ไดอารี่ชีวิต 1


ภาระกิจและจังหวะของชีวิต,เกิน อนุทิน,แค่เปลี่ยนความคิด ชีวิตก็แปลี่ยน

    

     สวัสดีค่ะ เจอกันคราวนี้ดิฉันขอลัดคิวมาพร้อมกับบันทึกใหม่แต่เก่าเก็บในหัวใจ (เข้าสู่เดือน11ค่อยจะได้เวลามาเรียนรู้กันต่อ ในขั้นตอนต่อไปกับสูตรปลูกผักหวานป่าที่ประหยัดที่สุด ยังพอมีเวลาวางแผน เตรียม สำรวจพื้นที่ กับฤดูกาลใหม่ของเมล็ดพันธุ์ผักหวานป่าค่ะ) ตอนนี้ภาวจิตใจสภาพน้ำในเมืองหลวงของแพง ที่ต่างจังหวัดของขลาดแคลน มุมมองของคนปลูกต้นไม้ ขอขั้นเวลามาสนทนากับผู้อ่าน(กับภาวะปัจุบันที่กระทบ อาตายนะ) เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิดชูปัญญาธรรมเอื้อเฟื้อแบ่งปันกันและกัน.ดิฉันเชื่อว่าทุกชีวิตที่เกิดมาล้วนย่อมได้-เคยพบเจอทั้งสุขและทุกข์มาด้วยกันทั้งนั้น ทั้งทางกายและทางใจ(คราวนี้เกิดพร้อมกันทั้งทางกายและทางใจ) ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของสรรพสิ่งที่มีชีวิตและจิตวิญญาณในโลกใบนี้.เราไม่สามารถที่จะเลือกเอาแค่ด้านดีหรือด้านหนึ่งด้านใด ในเมื่อทำทั้งสองด้าน(อย่าง)ก็ต้องได้รับผลทั้งสองอย่าง.ความทุกข์ ความไม่ดีคงไม่มีใครอยากได้ จะไปฝากใครๆคงไม่รับ ( ถ้ามีธนาคารรับฝากทุกข์ คงทุกข์ล้น )

    ความทุกข์และความสุข สิ่งที่ดีและไม่ดี ถ้ามันจะเกิดก็เป็นเรื่องธรรมดาเราคงจะห้ามไม่ให้มันเกิดไม่ได้ เพียงแต่ว่าเมื่อมันเกิดขึ้นมาเราจะแก้ปัญหาหรือว่าดับความทุกข์นั้นได้อย่างไร(อริยสัจ๔)

   "ไผ่ที่ไม่พังล้มเมื่อเจอฝนพายุเพราะจากลำเดียวแต่รักกันเหนียวแน่นรวมหมู่อยู่เป็นกอ(ความสามัคคี) ไผ่ลำเดียวแต่สูงเดี่ยวเสียดฟ้าเปรียบเหมือนความดีที่ทำ ไม่ว่าสูงหรือต่ำ จะดำหรือขาว ไม่ว่าจะมาจากไหนจะอยู่(เข้า)ปล้องไผ่ลำที่เท่าไหร่ก็คือไผ่ลำเดียวกัน" นั่นคือประเทศไทยของเรา และพี่น้องชาวไทยทุกคนที่อยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกัน ใต้ธงสีเดียวกัน

    นั่นก็คือ ธงไตรรงค์ { สัญลักษณ์(ศูนย์รวม)แห่ง ความเป็นชาติ ศาสนา และพระมหากษัติย์ } วันนี้ได้ชื่อคนไทย  เราทุกคนจะทำเพื่อพ่อองค์เดียวกันได้ไหม? หากรักษ์ผืนแผ่นดินไทยขอใจผูกกัน

เราจะสัญญาทำ-ธรรม ร่วมกันได้ไหม. ต่อไปนี้เราจะรักสามัคคีกันดั่งคำสอนของพ่อเพื่อรวมใจกันปกป้องวังหลวง(เมืองหลวงของไทย)

 เราจะไม่โทษกัน(จับผิด) เราจะมุ่งตรง จับดีกันและกัน(มองด้านดี พูด คิด ทำ(ธรรม)แต่ด้านดีๆ)

เราจะสละความยึดถืออวดตัวตนและยึดติด(เปิดใจ ยอมให้ความรู้แห่งปัญญานำมาซึ่งทางแก้ไข)

เราจะอภัยให้กันและกันดีไหม เพราะวันนี้ไม่ว่าจนหรือรวย คฤหาสน์หรือกระท่อม รถยนต์คันละล้านหรือว่าจานดาวเทียม ล้วนเปี่ยมล้นไปด้วยน้ำๆๆและน้ำ.ความสั่น-สะท้อนในใจอีกวันแทบกลั้นน้ำตาไม่ไหวจากภาพที่ปรากฎในทีวี ไม่ว่าจะเป็นคน-สัตว์(ไม่มีที่จะอยู่) พืช(อาหาร) ยา(ความเจ็บป่วย) จิต-ใจ(ความสิ้นหวัง ต้นท้อแท้เริ่มงอกงาม) รถยนต์-เงิน(เทียบค่าไม่ได้กับอาหารลงท้องซักมื้อ) 

