได้เลยนะค่ะ
เราจะกระจายไปกี่ทอดเนี่ย ;)...
3 ช่องทางหลักก่อนค่ะ อาจารย์
twitter, facebook, google plus ^_^
นิสิตที่ผมสอนเทอมที่แล้ว เขียนบล็อกทุกคนครับ ^^ ฝึกการสรุป และการสื่อสาร ปรากฏว่า เด็กๆ เข้าใจกว่าการเรียนเฉยๆ นิสิต 50 คน คะแนนอิงเกณ์ นิสิตได้เอ ไปถึง 27 คน ^^