เมื่อวันที่ 22 - 23 กันยายน ที่ผ่านมา ดิฉันมีโอกาสไปเป็นวิทยากร ให้กับโครงการ "การจัดการความรู้เรื่อง การประกันคุณภาพภายในแบบยั่งยืน" ของงานประกันคุณภาพการศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร ร่วมกับคุณหมอวุฒิชัย (ศ.นพ.วุฒิชัย ธนาพงศธร : ผอ.ศูนย์แพทย์ฯ มศว.) ครั้งนี้นับเป็นครั้งพิเศษที่ดิฉันได้รับความไว้วางใจจาก ท่านอาจารย์วิจารณ์ ให้ช่วยผ่อนเบาภาระงานของ สคส. ซึ่งดิฉันยินดีและเต็มใจยิ่ง ดิฉันถือเป็นโอกาสที่จะได้ฝึกวิทยายุทธ์การเป็น FA ได้พบเพื่อนใหม่ต่างมหาวิทยาลัย และยังได้รู้จักคนในวงการ QA ที่คับด้วยคุณภาพ มากด้วยประสบการณ์อย่างคุณหมอวุฒิชัยอีกด้วย นอกจากนี้ ดิฉันยังพกเอาแก่นความรู้ (Core Competence) และขุมความรู้ (Key Success Factors) ของการประกันคุณภาพภายในแบบยั่งยืนมาฝากอีกดังนี้ค่ะ
<p>1. ศักยภาพของผู้บริหารระดับสูง</p> <p>- ความเข้าใจ และการให้ความสำคัญกับงานประกันของผู้บริหาร</p><p>- ผู้บริหารควรมอบหมายงานชัดเจน</p><p>- ผู้บริหารให้ความสำคัญ และมีทักษะความรู้ ความสามารถ เป็นผู้นำปฏิบัติการตัดสินใจ / วิสัยทัศน์</p><p>2. คุณภาพของผู้นำทีมปฏิบัติการด้านประกันคุณภาพ</p> - มีส่วนร่วมใน Teamwork <p>- ทีมงานต้องสามัคคีช่วยกันทำงาน</p><p>- คนที่ทำงานประกันคุณภาพต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี</p><p>- ผู้ทำงานประกันควรได้รับการอบรม เพื่อให้เข้าใจแต่ละมาตรฐาน และตัวบ่งชี้</p><p>- ผู้รับผิดชอบงานประกันคุณภาพตั้งใจจริงและมีความพยายามที่จะพัฒนาตนเองและพัฒนางานด้วย</p><p>- ผู้นำมีทักษะ โอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์</p><p>- Team งานที่รับผิดชอบงานประกันคุณภาพ</p><p>- ประสบการณ์ผู้ทำงาน</p><p>3. การสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์</p> <p>- มีประสิทธิภาพในการสื่อสาร</p><p>- มีการติดตามสื่อสารผลการดำเนินงาน นำผลมาปรับปรุงแก้ไข พัฒนางานต่อไป</p><p>- การสื่อสารประชาสัมพันธ์ภายในองค์กร</p><p>4. นโยบายและเป้าหมายของมหาวิทยาลัย</p> <p>- การนำตัวอย่างของคณะที่มีความใกล้เคียงมาเป็นแบบอย่างในการทำงาน</p><p>- นโยบายด้านการประกันคุณภาพของมหาวิทยาลัยควรมีจุดยืนที่ชัดเจน และต่อเนื่อง</p><p>5. การจัดระบบประกันคุณภาพ</p> <p>- การเตรียมการรับประเมิน</p><p>- มีการวางแผนในการรับการประเมินทั้งภายใน ภายนอก</p><p>- มีบรรยากาศของการแข่งขันเพื่อให้ได้คุณภาพเพิ่มขึ้น</p><p>- การอำนวยความสะดวกในการต้อนรับในการตรวจประกันคุณภาพ</p><p>- การเตรียมความพร้อมในการรับการประเมิน