รักนะ...บางกอก 2 ...


ความรัก...ความผูกพัน...ผ่านกาลเวลา จากยุคสู่ยุค

            เรื่องราวจาก “ รักนะ...บางกอก 1นั้นยังมีเรื่องราวที่อยากเล่าสู่กันฟังอีกในตอนจบอีก 12 เรื่อง ซึ่งมีเหตุผลมากมายในการได้เรียนรู้ใน รักนะ...บางกอก 2 ...จะบอกให้...

 

 

13. JJ Market 

             ตลาดนัดสวนจตุจักรเป็นที่หมายปองของนักท่องเที่ยวที่อยากมาเยือน เนื่องจากเป็นตลาดนัดที่ใหญ่มากขายของทุกชนิด มีสินค้าทุกภาคของไทยรวมถึงสินค้าที่มีความคิดสร้างสรรค์ สวยงาม แปลกตาเป็นเอกลักษณ์ นักท่องเที่ยวชอบซื้อไปตกแต่งบ้าน โรงแรม รีสอร์ท บ้านพักตากอากาศ เป็นต้น

 

            อาหารมีทั้งถูกและแพงต้องดูราคาก่อน แต่สินค้าและต้นไม้ของฝากน่าซื้อทั้งนั้น ราคาก็ไม่แพง หรือเดินดูเพื่อหาไอเดียแปลกใหม่ก็ได้เช่นกัน ราคาต่อรองกันได้ตามความพอใจ ความหลากหลายของสินค้า มีเสน่ห์น่าดึงดูดใจให้มาเยือน ซึ่งจตุจักรนี้เปิดขายของเฉพาะเสาร์อาทิตย์ (ยกเว้นต้นไม้ซึ่งจะมีขายวันอื่นในราคาย่อมเยาด้วย) มีรถไฟฟ้าBTSและรถไฟใต้ดินผ่านสะดวกสบายและรถเมล์ก็วิ่งผ่านหลายสายเช่นกัน 

  ( เรียนรู้.....ในความหลากหลายของไอเดียแปลกใหม่ )

   

 14.  ประท้วง...อีกแล้ว...ครับท่าน 

          กรุงเทพฯ...ไม่เคยเงียบเหงา...มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นตลอดเวลารวมถึงการประท้วง...ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม...บริเวณรอบๆทำเนียบสองฝั่งจะมีสารพัดม๊อบที่มาตั้งเต็นท์ปักหลักประท้วงข้ามเดือนข้ามปีให้เห็นตลอดเวลา ทั้งเรื่องปากท้อง ที่ทำกินหรือการเมือง ทำให้รถราก็ติด ผู้คนก็เบื่อ...(คนประท้วงก็คงเบื่อเช่นกัน) เมื่อมีการประท้วง..ทีไร...วุ่นวายกันตลอด...คิดแล้วกลุ้ม... 

( เรียนรู้...ความสามัคคีและเห็นใจในความเดือดร้อนของคนอื่น ซึ่งน่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย ตราบใดที่ประชาชนยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็ต้องมาเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตัวเองและชุมชน)

 

 

 

 15. เรื่องราวของรถ...บนถนน... 

สิ่งที่คนขับรถกลัวและหวั่นไหวมีหลายเรื่องคือ 

รถติด ....       ไม่ว่าจะเป็นไฟแดง  ประท้วง ฝนตก น้ำท่วม รถชนหรือไฟไหม้ ล้วนเป็นสาเหตุให้หงุดหงิด บางครั้งติดเป็นชั่วโมงๆในแต่ละไฟแดง ขยับได้ทีละนิด จนถึงหยุดสนิทก็มี...รอจนเบื่อ... 

รถป้ายแดงหรือที่ติดป้ายว่า “ มือใหม่...หัดขับ ”    เพราะไม่อยากวัดใจคนขับว่าจะขับไปทางไหน?กันแน่...ต้องระวังมากเป็นหลายเท่า ดังนั้นจึงขับห่างๆไว้ปลอดภัยกว่า 

รถแก๊ส...    รักษาระยะห่างไว้...เนื่องจากตั้งแต่รถแก๊สระเบิดที่ถนนเพชรบุรี ทำให้ไฟครอกผู้คนบนถนนจำนวนมาก ยังเป็นภาพติดตาและฝันร้ายของผู้คน ดังนั้นเมื่อเห็นรถแก๊ส...วิ่งมาก็รักษาระยะห่าง ไม่ขับแซงหรือเข้าใกล้ปลอดภัยไว้ก่อน

 

           ความจริงอีกอย่างที่ไม่รู้เป็นไง?....อาจจะอารมณ์หงุดหงิดจากสภาพการจารจรเป็นทุกก็ได้...ใครก็ตามที่พอขับรถมือจับพวงมาลัย...ปากไวทุกคน... ถ้าไม่ระวังอาจมีเรื่องได้หรือไม่?ก็อาจถูกถามว่า “...รู้ไหม?ว่าฉัน...ลูกใคร?” เหมือนที่ตลกชอบนำมาล้อเลียนว่า...ตัวมันยังไม่รู้ตัวว่าเป็นลูกใคร?เลย...อย่าไปยุ่งกับมันดีกว่า... เรื่องเหล่านี้ชอบเกิดเหตุตรงทางแยกหรือซอย ซึ่งการให้ทางนั้นต่างคนต่างยอมไม่ได้ ก็เลยทะเลาะกันมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นให้เห็นเป็นประจำ 

( เรียนรู้...ว่าเรื่องราวทั้งหลายเหล่านี้มีให้เห็นจนเป็นเรื่องธรรมดา...ในชีวิตประจำวันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องทำใจ....อดทนและพยายามทำใจเย็นๆ )

  

16.คนเมืองกรุง...มีโลกส่วนตัว...คนละใบ      

       โลกส่วนตัว...ซึ่งแขวนไว้ในโลกไซเบอร์และชอบตามกระแสอย่างbb , Fb, Twitter, MSN, internet, บ้าดาราเกาหลี ดาราไต้หวัน ดาราญี่ปุ่น ไม่ว่าอยู่ที่ไหน?...แต่ละคนก็จะก้มหน้ากดๆๆ...มือถืออยู่ตลอดเวลา  ถ้าไม่เล่นโทรศัพท์..ก็โทร..เธอโทร...ฉันโทร...ต่างคนต่างโทร... ขาดไม่ได้คือการเสพติดมือถือหรือinternetทำให้มีโลกส่วนตัวสูง...มาก... 

 ( เรียนรู้...ในโลกส่วนตัวที่มีอยู่...เพื่อจะจูนให้คลื่นความคิดให้มาอยู่ในโลกใบเดียวกัน) 

 

17. อิทธิพล...การโฆษณา.... 

        กทม.ซึ่งมีผู้บริโภคสินค้าที่มีจำนวนมาก ทำให้การโฆษณา...มีอิทธิพลกับผู้คน ดังนั้นจะเห็นว่าทุกหนทุกแห่งที่เป็นแหล่งชุมชนก็จะเห็นป้ายโฆษณาที่เด่นชัดคือ บนทางด่วน รถเมล์(ทั้งในรถและนอกรถ) รถไฟฟ้า ชานชลา รถใต้ดิน เสาไฟฟ้า ไฟแดง ตู้ยาม ตู้จราจร เสารถไฟฟ้า แปะติดไว้ทุกที่จนงงว่าป้ายสถานที่จริงๆคืออะไร?

 

       บางครั้งก็จะมีคนมายืนถือป้ายโฆษณาเคลื่อนที่ เช่น โฆษณาบ้าน คอนโด โทรศัพท์มือถือเพ็จเก็จใหม่ๆ จะมีสาวๆแต่งตัวน่ารักมาแจกใบปลิวหรือถือป้ายโฆษณาตามกันมาเป็นขบวน ซึ่งเรียกร้องจุดสนใจได้พอสมควร การโฆษณานั้นบางอย่างก็เกินจริง...ควรใช้วิจารณญาณในการซื้อ ซึ่งอิทธิพลการโฆษณาที่เห็นบ่อยๆจนคิดว่าเป็นสิ่งที่ทำได้จริงทุกอย่างที่โฆษณา อย่าตกเป็นเหยื่อการโฆษณา ดูเพลินๆก็พอ...ควรคิดก่อนซื้อทุกครั้ง

 

        แต่...อิทธิพลของการโฆษณาจากนอกบ้านก็เยอะมากพอแล้ว แต่...พอกลับเข้ามาในบ้าน...เปิดทีวีดูรายการต่างๆตามความเคยชิน...ก็พบการโฆษณาที่ส่งตรงถึงคุณในบ้านขณะพักผ่อน ดูข่าวต่างๆ รวมถึงการโฆษณาแบบเหมารวมทั้งครอบครัว...เห็นไหม?ล่ะ...ว่าการโฆษณานั้นมีอิทธิพลมากขนาดไหน? แม้ยกมือถือขึ้นมา...ก็ยังพบ SMS ที่ส่งมาโฆษณาแอบแฝงให้ลูกค้าได้อีก...   ( เรียนรู้...ที่จะรอบคอบไม่ตกเป็นเหยื่อของโฆษณา...)

  

18. คอนโด...บ้านลอยฟ้าไร้ที่ดิน...แต่ราคาแสนแพง ซึ่งคนก็นิยม 

          คอนโด...เป็นสิ่งที่กลายเป็นบ้านที่คนนิยมซื้อ ราคาก็แพงมากถ้าอยู่ในเขตชุมชนราคา 3-10 กว่าล้านบาท มีพื้นที่ใช้สอยไม่มาก ตกแต่งสวยหรู เดินทางสะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า รถใต้ดิน ติดถนนใหญ่ เนื่องจากที่ดินก็แพงขึ้นเรื่อยๆจำนวนคนที่แออัดกันในกรุงเทพฯก็มีมากขึ้นทุกวัน คนระดับกลางขึ้นไปนิยมซื้อคอนโดเนื่องจากมีกำลังซื้อ แต่คนระดับที่ต่ำลงมาก็เป็นบ้านเช่า ห้องเช่า อาคารเช่า แฟลต คอนโด เทาว์เฮ้าส์ บ้านเดี่ยวแต่อยู่ไกลจึงพอมีเงินซื้อได้ซึ่งไม่แพงนัก แต่ต้องเดินทางฝ่าการจราจรด้วยความอดทน...ซึ่งคนกรุงก็แปลก...บ้านไร้ที่ดิน...แต่ก็ช๊อบ...ชอบ 

( เรียนรู้...นกน้อยควรทำรังแต่พอตัว ...)

 

 

19. นานาทัศนะ...จนถึงนานาจิตตัง 

           ทัศนะคติไม่ตรงกัน...หมั่นไส้กันทำไม?  คนหนอ...!!!...คน  มีเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นจากความคิดของผู้คน คนกรุงได้ชื่อว่า พูดเพราะ ปากหวาน ...แต่ด่าแสนเจ็บใจ...และการปากหวานนั้นเชื่อได้หรือไม่?...อีกเรื่องหนึ่ง...เพราะฉะนั้นอย่าเชื่อคนง่าย การจริงใจนั้นดูจากการกระทำ...อย่าดูจากคำพูดซึ่งเป็นคนละเรื่อง ผู้คนในกทม.มากมายดังนั้นความคิดก็หลากหลาย...เหมือนกันบ้าง?...ต่างกันบ้าง?...ก็อย่าถือสากันมากนัก มันเป็นธรรมชาติของคนเป็นนานาจิตตัง... 

        ( เรียนรู้...การอยู่ร่วมกันให้ได้ในความคิดต่าง...)