      แต่สิ่งดีๆอีกด้านที่มาเป็นพลังเคียงคู่นั่นก็คือเหล่าพรหม (พรหมวิหารธรรม) จิตสาธารณะ เหล่านิสิตนักศึกษาที่เปี่ยมด้วยไฟและพลังรวมใจอันแรงกล้า ลุกขึ้มาแสดงพลังแห่งตัวตนคนรุ่นใหม่วัยจ๊าบแต่เจ๋ง!  สร้างทางเดิน สร้างทางเลือกของตนเองกับการเป็นเยาวชนของชาติ ขอแค่โอกาสจากคนรุ่นเก่าที่เกิดก่อน (มูลนิธิ,สื่อต่างๆรวมถึงบริษัทห้างร้านและชาวบ้านธรรมดา-ดาราศิลปินนักร้องทั้งหลาย ล้วนแต่เป็นผู้ให้ จิตใจอาสาพร้อมใจร่วมใจกัน ไม่ทอดทิ้งกัน)

       ข้าพเจ้าขอชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง และนี่คือสิ่งที่เป็นตัวตนอย่างแท้จริงของคนชนชาติไทยเรา.(ในยามทุกข์ยากลำบากทั้งทางกายและใจ ต่อให้ทองเส้นเท่าขาก็ไม่มีค่าเท่า คำถามห่วงใยจากใจ (สบายดีไหม-เจ็บไข้ตรงไหนรึเปล่า,กินข้าว-กินน้ำหรือยัง,ให้ช่วยอะไรไหมฯ) ประโยคสั้นๆแต่มันมีความหมายกับหัวใจในยาม(อารมณ์-เหตุการณ์-เผชิญ) ความท้อแท้ สิ้นหวัง หมดหวัง เศร้าใจอาลัยในสิ่งที่พากเพียรหามา(บางคน)ทั้งชีวิต บ้าน,รถ,สิ่งของเครื่องใช้ฯลฯ(สาระพัดแรงยั่วยุจากตัวร้ายที่อยู่ในใจ ในตัวของเราเอง คอยชักพาใจดิ่งเหว)

      ที่สุดเหนือสิ่งใดที่ได้พบเห็นเป็นเช่นนี้ทุกเหตุการณ์ คือน้ำพระทัยหลั่งเป็นสายหลั่งลงมาจากฟากฟ้าเบื้องบน(เร็วกว่า 3g) สู่ชนชาติทุกเผ่าพันธุ์ ช่วยขจัดปัดเป่าหัวใจยามหมดหวัง เติมพลังในหัวใจให้กลับมา.

     ได้ยินเสียงร้องถามจากข้างในหัวใจ(ตัวเอง)ถามประโยคเดิมๆอีกเช่นเคยว่า ชีวิตที่ผ่านมากับสิ่งที่มนุษย์เราทำลงไปนั้น เพื่ออะไร เพื่ออะไรกันแน่!

     ช่วงนี้พอมีเวลา(เจียดมาตาลายกับน้องคอมฯ)เพราะภารกิจประจำวันยังแค่อุ่นๆเครื่องเท่านั้นกับหน้าที่หลักในแต่ละวันที่ต้องพูกพันธุ์ดูแล ตั้งแต่สากกะเบื่อยันเรือรบ(สังขาร) กับหมู่มวลสมาชิกหลักๆที่อยู่ในโคกมหัศจรรย์แห่งนี้        (อุฑยานผักหวานป่า'๔๔)แมว5 หมา5 ห่าน8 เป็ดไล่ทุ่ง15(ตอนนี้ไข่วันละ8ฟอง) เป็ดเทศ23(ไว้เป็นมือปืนฟักไข่)คน2 พระสงฆ์1รูป(สงฆ์อาพาธนิมนต์ท่านมาพักรักษา) ยังไม่ทันลืมตาตี4ตี5 นกก็มาร้องปลุก(บินมาเกาะหน้าต่างส่งเสียงร้องตั้งใจปลุกให้ตื่น)

06.00น.เอาสุนัขเข้าโรงเรียน(ผูกโซ่ แค่บอกว่าเข้าโรงเรียนก็จะประจำที่ใครที่มัน)06.30น.ลงไปเปิดประตูบ้านเอาข้าวให้คอสั้นคอยาว(เป็ด-ห่าน)

07.00น.เติมพลังด้วยกาแฟ-กล้วย 07.30น.ถวายอาหารเช้าพระอาพาธ(อาหารเหลวทางสายยาง) ท่านจำวัด(พัก-วิเวก)อยู่องค์เดียวที่บ้านอีกหลังของย่า(แม่สามี)ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ60เมตร

