ฉันเริ่มเรียนรู้ และลงมือทำไร่ด้วยตนเอง อันที่จริงไม่น่าจะเรียกไร่
เพราะได้พยายามปรับสภาพในบางมุมของไร่ให้เป็นสวน เป็นแหล่งเรียนรู้
การใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติของตนเอง และครอบครัว ฉันเรียนรู้เรื่องการ
เพาะเห็ดด้วยตนเอง เพื่อเป็นอาชีพเสริมให้กับครอบครัวหลังเออรี่
หากมีเวลาก็จะเป็นครูพักลักจำ เที่ยวเรียนรู้ สนทนากับเกษตรกร
เก็บยเกี่ยวความรู้ ความเข้าใจไว้ โดยเฉพาะเรื่องการดูแลเห็ด
ก็สามารถทำให้เห็ดออกดอกมาอวดโฉมอย่างงามๆได้
ไม่น้อยหน้าเกษตรกรผู้ชำนาญ แต่หลังจากเก็บผลผลิตได้ดอกเห็ดครั้งที่ 3
กลับพบว่าดอกเห็ดบางถุงเริ่มมีก้านอ่อน บิด ไม่แข็งแรง และมีตัวอะไร
บ้างอย่างที่ไม่เคยเห็นหน้า แอบมากัดกินเห็ดดอกอวบๆ ผิวขาวๆเรียบสวย
กินทุกครั้ง ก็ได้พยายามแอบมองแต่ไม่เคยเห็นเลย
ลักษณะเหมือนแมลงสาปแทะ
การเลี้ยงเห็ดลักษณะนี้ง่ายดี เพียงรดน้ำทุกวันๆ
เลือกเวลาเอาว่าจะรดทุกเย็น หรือรดทุกเช้า แต่ควรรดในเวลาเดียวกัน
แต่ฉันยังแอบรดน้ำผิดเวลาเพื่อดูว่าเห็ดจะรู้ไหม
ปรากฏว่าเห็ดก็มีหัวใจรับรู้และตอบสนองด้วยอาการอิดโรย
แห้ง..เหี่ยวทันตาเห็น...ไม่อยากจะเติบโตเอาเสียเลยอีก
ทั้งยังพบว่าการให้น้ำผิดเวลาก็เป็นสาเหตุทำให้ดอกเห็ดออกล่าช้า
แม้แต่การเก็บเห็ดช้าก็มีผลทำให้เห็ดดอกต่อไปชะงัก อีกทั้งอุณหภูมิใน
คอกที่เลี้ยงเห็ดที่แสงส่องเข้ามาแตกต่างกันก็ยังทำให้เห็ดออกช้าเร็ว
ไม่เท่ากัน เห็ดแต่ละถุงที่มาจากแหล่งเดียวกัน
ก็ให้ผลผลิตที่แตกต่างกัน บางถุงก้นยาวใหญ่ บางถุงก้านเล็กยาว
บางถุงก้านสั้นดอกใหญ่ และบ้างก็เล็ก อาจเรียกว่าคุณภาพแตกต่างกัน
เมื่อเก็บเห็ดได้ แล้วเหลือรับประทานก็ฝากเพื่อนๆ
ทุกคนจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
"เห็ดของฉัน สีขาวนวลสวย สะอาดและกรอบดีจังเลย"
ฉันคงโชคดีที่ได้เห็ดเชื้อดีมาเลี้ยงบำรุง เพราะเห็ดตามท้องตลาดนั้นดูจะ
แฉะ และบางครั้งดอกบานเกินไปเหมือนดอกไม้ใกล้จะร่วง
ฉันยังพบว่าวันไหนเห็ดออกดอกมากจนต้องเก็บถึง 2 ครั้ง
และต้องรักษาเห็ดให้คงสภาพนั้นยากยิ่งกว่าการเฝ้ารดน้ำเห็นเสียอีก
เพราะหากนำเห็ดใส่ถุงพลาสติกรัดปากถุงไม่ให้ลมเข้าแล้วนำเข้าตู้เย็น
กลับสู้เอาใส่ถุงซิป และรูดปิดวางไว้นอกตู้เย็นจะดีกว่า
ยังมีอีกอย่างที่ไม่ได้ทดลองคือนำเห็ดมาบรรจุลงบถุงซิป
แล้วใส่ถุงกระดาษหนังสือพิมพ์วางในที่อากาศถ่ายเทจะมีผลอย่างไร
เดี๋ยวรอให้เห็ดออกมากๆอีกสักครั้งก่อนจะลองทำตามที่คิดนี้
การเพาะเห็ดสำหรับการรับประทานในครอบครัวนั้นยิ่งง่ายมาก
เพียงวางถุงเห็ดที่เชื้อเดินเต็มถุงไว้ในครัว และรดน้ำเช้าเย็น
ก็สามารถมีเห็ดรับประทานได้ สัปดาห์ละ 1-2 ช่อ ต่อ 1ถุง ต่อสัปดาห์
นี่เป็นผลพลอยได้จากการหันมาเรียนรู้วิถีเกษตรพอเพียง
เห็ดถุงนี้ครั้งแรกออกปากขวดตามปกติ แต่เมื่อย้ายมาไว้ในครัวมันเจอแสงไฟบ่อย ก็คงตัดสินใจหนีแสง เจาะถุงพลาสติกด้านข้างตามรอยแยกเล็กๆทะลุข้างออกมาเลยต้องปิดปากถุงเพื่อไม่ให้ออกด้านปากขวดอีก เพราะอาจทำให้ได้ผลผลิตไม่ได้คุณภาพ
ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ
สวัสดีค่ะพี่krutoiting
สวัสดีครับพี่ต้อย... กินในสิ่งที่ปลูก เป็นความถูมิใจในผลงาน และการเอาใจใส่
สวัสดีค่ะพี่ต้อย
ยินดีด้วยค่ะ ชอบๆ เห็ดมากๆ เมนู เห็ดอบ ลอยมาตรงหน้าเลย
อยากมี ตู้เย็นธรรมชาติ อย่างนี้บ้างจังค่ะ