 

หมายเลขบันทึก: 458850เขียนเมื่อ 6 กันยายน 2011 00:45 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:48 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

20. ท่ามกลางผู้คน...มากล้น...แต่ใจแสนเดียวดาย

         ใครเหงาบ้าง?...ในการใช้ชีวิตประจำวันท่ามกลางผู้คนเป็นหมื่นในการเดินทาง...ไม่รู้จักใครเลยสักคน เดินสวนทางกันไปมาต่างคนก็ต่างเดินแบบเร่งรีบ ซึ่งคนส่วนมากทำมาหากินไม่ได้มีมากพอที่จะทำมาหาเก็บ เนื่องจากค่าครองชีพใ นกรุงเทพฯสูงและสิ่งของยั่วยวนมากมายให้น่าซื้อ น่าเป็นเจ้าของ รายได้ไม่พอกับรายจ่าย ดังนั้นการทำงานหาเงินกันทั้งกลางวันกลางคืน ชีวิตจึงถูกกดดันจากรอบข้าง ไม่มีใครสนใจใคร?...ต่างคนต่างใช้ชีวิตของตัวเองไป ทำให้นึกถึงเพลงของคุณหนูมิเตอร์ที่ว่า...ท่ามกลางผู้คน....มากล้นในคืนหลอกลวง  มีใจหนึ่งดวง....ที่คิดถึงเธอเสมอ.....

( เรียนรู้...ในการรู้จักใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์และที่ถูกที่ควร...รู้จักใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสมกัยฐานะตน...)

21. ตลาดแห่งเดียวในไทย...เริ่มขายตอนรถติดไฟแดง...

           เนื่องจากการจราจรในกทม.นั้นได้ชื่อว่ารถติดมาก...ก...จนถึงคอยไฟแดงแล้วหลับ...ไม่เปิดไฟเขียวสักที...พอไฟเขียวรถข้างหลังก็บีบแตร์ไล่รถคันหน้าซึ่งมีให้เห็นบ่อยๆ บางครั้งพอรถตัวเองติดไฟแดงคันแรก พอไฟเขียวปุ๊บ...บีบแตร์ไล่รถข้างหน้าทันที...ลืมไปว่ารถตัวเองคันแรก...เป็นไปได้!!!...ขนาดนั้นเลยเพราะความเคยชิน

          พอรถติดนานๆก็จะมีตลาดเคลื่อนที่ แบบขายตรงเดินเลาะข้างรถไปมามีทั้งมะม่วง ถั่วต้ม กล้วยแขก(นางเล้งเจ้าเก่า) หนังสือพิมพ์ พวงมาลัย ผ้าเช็ดรถ ยาดม-ยาลม-ยาหม่อง-ลูกอม สมหวัง หมากฝรั่ง บางทีก็รำคาญ บางทีก็ดีเหมือนกันแก้เบื่อได้เพลินๆถือว่าช่วยกันทำมาหากินในช่วงเร่งด่วน (...แต่ไปไหนไม่ได้...)

( เรียนรู้...ว่าคนเราต้องต่อสู้ชีวิต...เพื่อความอยู่รอด ควรเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันเพราะว่าโอกาสในการทำงานคนเราไม่เหมือนกัน )

22. เรื่องของผี!!!...ทำไมถึงมีแต่ต่างจังหวัด

       ไม่ค่อยได้ยินเรื่องราวที่เกี่ยวกับผีมากนักในกรุงเทพฯ แต่...มีเรื่องราวของเรื่องผีมากมายในต่างจังหวัดเช่น โดนผีหลอก ผีเข้า ผีปอบ ผีกระสือ ผีกระหัง  ผีพื้นบ้านต่างๆให้ได้ยินบ่อยๆ ซึ่งในกทม.ได้ยินแต่ผีแม่นาคพระโขนง ซึ่งนานๆจะมีให้ได้ยินเป็นที่กล่าวขาน อาจจะเป็นเพราะว่าบรรยากาศไม่เป็นใจ ผู้คนมากมายจนรุกรานพื้นที่ของผีไม่มีที่อยู่ เช่นบ้านคนกับกำแพงวัดปลูกติดกันบางครั้งก็รุกล้ำเข้าไปในที่วัดก็มี เนื่องจากไม่มีที่อยู่ ป่าช้าแต่เดิมปัจจุบันก็กลายเป็นบ้านผู้คนไปหมด เรื่องราวต่างๆจึงเงียบหายไป...