09.00แมวเดินตามเป็นพรวน(ขอข้าวกิน) 09.30-ไปจนถึง11.00ถางหญ้า แต่งต้นไม้(หมดฤดุฝนได้เวลาเปิดหญ้าให้ต้นไม้ต่างๆและผักหวานป่า เพราะว่าอีก1-2เดือนเริ่มออกยอดและออกดอก) จากเพลทำกับข้าว(กับข้าวแม่ครัวหัวป่าลุยเองทำเองเน้นเก็บสดๆทำร้อนๆ(มีคนแพ้ผงชูรสเลยเลิกทานไปด้วย)เมนูจาก ปลาในบ่อ(ลงข่าย-ดักลอบจับเอง)ไข่ในเล้า ผักในสวน(พริก ข่า ตระไคร้ กระเพรา ใบมะกรูด ชะอมฯลฯไม่มากมายพอขายแต่ก็ไม่ได้ซื้อ)

12.30ถวายอาหารเพลพระอาพาธ ให้ข้าวหมา(เร็จสิ้นภาระกิจเหล่านี้คือรอบเช้า ถึงได้พักทานข้าวเช้าบางวัน13.00หรือ14.00ก็มีแล้วแต่งานที่ทำในแต่ละวัน บางทีผูกกันกับต้นไม้ถางหญ้าตัดแต่งกว่าจะออกจากกันได้แทบคลานกลับมาบ้าน เพราะหมดแรงกาแฟกับกล้วย เป็นเช่นนี้มา10ปีมีแค่ข้าวเช้ากับข้าวเย็นและผักหวานๆๆๆปลูกๆๆๆตายแล้วปลูกๆๆๆ 

เข้าสู่ภาคบ่ายไปหาค่ำ15.00ลงงานต่อ(เก็บงานให้เสร็จเป็นโซนๆ หรือเรื่องๆในแต่ละวันตามกำลัง)

16.00เวลานัดกับเป็ด-ห่านเข้าเล้ากินข้าวปิดบ้านนอน(เป็นเช่นนี้ทุกวันเวลาสี่โมงเย็นปุ๊บเดินเรียงแถวกันมาตามคน ไม่รู้เป็ด-ห่านดูเวลาจากตรงไหน

17.00ปล่อยหมาเวลากลางคืน(สายตรวจยามค่ำคืน)เก็บผักตำลึงใส่ต้มข้าวหมา

18.00-19.30ถวายอาหารรอบเย็นพระอาพาธ-ทำความสะอาดเปลี่ยนผ้าปิดแผลตรงบริเวณเจาะใส่สายยางที่ท้อง,เตรียมวัตถุดิบอาหารพระ นำมาต้ม-และปั่นเหลวเก็บไว้ในตู้เย็น ให้ข้าวหมา,แมว สุดท้ายเช่นเคยรอบคนได้ทานข้าว ฟังข่าว พักผ่อน

20.30-22.00เป็นเช่นนี้ทุกวันกับภาระกิจหลัก.งานแต่ละช่วงก็แล้วแต่ฤดูกาลและสภาพความเป็นจริงที่เป็นอยู่ในสวน ฤดูหนาวงานตกแต่ง ตัดต้นไม้ที่ล้ม หักโค่นในฤดูฝน ถางหญ้าขนลงบ่อปลาเป็นอาหารพืชสด ปลายหนาวเข้าสู่ฤดูร้อนเมล็ดผักหวานป่าเริ่มโต กรอกดินเตรียมถุงเพาะชำ โดยก่อนหน้างานเพาะชำก็ทำตลอดเพาะต้นไม้พืชผักต่างๆ ไว้ปลูกในสวนตัวเองปลูกตามวัดบ้างตามกำลัง ตามอัตภาพ.หลังสงกรานต์เมล็ดผักหวานเริ่มสุก(ที่อุฑยานผักหวานป่า'๔๔เมล็ดผักหวานป่ารุ่นแรกจะสุกตรงกับวันฉัตรมงคลทุกปี(เท่าที่จดบันทึกตั้งแต่ติดลูกปีแรก)

  แค่นี้เวลาในแต่ละวันก็หมดไปซะแล้ว(ตะวันตกดิน)วันหนึ่งมีซัก 48ชม.คงจะดี

        คำถามจากคนอื่น(พ่อ-แม่ "พ่อไม่รักแม่ไม่ปลื้ม") ถามว่าได้อะไร

         คำตอบที่ให้ได้คือจากคำถามที่ว่าทำเพื่ออะไรเท่านั้น  "ทำเพื่อละ"

                  คือส่วนหนี่งของไอรี่ชีวิตเธอ-ฉัน-และผักหวานป่า

                              " ศรัทธาเป็นหนึ่งเดียว "

 

 

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 465957เขียนเมื่อ 25 ตุลาคม 2011 02:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 21:08 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

 สวัสดีค่ะ

Ico64

 

แวมาเยี่ยมทักทายอ่านไดอารี่ชีวิต ...ความทุกข์และความสุข สิ่งที่ดีและไม่ดี เป็นสิ่งที่ทุกคนได้รัมากบ้างน้อบ้าง แตกต่างกัน...เป็นธรรมชาติของชีวิต....เป็นกำลังใจกันนะคะ

 

ขอบพระคุณค่ะ ท่านดร.พจนา สำหรับกำลังใจที่มอบให้ สุขบ้างทุกข์บ้างอย่างมนุษย์ค่ะ อย่างน้อยยังมีที่นี่ให้นึกถึงกำลังใจ

gotoknow.org

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท