ชีวิตที่พอเพียง : 1420d. ประเมินว่ามีหวังรอด น้ำน่าจะไม่ท่วมบ้าน
วันที่ ๒๙ ต.ค.๕๔ ผมตื่นตีสาม ตรวจสอบระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากเกร็ดอยู่ที่ ๓.๐ เมตร นี่คือช่วงที่น้ำลงต่ำสุด ประเมินจาก ThaiFlood Reporter สถานการณ์ที่ปากเกร็ดปกติ โดยเมื่อคืนตอนสองทุ่ม ที่ป้านผมมีฝนตกหนักปานกลาง ข่าวที่ผมชอบที่สุดคือข่าวปรับสถานการณ์ของบริษัททีมเมื่อวันที่ ๒๘ อ่านได้ที่นี่ สรุปได้ว่า สถานการณ์คับขันมากขึ้น บ้านผมอยู่ในเขตเสี่ยงค่อนข้างมาก ในขณะที่เขตดอนเมือง ที่อยู่ติดกันเสี่ยงสูงสุด และเขตบางเขนน้ำก็ท่วมบางส่วนดังข่าวนี้ เป็นพื้นที่ช่วยการประเมินสถานการณ์ การเปลี่ยนแปลงของผม รวมทั้งข้อมูลใน thaiflood.com ก็ช่วยการประเมินสถานการณ์ได้ดี
มีข่าวเรื่องนักการเมืองเอาของบริจาคไปแจก โดยอ้างว่าเป็นของตนเอง ดังข่าวนี้ ความโปร่งใส เรื่องเงินและของบริจาคช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมจึงเป็นเรื่องที่แสดงความบริสุทธิ์ หรือความขี้โกงของผู้คน ผมจึงขอยกย่อง มธ. ที่ทำตัวอย่างที่ดีดังข่าวนี้
เมื่อค่ำวานนี้ผมโทรศัพท์ไปหาตั้ม ลูกชาย พบว่าหลบน้ำไปอยู่สวนโมกข์แล้ว และกะอยู่ยาวจนน้ำลด เขาบอกว่าน่าจะเป็นเดือน เพราะแถวบ้านเขาที่บางขุนนนท์น้ำท่วมบ้านขึ้นมาที่ชั้นล่าง ๒ วันมาแล้ว สูงประมาณ ๓๐ ซ.ม. ที่ถนนซอย (ตำรวจดับเพลิง) น้ำสูงถึงเข่า ตั้มแนะนำให้ผมไปอยู่ต่างจังหวัด ว่าจะสบายใจกว่ามาก เป็นประเด็นที่ผมจะต้องประเมินสถานการณ์ให้รอบคอบ โดยต้องจับตาช่วง ๙.๐๙ น. ตามข่าวระดับน้ำวันนี้ และอีกข่าวหนึ่งที่จะช่วยการประเมินสถานการณ์คือข่าวประกาศปิดถนน ซึ่งเมื่อเย็นวาน ปิด ๒๑ สาย
ดูจากแผนที่ดาวเทียมนี้ และข่าวนี้ บ้านผมก็อยู่ส่วนบนสุดของพื้นที่ที่น้ำยังไม่ท่วม โดยน้ำโอบไปทาง ทิศตะวันตกมากกว่าทางตะวันออก และ ศปภ. ออกข่าว ทำนายสถานการณ์ ๓ แบบ ให้เห็นภาพใหญ่ว่าอย่างไร เสีย ก็หนีไม่พ้นสถานการณ์ยืดเยื้อ ๑๕ - ๓๐ วันสำหรับกรุงเทพชั้นใน และฝั่งตะวันออกและตะวันตกซึ่งเป็น พื้นที่รับน้ำ อาจยาวไปถึง ๔๕ วัน
ข่าวนายกรัฐมนตรีเจรจากับชาวบ้านสำเร็จในการขุดถนนรังสิตเปิดทางระบายน้ำบริเวณคลอง ๙ ไปออกคลองหกวา ข่าวนี้ ช่วยให้เบาใจว่าน้ำจะระบายออกไปทางตะวันออกคล่องขึ้น โอกาสที่บริเวณบ้านผม จะรอดก็มากขึ้น นี่คือข่าวที่ช่วยการประเมินสถานการณ์ไปในทางดี ผมคิดว่าชาวบ้านที่ถูกผลกระทบเกิดการ สูญเสียจากการเจาะถนน ต้องได้รับการชดเชยอย่างเหมาะสม
พอฟ้าสาง ๕.๓๐ น. ผมออกไปวิ่งในหมู่บ้านครึ่งชั่วโมงเรียกเหงื่อเพื่อขับเกลือ ให้อยู่กับโรคความดัน โลหิตสูงได้ แล้วขี่จักรยานออกไปดูลาดเลาน้ำที่วัดหงษ์ และที่ถนนสุขาประชาสรรค์ ๒ ทางไปวัดบางพัง ไปเห็นร่องรอยการทำงานป้องกันน้ำท่วม ที่คอยเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำของเทศบาลนครปากเกร็ด แล้วชื่นใจและชื่นชม ในความเอาใจใส่ขยันขันแข็ง และเกิดความหวังว่าน่าจะเอาอยู่ในช่วง ๓ วันอันตราย
๓ วันต่อจากนี้ไม่ต้องทำงาน จึงมีเวลาตรวจสอบข่าวละเอียดขึ้น และได้ความอ่อนใจกับการให้ข่าว แบบสับสนไร้เอกภาพของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการขุดเจาะถนนให้น้ำไหลออกไปได้สะดวกขึ้น เดี๋ยวว่าเจาะ พอมีฝ่ายรัฐบาลอีกคนหนึ่งมาบอกว่าไม่จำเป็น นายกก็กลับคำใหม่ ว่าไม่จำเป็น ผมเห็นวิกฤติภาวะผู้นำของฝ่าย รัฐบาล มากับวิกฤติน้ำท่วม
ข่าวจากนักข่าวเก่าของบางกอกโพสต์จากการสำรวจเมื่อเช้า อยู่ที่นี่
เนื่องจากข่าวบอกว่าน้ำขึ้นสูงสุดที่กรุงเทพเวลา ๙.๐๙ น. ผมจึงขับรถไปดูที่วัดบางพังในช่วงเวลานั้น ไปเห็นการเตรียมตัวป้องกันน้ำ “กระฉอก” เต็มที่ ยังมีกระสอบทรายและทรายรอบรรจุกระสอบอีกกองใหญ่ มีกล่องรับบริจาคค่าน้ำและอาหารแก่อาสาสมัคร ผมรีบรี่ไปหย่อนเงินด้วยความเต็มใจ ยิ่งได้พบชาวบ้านที่ สาวน้อยกับผมเคย อุดหนุนซื้อผลไม้จากสวนมากว่า ๑๐ ปี ก็เข้าไปทักทาย เขาบอกว่าเชื่อว่าปีนี้บ้านของเขา น้ำจะไม่ท่วม เพราะการป้องกันดีมาก ปีที่แล้วบ้านของเขาท่วม ผมอุดหนุนกล้วยหอม ๑ หวี ถามราคา เขาลดให้เหลือ ๒๕ บาท ผมจึงขอต่อเป็น ๓๐ บาท ถือว่าอุดหนุนกัน และยังซื้อมะละกอสุกอีก ๑ ลูกด้วย ผมชอบมะละกอ
นอกจากข่าวดีนี้ “เลขา” ยัง อีเมล์มาบอกวิธีตรวจสอบสถานการณ์ บอก ๓ จุดอันตรายที่หากเกิด ให้ผมย้ายออกจากบ้านทันที เมื่อ
ตั้งแต่วานซืน ผมเริ่มอ่านหนังสือ The Spirit Level :Why Equality is Better for Everyone พอได้อ่าน ตัวอย่างที่เขาให้อ่านฟรี ก็วางไม่ลง และต้องยอมเสียเงินซื้อมาอ่านทั้งเล่ม เป็นหนังสือที่ชี้ให้เห็นการเดินทางผิด ของสังคมโลก ใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยาชี้ให้เห็นว่าสุขภาวะของมนุษย์ลดลง หากความเป็นธรรมเท่าเทียมกัน ในสังคมลดลง ผมตีความว่าเป็นหนังสือที่ชี้ว่า ประเทศพัฒนาแล้วกำลังใช้มิจฉาทิฐิในการขับเคลื่อนพัฒนาการ ของประเทศและของโลก ข้อสรุปนี้ก่อความเห็นขัดแย้งจนมีคนเขียนหนังสือขึ้นโต้แย้ง ชื่อ The Spirit Level Delusion : Fact-checking the Left’s New Theory of Everything การโต้แย้งกันแบบใช้ข้อมูลหลักฐานอย่างนี้ ผมชอบมาก
วันนี้ได้โทรศัพท์คุยกับอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ว่าสถานการณ์ที่ศาลายาคับขันมาก แม้ตอนนี้กั้น ไม่ให้น้ำเข้าภายในวิทยาเขตได้ แต่คงจะป้องกันไว้ได้ไม่ตลอด เพราะน้ำถูกผันเข้ามามาก และไหลออกไปทาง แม่น้ำท่าจีนได้ไม่สะดวก ได้มีการย้ายทรัพย์สินที่อาจเสียหายจากน้ำท่วมไปไว้ที่กาญจนบุรี ได้ทราบว่ามีการ เตรียมความร่วมมือกับ สวทช. ในการใช้ วิชาการและเทคโนโลยีที่ ม. มหิดลมี ไปช่วยฟื้นฟูหลังน้ำท่วม อย่างหนึ่ง คือการบำบัดน้ำเสียด้วยแทคทีเรีย เบซิลลัส คาดการณ์ว่าสถานการณ์น่าจะกลับมาปกติในเดือนธันวาคม
การทดสอบใหญ่ ด้วยระดับน้ำที่สูงจน “กระฉอก” เอ่อล้นตลิ่งขึ้นมาตามถนนใกล้ๆ แม่น้ำเจ้าพระยา ทั่วกรุง แล้วเมื่อระดับน้ำลด ถนนก็แห้ง ติดต่อกัน ๒ วันแล้ว และ ๓ จุดอ่อนที่ “เลขา” บอกก็ยังรับมือได้ดี ทำให้ผมคลายใจมาก ว่าโอกาสที่บ้านผมจะรอดจากน้ำท่วมมีสูงมาก ดังนั้นเมื่อ “สาวน้อย” โทรศัพท์มาถามข่าว จากสิงคโปร์ ในตอน บ่าย ผมก็บอกว่าตอนนี้ผมมั่นใจขึ้นมากว่าน้ำจะไม่ท่วมบ้าน ทำให้น้ำเสียงของเธอคลาย ความกังวลลงไป
และในสื่อมวลชนก็เริ่มมีข่าวความหวังว่ากรุงเทพส่วนในน้ำอาจไม่ท่วม
วิจารณ์ พานิช
๒๙ ต.ค.๕๔
ขอบคุณรายงานประจำวันนี้ค่ะ ทำให้อุ่นใจว่า หากบ้านคุณหมออยู่ใกล้แม่น้ำยังปลอดภัย บ้านของดิฉันที่เขตจตุจักรที่ยังแห้งอยู่น่าจะอยู่ได้อีกสักระยะนะคะ