เช่น การคัดสรรผู้ให้ข้อมูล / ผู้แทนนักเรียน</p><p>- ให้มีส่วนร่วมในระบบตรวจประเมิน</p><p>- ความต่อเนื่องของผู้รับผิดชอบงานประกัน</p><p>- มีการกำหนดผู้รบผิดชอบโดยตรง ระบบการแบ่งงาน</p><p>- กำหนดกฎเกณฑ์ บทบาทหน้าที่ชัดเจน</p><p>- ระบบการพัฒนา IQA การพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป และสอดคล้องกับสภาพขององค์กร</p><p>- การตั้งเป้าหมายของการประกันคุณภาพชัดเจน</p><p>- การเปรียบเทียบระหว่างหน่วยงาน เป็นสิ่งกระตุ้นการพัฒนา / จัดระบบการประกันคุณภาพ</p><p>- การประชาพิจารณ์ร่วมกันทั้งแผน – การปฏิบัติ และผลเพื่อการยอมรับ</p><p>- การสร้างระบบ / KPI / กติกา ร่วมกัน และมีกระบวนการสร้างการยอมรับร่วมกัน</p><p>- มีระบบการประกันเชื่อมโยงกับค่าตอบแทน (Bonus) มีเครื่องมือช่วยผลักดันคุณภาพ (BSC)</p><p>6. คุณภาพของบุคลากร</p> <p>- การสร้างจิตสำนึก และเห็นความสำคัญของงานประกันคุณภาพ และทุกคนมีส่วนร่วม</p><p>- ความเข้าใจของงานประกันคุณภาพต่อบุคลากรคณะ</p><p>- ผู้ที่ให้ข้อมูลให้ข้อมูลที่ตรงตามจริงมากที่สุด และเน้นภาพรวมขององค์กร</p><p>- ความร่วมมือของบุคลากร</p><p>- ความร่วมมือของบุคลากรในคณะในการให้ข้อมูล</p><p>- ให้ความรู้และปลุกจิตสำนึกของบุคลากรในการทำงานประกันคุณภาพ</p><p>- การยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น</p><p>- ทัศนคติที่ดีของคนในองค์กร</p><p>- งานประกันคุณภาพทุกคนมีส่วนรับผิดชอบ</p><p>- ความรู้ความเข้าใจของบุคลากรในการประกันคุณภาพ</p><p>7. คุณภาพผู้ประเมินจาก ภายในและภายนอก</p> <p>- ผู้ประเมินให้กำลังใจ เสนอแนะในทางสร้างสรรค์ และมีความปรารถนาดี</p><p>8. ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบบฐานข้อมูล</p> <p>- เอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาจัดเก็บข้อมูล</p><p>- การจัดเก็บข้อมูลเอกสารประกันคุณภาพอย่างเป็นระบบ</p><p>- มีระบบจัดเก็บเอกสารที่ดี</p><p>- สร้างฐานข้อมูลของงานประกันคุณภาพ</p><p>9. คุณภาพของคู่มือประกันคุณภาพ และดัชนีชี้วัด</p> <p>- การจัดทำคู่มือประกันคุณภาพคณะ</p><p>- มีการจัดทำนิยามของตัวบ่งชี้</p><p>- การกำหนดดัชนีคุณภาพที่แสดงภารกิจของสถาบันอย่างแท้จริง</p>10. คุณภาพของ SAR <p>- มีการใช้แฟ้มสะสมงานในการประกอบการทำ SAR</p>
- การกลั่นกรอง SAR ร่วมกันในขั้นสุดท้าย
</font></strong><p>จะเห็นได้ว่า หลายๆ มหาวิทยาลัย เริ่มตื่นตัวที่จะ บูรณาการระบบประกันคุณภาพ กับการจัดการความรู้ กันแล้ว อย่ามัวชักช้านะค่ะ</p><p></p>