ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยในปัจจุบันที่มีปรากฎอยู่ทุกวันนี้ทำให้สังคมไทยก้าวหน้าไปไม่ทันประเทศเพื่อนบ้านเขา เช่น ประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์เป็นต้นทำให้ประเทศไทยล้าหลังเพราะมีการแบ่งชนชั้น แบ่งพักบ่งพวกจึงทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและความแตกแยกในสังคมไทย ฉันนั้นหากปล่อยปละละเลยก็อาจแก้ไขปัญหาได้ยากขึ้น ทางที่ดีควรจะแก้ไขความเหลื่อมล้ำก่อนที่จะลุกลามมากยิ่งขึ้นดังต่อไปนี้ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคงจะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยดังนี้คือ
การใช้มาตรการภาษี การกระจายอำนาจรัฐสู่ท้องถิ่น และการดูแลระบบสวัสดิการสังคมทั้งด้านการศึกษา ประกันสุขภาพ และที่อยู่อาศัยต้องเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงบริการด้านการเงิน ไม่เฉพาะสินเชื่อ แต่รวมถึงบริการด้านการออม ประกันสังคม และที่ต้องให้ความสำคัญคือ ระบบบำนาญ ทั้งนี้เพราะสังคมไทยกำลังเข้าสู่สังคมวัยชรา หากแรงงานในวันนี้ ที่ยังสามารถทำงานได้ต้องปลดเกษียณออกไปจะไม่มีรายได้รอง รับ ในที่สุดจะกลายเป็นคนจน ยิ่งจะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำมากขึ้น
ดังนั้น จึงต้องเร่งแก้ไขใน ๓ ประเด็น ต้องให้ความสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการเกษตร เพราะขณะนี้คนจนจำนวน ๕.๓ ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและอยู่ในภาคการเกษตร การแก้ไขความยากจนของประชาชนต้องแก้ให้ตรงจุด ช่วยเหลือโดยการให้เครื่องมือในการพัฒนาตัวเอง เช่น การจัดทำระบบการชลประทานให้ดีขึ้น การปฏิรูปการศึกษาทั่วประเทศให้มีมาตรฐานเดียวกัน ลดช่องว่างทางความรู้เพื่อเปิดโอกาสให้คนในสังคมได้พ้นจากความยากจน จัดให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น เพื่อวางแผนการเงินหลังเกษียณออกจากงาน มีความรู้ด้านการลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนที่เท่าเทียมกัน (http://thainews.prd.go.th)
นอกจากนี้การลดความเหลื่อมล้ำควรนำเอาหลักธรรมไปประยุกต์ใช้ เช่น พรหมวิหารสี่ อันได้แก่ เมตตา ความมีเมตตาเอื้ออารีต่อกัน กรุณา ความสงสารคิดอยากช่วยเหลือผู้อื่น มุทิตาความพลอยยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี อุเบกขาความวางเฉยไม่ดีใจไม่เสียใจต่อเหตุการณ์บางสิ่งบางอย่าง อาตมาปรารถนาที่จะให้สังคมไทยกลับมาอย่างมีความสุข และเป็นสยามเมืองยิ้มเชิดหน้าชูตาของประเทศชาติสืบต่อไปตราบนานเท่าน
ไม่มีความเห็น