( เรียนรู้...ว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่...ไม่พบก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีจริง  )

23. เมืองหลวงคือชัยภูมิของประเทศ

           เพราะว่าเมืองหลวงคือชัยภูมิของประเทศ ดังนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกสิ่งต่างๆที่ทันสมัยทุกด้าน รวมถึงเทคโนโลยีที่ล้ำยุคก็มักจะเริ่มมีใช้ที่นี่ก่อน ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่ทำไม...ดาราถึงแจ้งเกิดที่กรุงเทพฯไม่แจ้งเกิดที่ต่างจังหวัดบ้าง นักร้องก็ต้องมาแจ้งเกิดที่นี่เช่นกัน การเป็นแหล่งรวมแฟชั่นและผู้คนทุกสาขาอาชีพ ทำให้ไอเดียหรือความคิดสร้างสรรค์ต่างๆได้รับการยอมรับ

             รวมถึงการใช้ชีวิตของกลุ่มคนที่เป็นศิลปินที่ใช้ชีวิตในสไตส์ของตัวเอง รักร้อง นักแสดง นางแบบที่มีชื่อเสียงดังๆนั้นน้อยคนนักที่จะเป็นคนกรุงเทพฯ ส่วนมากก็มาจากทั่วทุกภาคของประเทศทั้งนั้น การแพทย์ที่ทันสมัยโรคที่รักษายากๆก็ต้องเข้ามารักษาที่กรุงเทพฯซึ่งมีเครื่องมือที่ทันสมัย สามารถรักษาให้หายได้ สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ทำให้เมืองหลวงคือ...ชัยภูมิของประเทศ..

( เรียนรู้...การใช้พรสวรรค์ที่มีอยู่บวกกับพรแสวง ทำให้ชีวิตมีคุณค่า ในสังคมที่ให้โอกาสและเปิดกว้างสำหรับทุกคน ...)

24. เหตุผล...ที่รักนะ...บางกอก

        ดังนั้นจะเห็นว่ามีเรื่องราวมากมายที่ทำให้ผึ้งงานนึกถึงเพราะบางกอกสอนให้เราเรียนรู้ในด้านการต่อสู้ชีวิต...รู้จักค่าของเงินที่หามาได้...เรียนรู้การไม่ประมาทในการใช้ชีวิต เมื่อผิดพลาดเรียนรู้ที่จะเริ่มต้นใหม่ ...เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกันในสังคมที่มีการแข่งขันสูงซึ่งต้องใช้ความอดทน...รู้จักพอใจในความสามารถที่ตนเองมีอยู่....เรียนรู้ในการให้โอกาสคน...เรียนรู้ว่าชีวิตต้องสู้ ชีวิตปรียบเหมือนการเดินทาง...เรียนรู้อดีตที่น่าจดจำ...เรียนรู้ว่าไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ก็มีค่าเสมอ...เรียนรู้ในเรื่องราวที่น่าประทับใจ...เรียนรู้ในความหลากหลายของไอเดียใหม่ๆ...เรียนรู้ความสามัคคีและเห็นใจในความเดือดร้อนของผู้อื่นซึ่งน่าเห็นใจทั้งสองฝ่าย ...เรียนรู้เรื่องราวที่เป็นเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันที่หลี่กเลี่ยงไม่ได้..ต้องทำใจ....เรียนรู้ในโลกส่วนตัวที่มีอยู่เพื่อจะจูนให้มาอยู่ในโลกใบเดียวกัน...เรียนรู้ที่จะรอบคอบไม่ตกเป็นเหยื่อของโฆษณา...เรียนรู้ว่านกน้อย...ควรทำรังแต่พอตัว...เรียนรู้ในการอยู่ร่วมกันให้ได้ในความคิดต่าง...เรียนรู้ในการรู้จักการใช้ชีวิตให้เกิดประโยชน์และที่ถูกที่ควรรวมถึงการใช้จ่ายเงินอย่างเหมาะสมกับฐานะตน ...เรียนรู้ว่าคนเราต้องต่อสู้ชีวิตเพื่อความอยู่รอด...รู้จักเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันเพราะว่าโอกาสในการทำงานของคนเราไม่เหมือนกัน...เรียนรู้ในเรื่องที่ว่า...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่...ไม่พบก็ใช่ว่า...จะไม่มีจริง...เรียนรู้ในการใช้พรสวรรค์ที่มีบวกพรแสวงทำให้ชีวิตมีคุณค่าในสังคมที่ให้โอกาสและเปิดกว้างสำหรับทุกคน

          ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลว่า การที่ผึ้งงานได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตในเมืองบางกอกเวลานาน ทำให้ได้เรียนรู้จากบทเรียนมากมายที่มาใช้ในชีวิตทั้งจากประสบการณ์คนอื่นและของตัวเอง ทำให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เรียนรู้การยืดหยุ่นในการใช้ชีวิตดีขึ้น ดังนั้นจึงอยากบอกเธอจัง.!!!...ว่า... “ รักนะ....บางกอก ”

ชอบจัง ประโยคที่ว่า

"คนเมื่องกรุง มีโลกส่วนตัว..คนละใบ"

ธรรดาที่มองโลกไม่เหมือนกัน

ยังไง..ขอให้โลกไซเบอร์นี้นำมาเจอกันบ้าง นะคะ

สวัสดีค่ะคุณCMUpalIco48

  • โลกส่วนตัว...ที่บางคนก็ยอมให้คนอื่นเข้าไปเยี่ยมเยียน...(เหมือนโลกของผึ้งงาน...ที่เปิดรับโลกไซเบอร์จากเพื่อนๆในG2K)
  • มีบ้างเหมือนกันที่หลายคนไม่ยอมเปิดรับใครๆเลย...
  • การอยู่ร่วมกัน...ถ้าเรารักษาระยะห่างให้เขามีความเป็นตัวตนของเขาบ้างและยอมรับในสิ่งที่เขาเป็น...อาจทำให้เรามองเห็นในอีกมุมมองหนึ่งที่เขามี ซึ่งน่าทึ่งในความสามารถในอีกแง่หนึ่ง....ถ้าเราไม่มองข้ามในสิ่งที่เขามีอยู่
  • ยินดีที่ได้พบกันในโลกไซเบอร์ค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม...บางกอกค่ะ.

อ่านตั้งแต่ตอนที่หนึ่งมาจบเอาตอนที่สอง.....เพลินเลย

เคยมาอยู่บางกอกด้วยอาชีพอยู่พักหนึ่่ง ( สามปี )  บางสิ่งบางอย่างก็....รักนะ

แต่บางสิ่งบางอย่างก็....รักไม่ลง

ขอบคุณมากนะคะที่เอาบันทึกดีๆมาสะกิดใจกัน

สวัสดีค่ะคุณkruguiIco48

  • ขอบคุณค่ะที่คุณกรุณาตามมาอ่านจนจบ2ตอน มีเรื่องราวมากมายผึ้งงานจึงอดไม่ได้ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟัง
  • รักนะ...บางกอก จึงเลือกนำสิ่งที่ทำให้เรามองโลกในแง่บวก ...เหมือนที่มีคนบอกว่า ...เหรียญนั้นมีสองด้าน อยู่ที่ว่าเราจะเลือกมองจากด้านไหน?ซึ่งมันก็คือเหรียญเดียวกันนั่นเอง
  • ผึ้งงานได้เขียนเรื่องราวของ...บ้านนอกเข้ากรุง VS ศิลปะการใช้ชีวิตในเมืองกทม. 
  • ซึ่งทำให้เรา...รักหรือไม่รัก...เมืองกรุงได้มากมาย  
  • เมื่อเราต้องอยู่ในกทม.ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะพบสิ่งเหล่านี้ ...อย่างไงซะก็แวะมาเยี่ยมกันบ้างนะคะ
  • ขอให้มีความสุขมากๆค่ะ ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท